กกต. ถกคณะที่ปรึกษา กม. กรณีการออก พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง เตรียมสรุปเสนอที่ประชุม กกต. พิจารณาก่อนหารือรัฐบาล เลขา กกต. เผยความเห็นที่ปรึกษาฯ ไปในทิศทางเดียวกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ อีกด้านหนึ่ง เตรียมเสนอ 15 ว่าที่ กกต. กทม. ให้ กกต. กลางเลือก
วันนี้ (12 พ.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงาน กกต. แถลงภายหลังการประชุมนัดพิเศษระหว่าง กกต. กับคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายว่า การประชุมครั้งนี้มี กกต. 4 คนเข้าร่วม โดย นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวน ได้ลาประชุม โดยในประเด็นที่ กกต. ขอหารือว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการรักษาการร่าง พ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป ร่วมกับประธาน กกต. และมีอำนาจในการกำหนดวันเลือกตั้งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงเป็นผู้มีอำนาจในการทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโองการร่าง พ.ร.ฎ. ดังกล่าวนั้น กรรมการที่ปรึกษากฎหมายได้มีการอภิปรายแสดงความเห็นในข้อกฎหมายอย่างเป็นอิสระ โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่แตกต่างกันในข้อสังเกต ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าความเห็นไปในทางเดียวกันนั้นคืออะไร โดยหลังจากนี้ทางสำนักงานฯ ก็จะได้รวบรวมเพื่อเสนอต่อที่ประชุม กกต. พิจารณาในช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค. ก่อนที่ กกต. จะหารือกับรัฐบาลในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ส่วนประเด็นว่าในร่าง พ.ร.ฎ. ดังกล่าว กกต. จะสามารถให้มีการบรรจุถ้อยคำว่า หากมีเหตุจำเป็นฉุกเฉินให้รัฐบาลออก พ.ร.ฎ. เลื่อนวันเลือกตั้งตามที่ กกต. เสนอได้นั้น กรรมการที่ปรึกษากฎหมายก็ได้แสดงความเห็น มีทั้งเห็นว่าสามารถทำได้และไม่ได้ ซึ่ง กกต. ก็จะนำความเห็นดังกล่าวไปหารือกันอีกครั้ง ก่อนที่จะหารือกับรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ กกต. ได้รับแจ้งว่า นายนิวัฒน์ธำรง จะเดินทางมาหารือกับ กกต. ด้วยตนเอง พร้อมกับ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายวราเทพ รัตนากร รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็จะมีปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมคณะมาด้วย
ทั้งนี้ นายภุชงค์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ กปปส. เสนอประธานวุฒิสภาให้หารือร่วมกับประมุข 3 ศาลและประธาน กกต. เพื่อหาทางตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง ว่า ก่อนประชุม กกต. นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ได้ระบุว่า กกต. จะต้องคุยกับรัฐบาลในวันที่ 14 พ.ค. ส่วนหากมีการเชิญ หรือจะรับเชิญอย่างไร ต้องเป็นมติของ กกต. อีกครั้ง กกต. จะรับเชิญโดยไม่มีมติไม่ได้ ดังนั้น คงต้องดูความชัดเจนอีกครั้งว่า ที่จะเชิญนั้นเป็นการเชิญเพื่อไปทำอะไร เพราะแต่ละองค์กรก็มีหน้าที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ กกต. ต้องยึดถือเป็นหลักสำคัญคือเรื่องของความเป็นกลาง
ด้าน นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหา กกต. กทม. ชุดใหม่เพื่อทดแทนชุดเก่าที่จะหมดวาระในวันที่ 30 มิ.ย. เปิดเผยว่า หลักจากได้มีการเปิดรับสมัคร และเปิดให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ในวันนี้มีผู้มาแสดงวิสัยทัศจำนวน 40 คน จากผู้สมัครทั้งหมด 46 คน โดยมีผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติและไม่มาแสดงวิสัยทัศจำนวน 6 คน ซึ่งในการแสดงวิสัยทัศน์ช่วงเช้าและช่วงบ่ายเป็นการเปิดให้ผู้สมัครได้พูดถึงการทำงานหากได้รับการคัดเลือกเป็น กกต. กทม. จะทำอย่างไรให้การทำงานเป็นไปด้วยความสุจริตโปร่งใสและเที่ยงธรรม โดยให้แสดงวิสัยทัศคนละ 5 นาที ท่ามกลางคณะกรรมการสรรหาที่นำโดย นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะประธาน
นายวีระ กล่าวต่อว่า จากนั้นกรรมการสรรหาได้ประชุมลับเพื่อลงมติคัดเลือกให้เหลือจำนวน 15 คน ผลปรากฏดังต่อไปนี้ นายสมภพ ระงับทุกข์ นายบรรจง สุขดี นายวิชัย โถสุวรรณจินดา นายประวิช ศรีวิลัย พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ นายบัญญัติ ภิญโญ นายกระมล โอฬาระวัต พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ อิศรัตน์ นายชัยณรงค์ เทียนมงคล นายประวิง คชาชีวะนายชีวินรัฏฐ แก้ววัฒนะบวร พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ พล.อ.ต.อุทิศ ภาคภูมิ และ พล.ท.ศานิต สร้างสมวงษ์
นายวีระ กล่าวต่อว่า จะนำรายชื่อผู้สมัครทั้ง 46 คน เสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 14 พ.ค. โดยจะจัดทำบัญชีรายชื่อ 2 บัญชี บัญชีแรก 15 คน ที่กรรมการสรรหาได้คัดเลือก ส่วนอีกบัญชีเป็นผู้สมัครที่เหลือที่ไม่ได้รับการคัดเลือก โดยเมื่อ กกต. ได้รับแล้วก็จะตั้งกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้งก่อนคัดเลือกผู้สมัครที่ผ่านการสรรหาจำนวน 15 คน ให้เหลือ 5 คน ทั้งนี้ ในกระบวนการระหว่างรอให้ กกต. คัดเลือกสามารถคัดค้านได้ตลอดเวลา หากพบว่าผู้สมัครคนใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง