xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” ฝันค้าง! กกต.ยังไม่ส่งร่าง พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง ปมเลื่อนวันลงคะแนน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. (ภาพจากแฟ้ม)
กกต. ยังไม่ส่งร่าง พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง อ้าง กกต.- รัฐ เห็นต่าง ปมเลื่อนวันเลือกตั้งได้ ใส่ไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกา ร่อนหนังสือขอประชุมถกอีกรอบ ชี้หากรับนัดเร็วไม่กระทบเลือกตั้ง 20 ก.ค. ด้าน “พงศ์เทพ” อ้างกฤษฎีกาค้านให้อำนาจ กกต. เลื่อนวันเลือกตั้ง ชี้นายกฯ มั่นใจสู้คดี ไม่จำเป็นต้องไปฟังคำตัดสินเอง

วันนี้ (6 พ.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุม กกต. กรณีการร่างพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไปว่า กกต. ได้ส่งหนังสือนัดเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเพื่อหารือเกี่ยวกับการออก พ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้งใหม่อีกรอบ เนื่องจากทางสำนักงาน กกต. และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังมีความเห็นต่างในร่าง พ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้งที่ กกต. ได้ยกร่างไป โดยหนังสือได้ออกจากสำนักงาน กกต. ถึงคณะรัฐมนตรีเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. แล้ว หากนายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะนัดเวลาและสถานที่ได้เร็วภายใน 3-5 วัน ก็ยังจะไม่กระทบต่อวันเลือกตั้งที่เคยตกลงร่วมกันไว้ คือวันที่ 20 ก.ค.

ทั้งนี้ นายภุชงค์ กล่าวว่า นับแต่วันที่ตกลงกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีบางส่วน ที่โรงเรียนนายเรืออากาศ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางสำนักงาน กกต. ก็ได้เริ่มประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เพื่อยกร่าง พ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้งฉบับใหม่มาตลอด แต่มีความเห็นที่แตกต่างกัน คือ กกต. เห็นว่าหากเกิดปัญหาและมีความจำเป็นให้สามารถเลื่อนวันเลือกตั้งได้ โดยควรมีการกำหนดถ้อยคำนี้ไว้ในร่าง พ.ร.ฎ. แก้ไขเพิ่มเติม เพราะกรณีดังกล่าวก็เคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญรองรับอยู่แล้ว แต่ทางสำนักงานกฤษฎีกามีความเห็นแย้งกลับมาว่า มีประเด็นปัญหาข้อกฎหมายว่าการกำหนดวันเลือกตั้งจะมอบอำนาจต่อไปได้หรือไม่ และจะเป็นการกระทำโดยไม่ใช่รูปแบบพระราชกฤษฎีกา รวมทั้งมีความเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยว่าเหตุของการให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งคือเหตุใด และการเลื่อนจะกระทำได้โดยพระราชกฤษฎีกา หรือประกาศของ กกต. ทาง กกต. จึงเห็นควรว่า กกต. และรัฐบาล ควรมีการประชุมหารือกันใหม่เพื่อให้เกิดความรอบคอบชัดเจนอีกครั้ง

สำหรับหนังสือที่ กกต. ทั้ง 5 คนลงนามและส่งไปยังรัฐบาลรวม 3 ข้อนั้น ประกอบด้วย 1. แม้ พ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้งจะไม่เคยมีแบบแผนการกำหนดแนวทางแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตมาก่อนก็ตาม แต่ กกต. เห็นว่าการตรา พ.ร.ฎ. เองก็ไม่เคยมีรูปแบบมาตรฐานว่าจะต้องมีเนื้อความอย่างไร การตรา พ.ร.ฎ. ขึ้นเพื่อการแก้ไขปัญหาของชาติที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ดังเคยมีตัวอย่าง พ.ร.ฎ. แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี 2549 ที่มีการกำหนดวันบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว 1 เดือน ซึ่งก็ไม่เคยมีแบบแผนมาก่อนเช่นเดียวกัน 2. จากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้ กกต. เคยเสนอนายกฯ ให้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปก่อน แต่นายกฯ และรัฐมนตรีหลายท่านเห็นว่าไม่สามารถเลื่อนได้ เพราะไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และบทบัญญัติของรัฐธรรมรองรับ แต่ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชี้ขาดให้ กกต. สามารถแจ้งให้นายกฯ หรือคณะรัฐมนตรีรับทราบเพื่อพิจารณาตรา พ.ร.ฎ. เลือกตั้งใหม่ได้ 3. กกต. เห็นว่าข้อบัญญัติที่ให้เพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นความพยายามแก้ไขปัญหาเดิมที่เคยเกิดขึ้น ไม่ได้คำนึงแต่แบบแผนและแนวทางการตรา พ.ร.ฎ. ตามปกติ เพราะ กกต. ต้องเป็นผู้รับผิดชอบการจัดการเลือกตั้งทั้งหมดภายหลังจาก พ.ร.ฎ. เลือกตั้งประกาศบังคับใช้ จึงต้องมีบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่ต้องเสียเปล่าอีก และสร้างความมั่นใจแก่ ครม. และ กกต. ว่าการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้จะชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และยังเป็นหลักประกันว่าการเลือกตั้งจะดำเนินไปได้อย่างแน่นอน

นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับหนังสือของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าเพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะขอชี้แจงแนวทางข้อเสนอทางออกประเทศนั้น ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของ กกต. เนื่องจากหนังสือเพิ่งจะมาถึงช่วงเย็น นอกจากนี้ยังปฏิเสธคำถามของสื่อที่ว่าเป็นการถ่วงเวลาเพื่อรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อสถานภาพนายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน กกต. เสนอไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ และกรอบเวลาของการเลือกตั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับประเด็นเลื่อนวันเลือกตั้งได้ ที่ กกต. ต้องการให้มีการบรรจุไว้ในร่าง พ.ร.ฎ. แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไปนั้น ในการหารือกับรัฐบาลเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา กกต. ก็ได้หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นหารือในที่ประชุม แต่ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลอ้างว่าเรื่องดังกล่าวเป็นพระราชอำนาจ ไม่อาจเขียนกำหนดไว้ในร่าง พ.ร.ฎ. โดยรัฐบาลได้พยายามที่จะตัดบท และให้ กกต. หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาในการที่จะยกร่าง พ.ร.ฎ. ขณะเดียวกัน ในการประชุม กกต. ก็ได้มีการถกเถียงประเด็นนี้กันค่อนข้างหนัก โดยฝ่ายกฎหมายของสำนักงาน กกต. บางส่วน ก็เห็นว่าไม่สามารถบรรจุข้อความดังกล่าวไว้ในร่าง พ.ร.ฎ. ได้ เนื่องจากการเลือนวันเลือกตั้งไม่มีกฎหมายใดรองรับ แม้จะมีคำวิวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่คำวินิจฉัยของศาลก็ไม่ได้อ้างข้อกฎหมายที่จะสามารถดำเนินการได้ เพียงแต่บอกให้ประธาน กกต. กับนายกฯ ไปตกลงกัน

อีกด้านหนึ่งที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้ง โดยอ้างว่าขอให้เติมบทบัญญัติมาตรา ในพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเกี่ยวกับการให้อำนาจ กกต. เพราะหากมีปัญหาก็สามารถเสนอวันเลือกตั้งใหม่ได้ แต่ทางกฤษฎีกา ได้บอกกับ กกต. และให้ความเห็นไปแล้วว่า อำนาจที่ออก พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง สามารถกำหนดได้เฉพาะวันเลือกตั้งเท่านั้น จะให้อะไรอำนาจนอกเหนือจากนี้ไม่ได้ ซึ่ง พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จึงไม่สามารถให้อำนาจ กกต.ได้ ทั้งนี้ อย่าพูดว่า กกต. มีความพยายามเตะถ่วง ไม่ให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ กกต. มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน หนังสือของ กกต. จะขอหารือกับนายกรัฐมนตรี ในแนวทางดังกล่าวอีกครั้ง โดยหนังสือได้ส่งถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ตอบกลับ หรือนำเข้าในที่ประชุม ครม. แต่ กกต. ยืนยันว่า ยังมีเวลาในการหารือ และทันกรอบเวลาเดิมในวันที่ 20 ก.ค. ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ให้นายกรัฐมนตรีผิด และมีเหตุให้คณะรัฐมนตรีพ้นทั้งคณะ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัย ซึ่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจในการสู้คดี

เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และมีรัฐบาลกลางเข้ามาแทนที่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ประชาชนรอคอยการเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และเดินไปตามครรลอง และไม่ว่าการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรก็ตามรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถือว่าเป็นรัฐบาลที่ประชาชนเห็นชอบ เมื่อถามว่า รัฐบาลจะหารือถึงหนังสือของ กกต. ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ว่าสะดวกเมื่อไร ส่วนจะตอบรับการหารือหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ว่าอ่านแล้วจะมีความเห็นอย่างไร สำหรับในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง สามารถมอบหมายให้ใครไปแทนก็ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น