ปชป.จี้ “ปู” ดู “แม้ว” เร่ร่อน อย่าฟังลิ่วล้อ ถามใจจะให้ตายกี่คน ปูด มีปล่อยรุกทุ่งสงวน

“ชวนนท์” ยกโอกาสสำคัญนายกฯ ตอบรับแผน หน.ปชป. เมินแก้ปัญหาทำนายได้ว่า รัฐหวังเผชิญหน้า มีใต้ดินรุนแรง จี้ใจดำจะปล่อยเด็กกำพร้า มีคนตายอีกกี่คน ย้อนถามแต่นายกฯ ไม่ใช่อย่าพูด ไม่แน่ใจนัดคุยได้ตลอด ไล่ดู “พี่แม้ว” เร่ร่อน อย่าเชื่อลิ่วล้อที่หวังแค่ประโยชน์ “จุฤทธิ์” หวังนายกฯเสียสละมองอนาคต อย่าฟัง รมต. ขี้ข้า ปูด รมว.ทรัพย์ ปล่อยเด็กนักการเมืองบุกรุกทุ่งสงวน

วันนี้ (4 พ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแผนเดินหน้าประเทศไทยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นโอกาสสำคัญที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเลือกทางเดินและอนาคตของตัวเองว่าจะจารึกชื่อในประวัติศาสตร์อย่างไร หากไม่มีความพยายามจากทุกฝ่ายร่วมแก้ปัญหา ก็ทำนายได้ว่าประเทศไทยจะเดินเข้าสู่อะไร ความขัดแย้งระหว่างมวลชน ความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการปราบปรามมวลชน และการที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย จัดกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน เข้ากรุงเทพฯเพื่อให้เกิดการเผชิญหน้า แสดงว่ารัฐบาลสนับสนุนให้เกิดความรุนแรง โดยเชื่อว่าจะมีการใช้เกมใต้ดิน อาวุธสงครามทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม จึงอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ใจของลูกผู้หญิงคิดว่าจะปล่อยให้มีเด็กกำพร้าเกิดขึ้นอีกกี่คน จะให้ประชาชนสังเวยชีวิตเพื่อรักษาอำนาจอีกกี่ราย เป็นเรื่องที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เลือกได้ เพราะไม่มีประเด็นไหนในข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ ที่อยู่นอกกรอบรัฐธรรมนูญ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ พูดชัดว่าไม่ฟังคำตอบจากใครทั้งสิ้น แต่จะฟังคำตอบจากนางสาวยิ่งลักษณ์เพียงคนเดียว จึงขอว่าถ้าไม่ใช่ชื่อยิ่งลักษณ์ไม่ต้องพูด เพราะไม่มีหน้าที่และนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ตั้งคำถาม แต่ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่แน่ใจก็นัดพบนายอภิสิทธิ์ได้ทุกเวลาว่าสามารถทำในสิบขั้นตอนที่เสนอได้หรือไม่ และนายอภิสิทธิ์มีความจริงใจอย่างไร นักกฎหมายของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาปฏิเสธได้รับผลประโยชน์จากการรับใช้ตระกูลชินวัตรมาอย่างต่อเนื่อง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายที่ต้องหนีไปต่างประเทศ จึงขอให้ดูสภาพพี่ชายของตัวเอง เพราะคนเหล่านี้หวังแค่อยู่ในอำนาจ แต่ไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีที่เกิดความสูญเสีย คนที่ต้องรับผิดชอบคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พิจารณาด้วยตัวเอง ถ้าจะหารือกับใครก็ควรจะปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ แบบพี่น้อง เพื่อตัดสินใจว่าจะนำประเทศไปสู่จุดอับเกิดการตาย ฉีกรัฐธรรมนูญ เผชิญหน้า ทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท หรือจะหยุดความสูญเสีย ปฏิรูปภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ไม่มีการปฏิวัติ ไม่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จากนั้นภายใน 5-6 เดือน นางสาวยิ่งลักษณ์ก็สามารถกลับมาทำงานการเมือง การเลือกตั้งเดินหน้าได้ ในขณะที่นายอภิสิทธิ์จะเว้นวรรคการเมืองอย่างน้อยสองปี ให้ถามใจตัวเองว่าจะเริ่มต้นแบบไหน จะประคับประคองแก้วิกฤตที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมก่อให้เกิดขึ้นหรือไม่

ส่วน นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนไทยอยากเห็นการเสียสละของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เหมือนที่นายอภิสิทธิ์ เสียสละจะเว้นวรรคการเมือง และมีข้อสังเกตว่าการผลักดันการเลือกตั้ง 20 ก.ค. 57 ว่า หากไม่สำเร็จจัดเลือกตั้งใหม่ก็จะใช้เวลาไปเรื่อยๆ แต่ประเทศหาทางออกไม่ได้ เป็นเรื่องที่นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องมองไปถึงอนาคตด้วย ต้องแก้ปัญหาระยะยาวไม่ใช่แก้เฉพาะหน้าแล้วสร้างปัญหาใหม่ ทั้งนี้ ความเสียสละมาพร้อมกับความกล้าหาญของนายอภิสิทธิ์และนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องไม่ฟังคนที่มีผลประโยชน์ เช่น นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ที่หวังเป็นนายกฯแทนนางสาวยิ่งลักษณ์ หรือนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการจัดหาแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เพราะถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสียสละจะหลุดตำแหน่งนายกฯ และจะกลายเป็นแกนนำกระเป๋าแบน ดังนั้นต้องตัดสินใจด้วยตัวเองเพื่อหาทางออกให้ประเทศไทย

นายจุฤทธิ์ กล่าวต่อว่า มีผู้ร้องเรียนว่าในช่วง ครม. รักษาการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เอาพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ที่ประชาชนร่วมกันใช้ประโยชน์ไปให้เอกชนเช่าใช้ โดยมีการทำแล้วที่จังหวัดศรีสะเกษ หรือราษีไศลโมเดล จัดสรรพื้นที่ให้เด็กนักการเมืองเช่าพื้นที่ โดยอ้างว่าประชาชนบุกรุกแล้วจึงเปิดให้เช่าดีกว่า และมีการนำโมเดลนี้ไปใช้ในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น กระบี่ พังงา ภูเก็ต มีข้าราชการเข้ามาจัดการพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์เพื่อนำไปให้เอกชนเช่าใช้พื้นที่เป็นความไม่ปกติ โดยมีการดำเนินการทางลับเจรจากับข้าราชการ สื่อมวลชนในพื้นที่ รวมไปถึงการเสนอผลประโยชน์ด้วย

“ผมถามว่าทำได้อย่างไร เพราะที่ดินนี้เป็นของประเทศไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง และขณะนี้อยู่ในช่วงรักษาการ ถามว่า นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรฯ ไปอยู่ไหน ครม. อนุญาตหรือไม่ ข้าราชการต้องช่วยดูแลไม่ให้มีการใช้ช่องว่างช่วงรักษาการเป็นประโยชน์กับพรรคพวกตัวเอง ทั้งนี้เห็นว่าการดำเนินการเรื่องนี้ต้องมีการจัดทำประชาพิจารณ์ด้วย” นายจุฤทธิ์ กล่าว