“คุณหญิงกัลยา” เผยลงเก็บข้อมูลอีสานเพื่อปฏิรูปยั่งยืน วาง 5 เรื่อง เชื่อได้ ส.ส.เพิ่ม เหตุเบื่อประชานิยมมุ่งประโยชน์การเมือง “ชวนนท์” ตอก “นช.แม้ว” ต้นตอปัญหา แปลกใจกล้าพูด กม.ไม่เป็น กม. ฉะยกสงครามกลางเมืองรวันดา หวังขู่หากไม่ก้มหัว ไล่ให้ของขวัญคนไทยบอก “น้องปู” เคารพ กม. ปูด “โกตี๋” ผู้มีบารมีอีสานอุ้มอยู่ ถึงเวลา ตร.แสดงตัวพิทักษ์สถาบัน ขอเป็นคดีรื้อฟื้นผังล้มเจ้า “จุฤทธิ์” ชี้เจ้าตัวรู้ซึ้งถูกตัดหาง
วันนี้ (13 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคภาคอีสานและหัวหน้าคณะประสานมวลชนพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนและคณะทำงานลงพื้นที่ภาคอีสานในหลายจังหวัดอย่างต่อเนื่องเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนสนทนากับนักการเมืองท้องถิ่นหลายจังหวัด ในระดับ อบจ. เทศบาล และอบต. ถึงการแก้ปัญหาจากการที่มีกลุ่มบุคคลปลุกปั่น ปลุกระดมถึงขนาดตั้งกองกำลังขึ้นในภาคอีสาน อีกทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำ เพื่อเก็บข้อมูลนำไปเป็นฐานข้อมูลในการปฏิรูปอีสานอย่างยั่งยืนต่อไป รวมถึงได้หารือเรื่องการกระจายและคืนอำนาจแก่ท้องถิ่น ทั้งด้านโครงสร้างและงบประมาณด้วย
คุณหญิงกัลยากล่าวอีกว่า โดยสรุปเบื้องต้นพรรคยืนยัน ถึงจุดยืนนโยบายในการกระจายอำนาจและคืนอำนาจแก่ท้องถิ่น 5 ปฏิรูป คือ 1. ปฏิรูปโครงสร้างการนำงบประมาณถึงท้องถิ่นโดยตรงอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้จากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 2. ปฏิรูปกระจายงบประมาณ 35% ลงท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรมตามรัฐธรรมนูญ 3. ปฏิรูปจัดโครงสร้างให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดตามความพร้อมในแต่ละจังหวัด 4. ปฏิรูปจัดตั้งในรูปแบบจังหวัดจัดการตนเอง และ 5. ปฏิรูปความเหลื่อมล้ำ การขาดแคลนทางทรัพยากรร่วมกับท้องถิ่นในการบริหารจัดการน้ำชุมชนตามแนวทางพระราชดำริ (แก้มลิง) ทั่วประเทศ
“มั่นใจว่าพรรคฯ จะได้จำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีความเชื่อมั่นและความมุ่งมั่นในพี่น้องเลือดอีสานว่า วันนี้คงเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศของเราจากผลกระทบในนโยบายประชานิยมที่มุ่งแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองไร้ความยั่งยืน คณะทำงานฯจะเดินสายเชิญชวนชาวอีสานมากอบกู้ประเทศด้วยกันอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อให้อีสานกลับมาร่มเย็นและไม่จน ไม่เจ็บ และเข้าถึงข้อมูลอยู่ร่วมกันอย่างไมตรี สามัคคีภายใต้พระบรมโพธิสมภาร” คุณหญิงกัลยากล่าว
ส่วนนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเหตุที่บ้านเมืองวุ่นวายเพราะกติกาไม่เป็นกติกา กฎหมายไม่เป็นกฎหมายว่า เป็นการสะท้อนตัวตนและรากเหง้าของปัญหาในประเทศไทย เพราะข้อเท็จจริง ปัญหาที่เกิดขึ้นในตั้งแต่ ปี 2548-2557 ตัว พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว ได้ทั้งชื่อเสียง ทรัพย์สิน และเงินทองจากประเทศไทย กฎหมายของประเทศไทย ต้นตอปัญหาเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรับกฎหมายไทย จะเลือกกฎหมายเฉพาะที่ตัวเองได้ประโยชน์
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า จึงแปลกใจว่าเหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณพูดเรื่องนี้ออกมาได้ ทั้งที่ทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรม โดยความพยายามจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมความผิดเหมาเข่ง ที่น่าเสียใจคือ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าเป็นห่วงว่าจะมีการปลุกระดมจนมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เหมือนประเทศรวันดาในแอฟริกา จึงขอให้ทบทวนพฤติกรรมของตัวเอง เพราะประเทศไทยขณะนี้ มีขบวนการในการลดความน่าเชื่อถือ จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง และไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้จะกล้ามาทำ ถ้าไม่มีคนสนับสนุน การอ้างถึงประเทศรวันดา กำลังจะสื่อความหมายว่าถ้ากฎหมายไทยยังไม่ยอมก้มหัวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ประเทศไทยจะเป็นอย่างรวันดาหรือไม่ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณจะสั่งให้มีสงครามกลางเมืองหรือ
“จึงอยากขอของขวัญให้คนไทยจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าหยุดทำลายประเทศไทย และสั่งให้น้องสาวคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคารพกฎหมายไทย แค่นี้ประเทศไทยก็สงบแล้ว” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายชวนนท์ยังกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้รับรายงานข่าวล่าสุดเกี่ยวกับนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ว่ายังอยู่ภายในประเทศไทย แต่อยู่ภายใต้ผู้มีบารมีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แกนนำคนเสื้อแดง ถึงเวลาแล้วที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้พิสูจน์ตัวเองว่าจะก้มหัวให้กับการเมืองหรือมวลชนข้างถนน หรือจะแสดงบทบาทการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ พิทักษ์สถาบัน เพราะถ้าตำรวจออกแรงอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะสามารถดำเนินคดีกับนายโกตี๋ และนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ได้อย่างแน่นอน และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปถามนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถึงแผนล้มเจ้า เนื่องจากนายธาริตมีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี เพราะอยากให้ใช้คดีนายโกตี๋ เป็นจุดเริ่มต้นของการรื้อฟื้นผังล้มเจ้า เนื่องจากเห็นความเชื่อมโยงของกลุ่มต่างๆในซีกนักการเมืองพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก กรณีนี้ก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ทำให้ความขัดแย้งยังคงอยู่ในประเทศ
ขณะที่นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เชื่อว่าขณะนี้นายโกตี๋จะเห็นสัจธรรมแล้วว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร เพราะไม่ได้อยู่ในข่ายเสร็จนาฆ่าโคศึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล แต่เหมือนถูกตัดหางปล่อยวัด เนื่องจากนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุแล้วว่า หากคลิปดังกล่าวนายโกตี๋พูดจริงก็ต้องรับผิดชอบเอง ดังนั้นจึงอยากฝากไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงว่าถ้าพลาดวันใดก็จะโดนเหมือนนายโกตี๋ แต่หากสมประโยชน์ก็จะได้รับทรัพย์สิน เงินทอง และตำแหน่ง ดังนั้น ขอฝากไปยังพรรคเพื่อไทยหากสนับสนุนการปกป้องสถาบันจริงก็ขอให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสที่หลบซ่อนของนายโกตี๋ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย