ทีมโฆษก ปชป.ตอกโฆษก พท.เลิกจินตนาการ ชี้ “มาร์ค-เทือก” ผิดจริงให้ยื่นหลักฐาน ป.ป.ช. ไล่ไปช่วยคดีโกงข้าว เตือนเดินสายหน่วยราชการขอหลักฐาน ส่อแทรกแซงการทำงาน ท้า “นช.แม้ว” วางมือการเมืองจริงเลิกตั้งวอร์รูม-ให้ยึด กม. อัดแหลพูดตั้งแต่ 51 ยังคุกคามไม่เลิก ปูดรัฐจงใจทำ 6 เรื่องก่อสงครามกลางเมือง เพื่อเอาตัวรอด ให้กำลังใจ “นพ.เหรียญทอง-ปลัด สธ.” เจอป่วน จี้รัฐเอี่ยว “แรมบ๊อง” หรือไม่ ชี้ฝีมือกลุ่มป่วนเดิมๆ
วันนี้ (22 เม.ย.) นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เร่งรัดให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินคดีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) รวม 7 คดีว่า ขอให้นายพร้อมพงศ์แยกให้ออกระหว่างจินตนาการกับความจริงเพราะการร้องเรียนเป็นเรื่องจินตนาการ คดีอาจไม่มีความผิด ไม่มีหลักฐานที่จะดำเนินการว่าบุคคลทั้งสองมีความผิด หรือการยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เพียงเพื่อใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องเตือนนายพร้อมพงศ์ให้หยุดสร้างภาพ เพราะหากมั่นใจว่านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพผิดจริงขอให้ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยนำหลักฐานให้นายพร้อมพงศ์ไปมอบให้ ป.ป.ช. เพราะสิ่งที่ทำมีแต่ประโยชน์ในการสร้างข่าวไม่ได้เป็นประโยชน์ในคดี หากนายพร้อมพงศ์มีเวลาว่างมากควรใช้เวลาในการช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแก้ต่างในคดีทุจริตจำนำข้าวจะดีกว่า
นายจุฤทธิ์ยังกล่าวเตือนนายพร้อมพงศ์ที่จะเดินสายไปยังหน่วยงานราชการ โดยอ้างว่าเพื่อขอหลักฐานเอาผิดกับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพว่า อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ จึงเตือนข้าราชการด้วยว่าอย่าไปให้ความร่วมมือสร้างเอกสารเท็จหรือเป็นเครื่องมือให้กับพรรคการเมือง
นายจุฤทธิ์กล่าวต่อถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่าจะวางมือทางการเมืองนั้น นายจุฤทธิ์ท้าว่า หากคิดวางมือทางการเมืองจริงต้องดำเนินการ 5 อย่าง คือ 1. เลิกตั้งวอลรูมที่ฮ่องกง 2. ให้มารับโทษ 3. ให้รัฐบาลยอมรับคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระ 4. ให้ประกาศให้พรรคเพื่อไทยและสมุนยอมรับคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระทุกองค์กร ทุกกรณี และ 5. ให้ล้มเลิกความคิดที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบปกติหรือรูปแบบจำแลงที่นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรมออกมาเสนอให้ขอพระบรมราชวินิจฉัยกลับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นความพยายามสร้างกระบวนการนิรโทษกรรมในรูปแบบใหม่อันเป็นการกระทำที่มิบังควร
ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพฤติกรรมรัฐบาลรักษาการในขณะนี้ว่า มีความจงใจ 6 เรื่อง คือ 1. จงใจใช้เสียงข้างมากทำผิดกฎหมาย 2. จงใจไม่เคารพองค์กรอิสระ ศาล ปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือ 3. จงใจคัดค้านต่อต้านคำตัดสินว่ารัฐบาลทำผิดกฎหมาย โดยมีขบวนการสอดรับกัน 4. จงใจไม่ยอมรับองค์กรอิสระ ศาล 5. จงใจใช้คนเสื้อแดงคุกคาม 6. จงใจให้เกิดการเผชิญหน้าเพื่อให้เกิดความรุนแรง จากความจงใจทั้ง 6 ประการนี้มีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดสงครามกลางเมืองเพื่อให้ตัวเองรอด แต่ประเทศชาติไม่รอด เป็นพฤติกรรมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบหากยังไม่หยุดพฤติกรรมเหล่านี้
น.ส.มัลลิกากล่าวว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจที่จะหาทางออกให้แก่ประเทศโดยดูได้จากพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ที่มีลักษณะหน้าไหว้หลังหลอก โดยเฉพาะกรณีที่บอกว่าจะวางมือทางการเมืองนั้นเป็นมุกเดิมๆ ที่พูดมาตั้งแต่ปี 51 แต่ไม่มีการดำเนินการจริง นอกจากนี้ยังมีการฝึกการ์ดโดยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นการข่มขู่องค์กรที่กำลังทำหน้าที่ และยังมีกิจกรรมของคนเสื้อแดงที่ออกแถลงการณ์ข่มขู่องค์กรอิสระและศาล รวมถึงกลุ่มฮาร์ดคอร์เสื้อแดงยังคุกคามคนเห็นต่างอย่างต่อเนื่องด้วย โดยทั้งหมดเป็นพฤติกรรมที่สอดรับกัน
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวให้กำลังใจ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ที่ถูกคุกคามหลังออกมาตั้งกองทุนกำจัดขยะแผ่นดินดำเนินการกับคนที่จาบจ้วงสถาบัน รวมถึงให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกปาระเบิดใส่บ้านพัก พร้อมกับตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่าความรุนแรงเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการฝึกการ์ดของนายสุภรณ์หรือไม่ และเกี่ยวพันกับอีกกว่า 30 คดีที่เกิดขึ้นในรอบห้าเดือนที่ผ่านมากับคนที่เห็นแตกต่างจากรัฐบาลหรือไม่ โดยเห็นว่าการที่คดีไม่คืบหน้าถือว่ารัฐบาลละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และฝากถามไปยังนางสาวยิ่งลักษณ์และครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะรู้สึกอย่างไรหากบ้านพักของตัวเองและคนที่ตัวเองรักโดนเอ็ม 79 ทั้งนี้เชื่อว่าหากมีการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ความสงบจะกลับมา ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ศอ.รส.ไม่ใช่การออกมาข่มขู่องค์กรอิสระ
“จากข้อมูลที่ได้มาเชื่อว่าผู้ก่อเหตุยิงเอ็ม 79 ใส่บ้านพักปลัดกระทรวงสาธารณสุขน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่บ้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ ศอ.รส.ตามตัวมาดำเนินคดีด้วย” น.ส.มัลลิกากล่าว