“สนธิ” ขึ้นเวทีกองทัพธรรม หน้า ททบ.5 หนุนมวลชนสู้เพื่อปฏิรูปประเทศ อย่าแค่ปฏิรูปการเมือง ปล่อยพวกโกงกินกลับมา ไม่เอานายกฯ คนกลางประนีประนอมคนชั่ว ย้ำทางออกเดียว ทหารต้องยึดอำนาจให้คนมีความรู้ความสามารถมาปฏิรูปประเทศ ไม่ใช้มาตรา 3 หรือ 7 ที่กดดันในหลวง
วันนี้ (9 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.14 น. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เวทีกองทัพธรรม หน้าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ว่า วันนี้ได้สั่งให้หยุดรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ทางเอเอสทีวี เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ประชาชนออกมา และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้โทรศัพท์ไปชวนให้มาขึ้นเวทีกองทัพธรรม ซึ่งตนไม่ขัดข้อง
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ยังมั่นใจว่าสิ้่งที่ตนเคยพูดไว้ไม่ผิด และจะใช้เวทีนี้พูดเหมือนเดิม เพราะเป็นการพูดความจริง การออกมาของพี่น้องครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ให้ประเทศชาติเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่จะจบได้ทหารต้องออกมาทำหน้าที่ เราต้องการให้ประเทศไทยเดินไปในรูปแบบไหน จะยกอุทาหรณ์สมัยรัชกาลที่ 5 สมัยก่อนคนไทยยังรับประทานอาหารด้วยมือ เมื่อพระองค์เสด็จประพาสยุโรป และเห็นว่าชาวยุโรปรับประทานอาหารด้วยช้อน มีด ส้อม เมื่อพระองค์กลับมาและต้องการให้คนไทยรับประทานอาหารด้วยเครื่องมือ พระองค์ท่านก็ประยุกต์ให้คนไทยใช้ช้อนตักอาหาร ไม่ใช้มีด หรือส้อมตัก เพราะนั่นคือฝรั่ง นี่คือการผสมผสานให้เข้ากับจริตของคนไทย ประชาธิปไตยก็เช่นเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่า ต้อง 1 คน 1 เสียง เพราะประชาธิปไตยคือการจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัว ให้ได้กันทุกฝ่าย ไม่ใช่ได้แค่นักการเมือง
นายสนธิ กล่าวว่า ที่พี่น้องออกมาสู้ในวันนี้ เราไม่ได้ต้องการปฏิรูปการเมือง แต่เราต้องการปฏิรูปประเทศเพื่อคนไทย 65 ล้านคน ไม่ใช่ปฏิรูปการเลือกตั้งให้โปร่งใส เพราะมันเป็นไปไม่ได้ อย่าสู้แค่ให้นักเลือกตั้งได้ วันนี้เป็นวันที่เรามาเรียกร้องให้นักการเมืองเสียสละ หยุดเล่นการเมืองไป 5 ปี ไม่ว่าหล่อไม่หล่อช่างมัน เราต้องทำให้คนไทย 65 ล้านคน ไม่ใช่ทำให้พรรคใดพรรคหนึ่ง ประเทศไทยวันนี้ยิ่งกว่าล่มสลาย ทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจ คดีทางสังคม ระดับศีลธรรมคุณธรรมอยู่ในขั้นฉิบหายแล้ว เราออกมาวันนี้ต้องมีเป้าที่ชัดเจนว่าจะทำเพื่อลูกเพื่อหลาน ให้เขารู้ว่าประเทศไทยขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นสงคราม 2 ฟาก สงครามระหว่างคุณงามความดี กับสิ่งที่ชั่วร้ายอย่างตระกูลชินวัตรทั้งหลาย
“เราอย่าหลงอะไรทั้งสิ้น เราอย่าเอานายกฯ คนกลาง กลางอะไรกัน วันนี้เราต้องสู้เพื่อให้ระบอบทักษิณระบอบชินวัตรที่มีแต่ความชั่วร้ายให้มันพังพินาศ อย่าให้กลับมาอีก นายกฯ จะมากลางได้ยังไง อย่าหลงประเด็น ต้องไม่ประนีประนอมทั้งสิ้น เราต้องเอานายกฯ ที่พร้อมฟาดฟันความชั่วร้ายให้มันพินาศ”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า อย่าไปหลงวาทกรรมว่าให้พักการเมือง 1 ปี แล้วปฏิรูป เราไม่ต้องการปฏิรูปการเมือง แต่เราต้องการไล่นักการเมือง ปฏิรูปการเมืองทำไมเพื่อให้พวกนี้กลับมากินบ้านกินเมืองอีก จะเอาหรือ เราต้องสามัคคี มีเอกภาพ เดินอย่างมีสติ อย่าหลงวาทกรรม อย่าท้อ อย่าเหนื่อย
“ผมบอกว่า เราไม่ได้แพ้ เราชนะอยู่แล้ว เวลาเป็นของเรา แต่ของพวกเขามันหมดแล้ว มันเป็นเรื่องของการดำน้ำ ว่าใครอึดกว่ากัน เพราฉะนั้น ท้อไม่ได้ อย่าท้อ ให้ระลึกเสมอว่า เมื่อเราเดินออกมาข้างนอกแล้ว เราต้องทำให้แต่ละส่วนแต่ละภาคกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ทหารต้องเป็นของจอมทัพไทย เป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ทหารของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือทหารของทักษิณ ชินวัตร ให้ทหารมีศักดิ์ศรี มีเกียรติยศ”
นายสนธิ กล่าวย้ำว่า เราต้องสู้โดยเอาชาติเป็นตัวตั้ง อย่าเอาปฏิรูปการเมืองเป็นตัวตั้ง ปฏิรูปการเมืองแล้วยังไง เราต้องท่องนะโมตลอดว่าไม่เอานักการเมือง ขอให้พวกมึงลงนรกไป อย่าลืมเป็นอันขาด
นายสนธิ กล่าวว่า ไม่เคยทิ้งพ่อแม่พี่น้องที่ออกมาต่อสู้ ยังสนับสนุนทุกคนและให้กำลังใจ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงแม้ตนจะไม่เห็นด้วยกับบางประเด็นเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ไม่เป็นไร เชื่อว่าวันหนึ่งความจริงจะพิสูจน์ว่าตนพูดไม่ผิด แต่ตนถือว่านายสุเทพเสียสละให้ชาติบ้านเมือง ต้องขอบคุณนายสุเทพต่อหน้าพี่น้องประชาชน แน่นอนการรบทัพจับศึก ยุทธวิธีของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน แต่เป้าหมายเหมือนกัน คือโค่นระบอบทักษิณ และต้องเอาประเทศไทยคืนมาให้คนไทย 65 ล้าน ไม่ใช่เอากลับมาให้นักการเมืองเหมือนเดิม
นายสนธิ กล่าวในตอนท้ายว่า การรัฐประหารไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ถ้ารัฐประหารแล้วเอาชาติบ้านเมืองมาเป็นสมบัติผลัดกันชม เหมือน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นั่นเป็นเรื่องที่ชั่วร้ายที่สุด แต่ถ้ารัฐประหารแล้วทหารถอยออกไป ให้ผู้มีความรู้ความสามารถมาเปลี่ยนแปลงชาติบ้านเมือง เพื่อคน 65 ล้านคน ก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นสิริมงคล ขอฝากไปถึงทหารที่ยังจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ วันนี้จะเป็นมาตรา 7 หรือมาตรา 3 ไม่ควรเอามาใช้ เพราะเมื่อเราเล่นมาตรานี้ เรากำลังกดดันพระเจ้าอยู่หัวให้ตัดสินใจเลือกข้าง พระองค์เลือกข้างไมไ่ด้ เพราะคน 65 ล้านคนล้วนเป็นพสกนิกร แต่ทหารเลือกข้างได้ ทหารต้องออกมาแล้วบอกว่าเราต้องไม่ทำให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
“เพราะฉะนั้นต้องมีกลุ่มทหารเดินไปประกาศตัวบอกว่าตระกูลชินวัตรออกไป หยุด ไม่ต้องใช้มาตรา 3 มาตรา 7 พวกผมจะจัดการเอง เราต้องไม่ใช้มาตรา 3 มาตรา 7 เพราะนั่นคือการกดดันพระเจ้าอยู่หัว ทหารต้องไม่ให้ใครมากดดันพระเจ้าอยู่หัว ทหารต้องทำเอง” นายสนธิ กล่าวในตอนท้าย
จากนั้น เมื่อเวลา 20.56 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ไปที่เวที กปปส. แจ้งวัฒนะ เพื่อกราบหลวงปู่พุทธะอิสระ และได้กล่าวปราศรัยด้วยว่า เป็นลูกศิษย์หลวงปู่พุทธะอิสระมานาน ตอนชุมนุม 193 วัน ท่านก็ช่วยเหลือการชุมนุมมาตลอด เพียงแต่ว่าช่วงหลังนี้ตนต้องดูแลเอเอสทีวีหนัก เพราะต้องเอเอสทีวีต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง อีกประการนึงคือไม่อยากมา เพราะจะกลายเป็นว่าสร้างความขัดแย้งให้นายสุเทพ เป็นการเตะตัดขาอีก เพราะหลวงปู่ก็มีจุดยืนหลายอย่างต่างจากนายสุเทพ เกิดเป็นสนธิลำบาก วันนี้ออกมาก็โดนด่า อยู่เฉยก็โดนด่า ไม่พูดก็โดนด่า พูดก็โดนด่า
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตนจะพูดไม่ต่างจากที่เวทีกองทัพธรรม เชื่อตน จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ทหารต้องเปลี่ยนแปลง โดยมีประชาชนหนุนหลังทหาร ไม่เชื่อตนไม่เป็นไรแต่คอยดูต่อไป ตนไม่เอาทั้งมาตรา 3 และ 7 เพราะเป็นการกดดันพระเจ้าอยู่หัว ที่ถูกต้องทหารต้องลุกขึ้นมาบอกว่าอย่าใช้มาตรา 3 และ 7 ทหารจะยึดอำนาจเอง ต้องใช้วิธีนี้ จะให้พระเจ้าอยู่หัวเลือกข้างได้อย่างไร
เป้าหมายต้องชัดเจน สู้ต้องมีสติตลอดเวลา อย่าหลงทาง ทหารที่ดีๆ มีเยอะ ที่ไม่อยากให้กดดันพระเจ้าอยู่หัว ต้องให้กำลังใจเขาให้ออกมา คนบางคนไม่ออกไม่เป็นไร ช่างมัน ไม่มีการปฏิวัติใดในโลกทำได้โดยไม่มีทหาร เลิกเพ้อฝันได้แล้ว ตนไม่อายที่จะพูดว่าให้ทหารออกมา เราต้องหาทางออกให้ตัวเอง รูปแบบประชาธิปไตยต้องเหมาะกับวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ ไม่เลียนแบบฝรั่งมาหมดแล้วสู้เพื่อการเลือกตั้งอย่างเดียว ประเทศไทยมีทรัพยากร แล้วทุกคนต้องได้ แต่ทุกวันนี้ได้เฉพาะนักการเมือง เราไม่ต้องการนายกฯคนกลาง เพื่อปฏิรูปการเมือง 1 ปี แล้วไปสู่การเลือกตั้ง แต่เราต้องการปฏิรูปประเทศ วันนี้ประเทศไทยล่มสลายหมด ทั้งศีลธรรม การศึกษา คุณธรรม เพราะฉะนั้นถ้าเราลุกขึ้นมาต่อสู้ให้ทุกคนทำหน้าที่ตัวเอง ปัญหาชาติจะไม่มี
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า อย่างที่ตนเคยบอกว่าให้อดทน วันนี้ประชาชนชนะแล้ว แต่ยังไม่ชนะน็อก จะน็อกได้ต้องใช้ทหารเท่านั้น มีทางเดียว และไม่ต้องเคอะเขิน คนที่บอกว่าทหารไม่ต้องออก ประชาชนปฏิวัติเอง นั่นเป็นการเพ้อฝัน โลกสวย การรัฐประหารไม่มีอะไรน่ากลัว ยึดอำนาจคนชั่วมาเพื่อให้สังคมเริ่มต้นใหม่ในทิศทางที่ดี เสียหายตรงไหน ไม่มีอะไรน่าอายเลย