xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.แนะ กกต.ถ่ายสดถก 73 พรรค จี้ “นช.แม้ว” เคารพ กม. ชาติสงบแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
โฆษกประชาธิปัตย์ย้ำพรรคร่วมประชุม กกต.ต้องพาคนตัดสินใจร่วมวง แนะถ่ายสดด้วย จี้เพื่อไทยเริ่มยอมรับผิด หากทำได้การเมืองดีขึ้น ยันไม่ร่วมรัฐบาลคนกลาง วอน “ยิ่งลักษณ์” เจรจา “สุเทพ” จวก ศอ.รส.เลือกข้างปกป้องแต่แดง หยัน “คำรณวิทย์” สลอนจับ “โกตี๋-ตั้ง” กลัวตกกระแส สอน “ทักษิณ” เคารพกฎหมายก่อน ชาติสงบแน่ “จุฤทธิ์” แขวะ “นิคม” กลัวถูกลงโทษ



วันนี้ (15 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่าการหารือที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะเป็นเจ้าภาพในการประชุมพรรคการเมืองในวันที่ 22 เม.ย. 57 นั้น ตัวแทนต้องเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจอย่างแท้จริง และควรมีการถ่ายทอดสดเพื่อให้ประชาชนได้เห็นมุมมองพรรคการเมืองในการแก้ปัญหา อีกทั้งยังทำให้ประชาชนได้เห็นต้นตอของปัญหา เพื่อร่วมหาทางออกที่เป็นรูปธรรมให้แก่ประเทศ ดังนั้นหาก กกต.เห็นด้วยแม้จะไม่มีอำนาจในการให้ทีวีถ่ายทอดสดก็สามารถทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถานีโทรทัศน์ได้

นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาการจัดประชุมของ กกต.หลายครั้ง พรรคเพื่อไทยและพรรคเล็กมีธงในการเข้าร่วมประชุม ไม่ส่งผู้มีอำนาจตัดสินใจ แต่เป็นการส่งคนไปแจ้งวัตถุประสงค์ของพรรคเพื่อไทยให้ที่ประชุมทราบ คือให้มีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด จึงเป็นเพียงแค่การแจ้งความต้องการของพรรคเพื่อไทยให้ที่ประชุมทราบเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นประโยชน์สำหรับการหารือ ดังนั้น การหารือต้องมีวัตถุประสงค์ว่าทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเกิดได้ ไม่ใช่ถามว่าจะเลือกตั้งวันไหน เนื่องจากต้องไปทีละขั้นตอน การกำหนดวันเลือกตั้งเลยไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าหารือว่าทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเกิดพรรคก็ยินดีให้ความร่วมมือ เนื่องจากวิกฤตของประเทศเกิดจากพรรคเพื่อไทยจึงต้องยอมรับความผิดพลาด หากต้องการให้ประเทศหลุดพ้นความขัดแย้งต้องยอมรับผิด สร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าการเลือกตั้งจะเป็นคำตอบ หากทำได้เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะดีขึ้นหลังวันที่ 22 เม.ย. แต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็ไม่ต้องนัดประชุมให้พรรคเพื่อไทยประกาศเลยว่าจะทำอะไร

นายชวนนท์ยังกล่าวด้วยว่า ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เข้าร่วมกับรัฐบาลคนกลางไม่ว่าจะมาจากการแต่งตั้งของใครก็แล้วแต่ โดยพรรคจะยึดมั่นในครรลองที่ถูกต้อง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องแก้ปัญหาเอง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเสียสละบทบาทของตัวเองหาทางออกด้วยการเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. อย่าทำให้หนทางชาติตีบตันมากขึ้น เพราะเป็นผู้ก่อต้องเป็นผู้แก้ อย่าโยนบาปให้พรรคประชาธิปัตย์หรือคนอื่นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลกรรมที่ตัวเองก่อไว้ทั้งสิ้น จึงต้องคิดว่าจะเป็นส่วนร่วมในการแก้ปัญหา หรือเป็นตัวปัญหาของชาติ

นายชวนนท์กล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่าหากมีการพูดคุยจะทำให้มวลชนของสองฝ่ายได้รับฟังแนวคิดของแต่ละฝ่าย ซึ่งจะลดอารมณ์มวลชนได้ ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้คนเสื้อแดงเป็นเหยื่อทางการเมืองอีกหรือไม่ เพราะมีความพยายามหยิบยกเงื่อนไขการตัดสินของ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้คนเสื้อแดงเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นการใช้มวลชนเป็นเครื่องมือข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ เพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยหลอกใช้ประชาชนมาเป็นเครื่องมือต่อรองกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์พ้นผิด จึงอยากเตือนคนเสื้อแดงว่าอย่าหลงเชื่อคนเหล่านี้จนถูกหลอกมาตายเหมือนปี 2553

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการยิงเอ็ม 79 เข้าบ้านนายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.เป็นครั้งที่ 4 และยังมีการลอบยิงการ์ด กปปส.เสียชีวิตว่า มีคดีเกิดขึ้นกับประชาชนจำนวนมากแต่ไม่มีการจับกุมกระทำความผิดได้ ทำให้เห็นว่าผู้มีอำนาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้มวลชนเกิดความโกรธเกลียดแตกแยกเพิ่มเติมมากขึ้น จึงขอเรียกร้องว่า ศอ.รส.ทำประโยชน์อะไรบ้างเพราเลือกปฏิบัติประกาศตนเป็นศัตรูกับประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยรักษาความปลอดภัยให้เฉพาะรัฐบาลและคนเสื้อแดงเท่านั้น หากดำเนินการเช่นนี้การเลือกตั้งไม่มีทางเกิดขึ้นได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องเร่งรัดให้มีการจับกุมคนทำผิดมาดำเนินคดี

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน.ระบุจะเร่งจับกุมตัว นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ และนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ นั้นนายชวนนท์ กล่าวว่า เป็นพฤติกรรมที่กลัวหลุดกระแสจึงออกมาขย้ำสองคนนี้ อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผบช.น.มีความใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและนายตำรวจใหญ่ คนเหล่านี้ไม่มีศักยภาพหนีไปไหนได้หากไม่มีคนมีอำนาจให้ความร่วมมือในการช่วยหลบหนี

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สไกป์อยากให้บ้านเมืองสงบว่า พ.ต.ท.ทักษิณสามารถทำได้ทันทีด้วยการเคารพกฎหมายประเทศไทย และให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เคารพกฎหมายบ้านเมืองจึงจะสงบ แต่การระบุว่าจะมาไทยให้ประชาชนรดน้ำนั้นแสดงว่ายังต้องการให้มีการนิรโทษกรรมอยู่ตลอดเวลา จึงเชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยมีอำนาจก็จะกลับมาผลักดันเรื่องนี้อีก ปัญหาทั้งหมดจึงเกิดจากคนคนหนึ่งที่ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมจนบ้านเมืองวุ่นวาย

ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวท้าไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า หากอยากให้กฎหมายเป็นกฎหมายให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาแสดงความเคารพคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ด้วยการเดินทางมาเข้าคุก ไม่ใช่ทำกฎหมายเป็นกฎแม้ว เลือกยอมรับเฉพาะที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นหากต้องการให้กฎหมายเป็นกฎหมายก็ขอให้เดินทางกลับมาประเทศไทยในวันพรุ่งนี้เลย

นายจุฤทธิ์กล่าวตอบโต้นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ที่ออกมาให้ความเห็นว่าไม่สามารถเปิดประชุมวุฒิสภาได้เพื่อดำเนินการถอดถอนว่า ขณะนี้เกิดสุญญากาศ ไม่มีทั้งประธานรัฐสภาและประธานวุฒิสภา เพราะถูกชี้มูลความผิดให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น รองประธานวุฒิสภาจึงสามารถทำหน้าที่แทนได้ การอ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 173 ว่าไม่มีประธานรัฐสภาและประธานวุฒิสภาทำอะไรไม่ได้นั้น เป็นแค่คำกล่าวอ้างที่หวังว่าหากมีสภาใหม่ตัวเองอาจหลุดคดีพร้อมกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และอาจพ่วง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังถูก ป.ป.ช.ไต่สวนในคดีทุจริตจำนำข้าวด้วย ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่านายนิคมเป็นถึงประธานวุฒิสภาทำไมจึงกลัววุฒิสภาชุดที่ตัวเองเป็นประธาน หรือเป็นเพราะกลัวพวกตัวเองลงโทษ ทั้งนี้ยังเห็นว่านายนิคมไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ความเห็นได้เพราะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และหมดความน่าเชื่อถือจากพฤติกรรมการละเมิดรัฐธรรมนูญไปแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น