รองโฆษก ปชป.หวังปลัดกระทรวงหารือร่วมแสดงบทบาทในฐานะข้าของแผ่นดิน บอยคอตรัฐบาลเถื่อน เหน็บ พท.ก้าวไม่ข้ามกระเป๋าเงิน “นช.แม้ว” ท้า “ปู-จารุพงศ์” ห้ามลิ่วล้อพบ “ทักษิณ” เตือนโฆษก พท.อย่าใช้พรรคเล็กเป็นนอมินีดันเลือกตั้ง จะซ้ำรอยโมฆะอีกรอบ แนะสังคมอย่าลงเกมรัฐบาล ยกจำนวนแดงตัดสินถูก ผิด “ยิ่งลักษณ์” หยุดเมษาเดือด ประกาศยอมรับผลตัดสิน ป.ป.ช.-ศาล รธน.
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ คาดหวังว่าปลัดกระทรวงทุกกระทรวงจะตั้งหลักหารือร่วมกันว่าจะแสดงบทบาทในฐานะเป็นข้าของแผ่นดินอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติในภาวะที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังเข้าสู่จุดเสื่อมของอำนาจจากการกระทำผิดกฎหมาย จึงขอให้กำลังใจข้าราชการทุกคนให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ยังได้รับคำร้องเรียนจากข้าราชการจำนวนมากที่แสดงความไม่สบายใจเนื่องจากถูกนักการเมืองนำตัวไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ การหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณของพรรคเพื่อไทยและคนในรัฐบาลสะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ จึงขอเรียกร้องให้แกนนำพรรคเพื่อไทยมีสติ ลุกขึ้นมาออกจากวิกฤตไม่ให้เกิดความขัดแย้งในชาติจากปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ก้าวไม่ข้ามกระเป๋าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ต้องเดินทางไปดูภายในกระเป๋าของ พ.ต.ท.ทักษิณทุกครั้ง ดังนั้นหากอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ให้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศห้ามสมาชิกพรรคไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ประกาศห้าม ครม. ข้าราชการไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงจะถือว่าก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณได้
นายจุฤทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่าอีก 52 พรรคการเมืองเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยที่ต้องการให้กำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็วว่า ทำให้เห็นว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเพราะเกือบสิบปีที่แล้วในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีการใช้พรรคเล็กมาเป็นนอมินีจนทำให้การเลือกตั้งเกิดปัญหามาแล้ว อีกทั้งข้อสรุปจาก 53 พรรคการเมืองรวมพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องการพิจารณาการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 ซึ่งในขณะนี้เป็นโมฆะไปแล้ว บทสรุปดังกล่าวจึงไม่มีความหมายแล้วซึ่งพรรคการเมืองอื่นอาจมีความเห็นที่แตกต่างออกไปหลังจากที่สถานการณ์มีความเปลี่ยนแปลง นายพร้อมพงศ์จึงไม่ควรอ้างความเห็นของอีก 52 พรรคการเมืองมาเป็นของพรรคเพื่อไทยได้
“อย่าเอาปริมาณมวลชนคนเสื้อแดงมาตัดสินถูก-ผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีทุจริตจำนำข้าวและคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานภาพความเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระไม่ใช่การใช้จำนวนคนมาตัดสิน จึงขอให้สังคมอย่าหลงเกมที่รัฐบาลสร้างขึ้น และเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ประกาศยอมรับการชี้มูลของ ป.ป.ช.และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหยุดความรุนแรงที่อาจทำให้เดือนเมษายนกลายเป็นเมษาเลือด ทั้งนี้ยังขอฝากไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายเหมือนที่ออกมาพูด โดยให้น้องสาวและผู้สนับสนุนรัฐบาลยอมรับกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมซึ่งจะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบได้”
