"สนธิ" คาด "มาร์ค" รับไม่ได้มวลชนไปอยู่กับ "สุเทพ" จำนวนมาก เชื่อ "ประยุทธ์" ประกาศหนุนเลือกตั้งเป็นจุดเปลี่ยนทำให้หัวหน้าพรรค ปชป.สะเออะเดินสายหาทางออกประเทศ แนะถ้าฉลาดรีบกลับตัวแถลงหนุน "กำนัน" ทุกประการ พร้อมระบุทางออกประเทศต้องรัฐประหาร ขจัดระบอบทักษิณจริงจัง และปฏิรูปทุกเรื่อง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ”
วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ทางเอเอสทีวี ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคนรักเยอะเพราะภาพพจน์ดี หน้าตาดี มีเสน่ห์ แต่ตั้งแต่ดูมาเป็นคนพูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่ฟันธงเรื่องจุดยืน เป็นคนไม่มีหลัก และบ้าเลือกตั้ง มีความเชื่อเหมือน นายชวน หลีกภัย ว่าต้องรักษาประชาธิปไตยไว้ด้วยการเลือกตั้ง ส่วนเนื้อหาไม่สนใจ นอกจากนี้ยังมีลักษณะการฉกฉวยโอกาสเจ้าเล่ห์แสนกล ตอนพันธมิตรฯสู้ 193 วัน แกสนับสนุนเต็มที่ แต่พอวันที่เราไปสนามบิน แล้วเริ่มมีคนวิจารณ์ แกก็ชิ่งว่าไม่เห็นด้วยกับการปิดสนามบิน เป็นนักการเมืองที่ตีกินมาตลอดชีวิต
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าสาเหตุที่นายอภิสิทธิ์ต้องเดินสายหาทางออกประเทศ เนื่องจากมวลชนไปอยู่กับนายสุเทพจำนวนมาก ทั้งๆที่ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรค จึงรับไม่ได้ แต่จะไปเป็นแกนนำแบบนายสุเทพก็ทำไม่ได้ ตอนที่ไม่ลงเลือกตั้งก่อนหน้านี้ก็เพราะไม่กล้าฝืนกระแส แต่จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่ นายประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ลั่นวาจาว่าเลิกคิดได้แล้วมาตรา 7 และไล่ให้ไปเลือกตั้ง พอนายอภิสิทธิ์เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่เอาด้วย ก็เลยเห็นด้วย เพราะเคยชินกับการตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
น่าสนใจอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณษิณ ชินวัตร มีเป้าอยู่ที่การเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์คือนักเลือกตั้งตัวจริง พล.อ.ประยุทธ์ก็อยากให้มีเลือกตั้ง จะได้เกษียณไปใช้เงินใช้ทองสบาย เมื่อสามฝ่ายเห็นต้องกัน ถ้าตนเป็นพ.ต.ท.ทักษิณคงบอกพล.อ.ประยุทธ์ให้ไปบอกประชาธิปัตย์ให้ลงเลือกตั้ง แล้วจะยอมไม่เป็นรัฐบาล ให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณอ่านนายอภิสิทธิ์ทะลุ เขาเคยบอกว่านายอภิสิทธิ์เป็นแค่เด็กไม่รู้เรื่อง ขอแค่ของเล่นก็พอใจสนุกกับของเล่นแล้ว ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไปพูดกับนายอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ต้องคิด นี่คือข้อสมติฐานของตน
นายสนธิ กล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์เข้าใจแต่แกล้งโง่ รู้ว่าประชาชนต่อสู้เพื่อล้มระบอบทักษิณ ไม่ได้สู้เพื่อให้ประชาธิปัตย์ไปเป็นรัฐบาล และไม่ได้จะหานายกฯคนกลาง ยิ่งนานวัน พ.ต.ท.ทักษิณยิ่งเสียเปรียบ แล้วถึงที่สุดมีดจะไปจ่อคอ พล.อ.ประยุทธ์ หากศาลรัฐธรรมนูญและ ป.ป.ช. ชี้มูลน.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้วยังนิ่งเฉย ตนถึงบอกนายสุเทพว่าอย่าท้อ
นายสนธิ ยังกล่าวด้วยว่า ทางออกอของประเทศไทยต้องยึดอำนาจรัฐประหารและปฏิวัติ การยึดอำนาจไม่มีทางเลือกต้องใช้กำลัง แล้วต้องหาคนที่พร้อมจะปฏิรูปทุกด้านเข้ามา ประเทศไทยมีสองเรื่องที่ต้องทำ คือ 1.ต้องจัดการระบอบทักษิณให้เด็ดขาด 2.หลังจากเมื่อเอาระบอบทักษิณอยู่หมัดต้องปฏิรูปหลายทาง ทั้งการศึกษา ตำรวจ คุณภาพคน ฯลฯ
พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนที่โชคดีตลอด เพราะไม่เคยเจอใครที่มีอำนาจรัฐแล้วสู้กับเขาจริงๆ แม้แต่รัฐประหารปี 49 ก็แอบจับมือกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พอยุคนายอภิสิทธิ์ก็ไปฟังนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และด้วยความอยากเท่ เลยเจรจากับเสื้อแดง ทั้งที่ความจริงแล้วตั้งแต่วันที่เสื้อแดงพังการประชุมอาเซียน วันนั้นมีความชอบธรรมเต็มที่ในการปราบเสื้อแดงได้เลย แต่ก็ไม่ทำ อนาคตทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ไม่มีเหลือแล้ว
ถ้าคนมีอำนาจตั้งใจสู้กับพ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ พ.ต.ท.ทักษิณจะน้ำตาไหล แล้วรีบส่งคนมาเจรจาทันที ยังไม่มีใครรุกไปยังต่างประเทศ เช่นการยกเรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณฆ่าชาวมุสลิมจากเหตุการณ์กรือเซะ ตากใบ เอาเรื่องนี้ไปฟ้องผู้นำมุสลิมทั่วโลก พ.ต.ท.ทักษิณก็อยู่ดูไบไม่ได้ ถ้าไปสิงคโปร์ อินโดฯ มาเลเซีย ก็ไปบอกประเทศเหล่านั้นว่าพ.ต.ท.ทักษิณคืออาชญากร เป็นกบฎแผ่นดิน ถ้าให้เขาอยู่ในประเทศแสดงว่าจงใจเป็นศัตรูกับประเทศไทย และเรียกทูตกลับ บินไปอังกฤษก็ไปบอกอังกฤษต่อ ให้อยู่ได้เฉพาะมอนเตรเนโกร
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า อย่ารังเกียจการรัฐประหาร ถ้ามันทำให้การเมืองดีขึ้น ดีกว่าปล่อยไปเป็นเผด็จการรัฐสภา เหมือนอย่างโปรตุเกสที่ทหารปฏิวัติจนการเมืองดีขึ้น แต่ต้องเป็นทหารที่ดี ส่วนทหารที่อ้างว่าต้องทำตามกฎหมายนั้นเป็นทหารที่บัดซบ แกล้งโง่ มีผลประโยชน์ ทุกวันนี้ยังดูไม่ออกหรือว่ารัฐบาลทำผิดกฎหมายอะไรบ้าง
ส่วนวันที่ 14 พ.ค.นี้ นัดชุมนุมใหญ่ คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย คงต้องสู้ต่อ แต่ตนขอเตือนให้มวลชนมมามากคราวนี้ทำอะไรต้องให้ชัดเจน ตนไม่รู้ความคิดนายสุเทพ แต่ถ้าเป็นตนจะบอกให้ประชาชนทั้งหมดให้อดทน พ.ต.ท.ทักษิณแพ้เรื่องเงื่อนเวลา เขาไม่มีเวลาเหลือแล้ว สมมมติศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. ชี้มูลมา แล้วน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ทำตาม ยิ่งเพิ่มความชอบธรรมให้ประชาชนรุกพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องเกรงใจใครแล้ว
นายสนธิ ยังกล่าวแนะนำนายอภิสิทธิ์ด้วยว่า ถ้าไม่รีบกลับตัวมายืนข้างนายสุเทพ แสดงว่าเจตจำนงแท้จริงต้องการทำลายนายสุเทพ เพื่อแย่งมวลชนกลับไปเป็นของตัวเอง วันนี้ถ้าฉลาดต้องประกาศว่าเห็นด้วยกับนายสุเทพทุกประการ ยังทัน อย่าช้า
คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 2 พ.ค. 2557
รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2557 เวลา 20.00-22.30 น. ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ นายเติมศักดิ์ จารุปราณ ร่วมดำเนินรายการ
จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ วันนี้สัปดาห์ที่ 3 แล้ว ที่รายการกลับมาเป็นปกติ ที่หลายคนเฝ้ารอกันมา 5-6 เดือน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ทำเอาฮือฮากันไปพอสมควร ระเบิดลงหลายลูกนะคะ สัปดาห์นี้มีต่อหรือไม่ต้องติดตามกับเจ้าของรายการ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล สวัสดีค่ะ
สนธิ - สวัสดีครับคุณแอน ว่าผมไปปล่อยระเบิด ปัดโธ่เอ๊ย
จินดารัตน์ - คือแอนวัดจากความรู้สึกคนดูนะคะคุณสนธิ ทั้งพี่น้องพันธมิตรฯ ที่มา วันเสาร์ เอเอสทีวีช็อปเนืองแน่นไปด้วยพี่น้องพันธมิตรฯ ด้วยคำพูดนั้นล่ะค่ะ ว่า ถ้าไม่อยากบริจาค ก็ไม่ต้องบริจาค ผมไม่ใช่ขอทาน พี่น้องเลยมาช่วยกันใหญ่เลยค่ะ คุณสนธิ
สนธิ - ผมไม่ใช่คนที่ก้าวร้าว หรือว่าหยิ่งยโส แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำ พ่อแม่พี่น้องรู้ว่าผมเสียสละทุกอย่าง ทำเพื่อให้เอเอสทีวีเป็นสื่อมวลชนสื่อเดียว ผมยืนยันว่าสื่อเดียว ที่กล้าพูดความจริง ที่คนอื่นพูดบ้างไม่พูดบ้าง พูดเมื่อมีผลประโยชน์เข้าตัวเอง ไม่พูดเมื่อผลประโยชน์ตัวเองต้องเสีย เพราะฉะนั้นเมื่อมันเป็นเช่นนี้แล้ว และผมก็เสียสละทั้งเงินทั้งทอง ทรัพย์สินสมบัติส่วนตัวของผม จากที่มีมากมายจนกระทั่งจะไม่มีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อพี่น้องให้ความเมตตา สนับสนุนอยากให้เอเอสทีวีอยู่ต่อ เมื่ออยากให้อยู่ต่อแล้ว ผมก็กราบมาที่แทบเท้าขอบพระคุณ แต่ว่าถ้าพี่น้องบางคนมีความรู้สึกว่า จะสนับสนุนแล้วต้องเป็นหนี้บุญคุณกัน เป็นหนี้บุญคุณในเชิงที่ว่า จะไปพูดจาถึงคนที่เขารักเขาชอบไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องให้มา เพราะผมไม่ใช่ขอทาน นั่นคือประเด็นหลัก เพราะฉะนั้นแล้ว ผมใช้หลักอนิจจังง่ายๆ ทุกอย่างมีการเปลี่ยนไปไม่อยู่ที่ อย่างที่ผมพูด ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ไม่ต้องอยู่ ผมไม่ยึดติดอะไรเลย ผมสบายใจ ถ้าไม่มีเงินทำต่อพี่น้องไม่ให้ คนที่อยากให้เห็นทีวีแบบนี้มี แล้วไม่ต้องการให้ก็ไม่เป็นไร ก็กลับไปสู่พวกช่องทั่วๆ ไป ที่มี ถ้าอยากไปดูช่องที่มีทีวีเคเบิลซึ่งอิงพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไปดูบลูสกาย ก็ไม่ได้ว่าอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าอยากดูอะไรที่เป็นของจริง เป็นของที่มันถูกต้อง และไม่เกรงไม่กลัวอะไร ก็มี เอเอสทีวีเจ้าเดียว อยากเก็บรักษาไว้หรือเปล่า ถ้าอยากเก็บรักษาไว้ช่วยกัน ถ้าไม่อยากเก็บรักษาไว้ไม่เป็นไร ผมทำเท่าที่กำลังจะสู้ได้ แต่ถ้าหมดเมื่อไรก็หมดเมื่อนั้น ก็จบ ไม่ติดใจ การพูดของผมอาทิตย์ที่แล้ว ไม่ได้เป็นการท้าทาย แต่เป็นการพูดสัจธรรม คำถามว่า พี่น้องคนไหนรับได้หรือเปล่า ถ้ารับได้ก็รับ ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ
จินดารัตน์ - คือพี่น้องเขาบอกว่า จริงๆ เขาก็ยอมรับนะว่า 5-6 เดือน ที่ผ่านมา ไปร่วมชุมนุมกับ กปปส. บางทีก็ลืมนึกถึง เอเอสทีวีไป ก็เลยพอคุณสนธิกลับมา เลยรู้สึกว่า บ้านหลังเก่าที่เราเคยอยู่ด้วยกัน ยังอยู่นะ และต้องการคนดูแลเลยมาช่วยกันซื้อของกันใหญ่เลยค่ะ
สนธิ - แน่นเอี้ยดเลยใช่ไหม ผมไม่รู้เลย
จินดารัตน์ - แน่นช็อปเลยเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และเสาร์-อาทิตย์นี้บอกข่าวดีพ่อแม่พี่น้องที่ร่วมกันสนับสนุนเอเอสทีวีนะคะ เราจะมีงานครบรอบ 12 ปี โครงการผู้จัดการสุขภาพค่ะ คุณสนธิ ในงานนี้จะเริ่มตั้งแต่ 10 โมงถึง 5 โมงเย็นที่บ้านเจ้าพระยานี้ จะมีผู้ประกอบการมาออกบูธโดยตรง มาขายของราคาพิเศษให้ ลดราคากันสนั่นลั่นทุ่งกันทีเดียว ถ้ามาก็มาช่วยกันอุดหนุนนะคะ จะมีเรื่องการขายของอาหารที่เกี่ยวกับสุขภาพส่วนใหญ่ เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องพรุ่งนี้กับมะรืนนี้นะคะ 10 โมงถึง 5 โมงเย็น และมีงานดีๆ
อีกงานหนึ่งที่พยายามช่วยกันหารายได้ให้เอเอสทีวีนะคะ เป็นคอนเสิร์ตใจประสานใจครั้งที่ 4 มีแค่ศิลปิน 3 คน ที่เราดูแล้วแหม.. สนุกสนานทุกครั้งที่ได้เจอทั้ง 3 ท่านนี้ ครั้งนี้เต็มอิ่มกับทั้ง 3 ท่าน ปานเทพ พงษ์พัวพันธ์ นัดดา วิยกาญจน์ และอาจารย์ปกรณ์ 3 ท่านนี้จะมาเล่นคอนเสิร์ตเต็มอิ่มนะคะ เขาบอกว่าบรรยากาศกรุงเทพฯ สมัยก่อนนะคะ คุณสนธิ พลาดไม่ได้ ถ้าจะซื้อบัตรสามารถโทรศัพท์ไปซื้อได้ที่คุณเนาวรัตน์ 089-893-2089 หรือ 02 เป็นไทยทิคเก็ตเมเจอร์นะคะ 02-262-3456 แต่ว่าพรุ่งนี้กับมะรืนนี้ 09.00-12.00 น. ทางเจ้าหน้าที่จะเอาบัตรคอนเสิร์ตนี้มาจำหน่ายที่บ้านเจ้าพระยาด้วย
สนธิ - งานนี้จัด แอนเชื่อไหม ผมไม่รู้เลยนะ เพิ่งจะรู้จากแอนเลยว่าพรุ่งนี้มีงาน
จินดารัตน์ - พรุ่งนี้กับมะรืนนี้ค่ะ เชิญชวนนะคะ พ่อแม่พี่น้องถ้าอยากให้ ASTV อยู่ได้ก็ช่วยกัน เราขายของมีคุณภาพนะคะ เพื่อสุขภาพพ่อแม่พี่น้อง
สนธิ - ขายของเพื่อสุขภาพ แล้วก็ไม่เอาสารเคมี เราเริ่มจากดินขึ้นไป คือปุ๋ยขวัญดิน ของลุงจำลอง ลุงจำลองฝากบอกมา ผมโทรคุยกับลุงจำลอง ลุงจำลองบอกว่าเออ ลุงสนธิ มีพันธมิตรฯ เขาถามผม เป็นห่วงผม บอกว่าผมเป็นอัมพาตไปแล้วหรือ ข่าวลือมันเยอะ เผอิญผมรับปากกับลุงจำลอง บอกว่า อาทิตย์นี้จะเอาคลิปจะส่งคนไปถ่ายวิดีโอ ให้ท่านผู้ชมได้เห็นว่า ลุงจำลองเป็นอย่างไร เผอิญทำไม่ทัน ขอติดไว้เป็นอาทิตย์หน้าแล้วกัน ศุกร์หน้านี้เดี๋ยวจะส่งทีมไปคุยกับลุงจำลองอย่างเป็นกันเอง สัก 5 นาที ให้รู้ว่าลุงจำลองยังแข็งแรงอยู่ แต่ลุงจำลองมีภารกิจเยอะมากตอนนี้ แล้วท่านหายดีแล้วนะครับ แข็งเเรงเหมือนเดิม ยังคล่องแคล่วว่องไวเหมือนเดิม
จินดารัตน์ - เขาบอกว่าตอนเช้านี้ ออกกำลังกาย เดินวิ่งได้เป็น 10 กิโลฯ เลยค่ะ เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าลุงแกมีเงื่อนไข เดินทางไปไหนมาไหนนิดหนึ่ง รอฟังจากลุงเองดีกว่านะคะ เพราะหลายคนโทรศัพท์มาถามว่าลุงหายไปไหน อยากให้รายการลุงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ก็วันพรุ่งนี้กับมะรืนนี้นะคะ ที่สำคัญน้ำมันมะพร้าวค่ะ สกัดเย็น 2 ขวด แถม Cooking Oil 1 ขวด มีจำนวนจำกัดนะคะ นี่แอนเพิ่งไปดูมา ที่ช็อปเขาเพิ่งเอาของมาลง ก็ใครมาที่งานก็สามารถหาซื้อกันได้ค่ะ
ก่อนที่เราจะไปดูเรื่องการเมืองไทยที่ร้อนระอุ และเรื่องเครื่องบินของมาเลเซียที่คุณสนธิติดค้างเอาไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แอนขออนุญาตไปที่เกาหลีใต้นิดหนึ่ง
สนธิ - ได้
จินดารัตน์ - เหตุเรือเฟอร์รี่ล่มเมื่อประมาณกลางเดือนที่ผ่านมา เขาบอกว่า เหตุการณ์นี้มันบอกคุณธรรม จริยธรรม นักการเมือง ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบได้เยอะทีเดียว อยากให้คุณสนธิลองเปรียบเทียบ หรือเล่าที่มาที่ไปให้ฟังนิดหนึ่งค่ะว่า ทำไมเกาหลีใต้ถึงเป็นอย่างวันนี้ได้ ที่นายกฯ ประกาศลาออก
สนธิ - ผมคิดว่าไม่ใช่เกาหลีใต้ มันเป็นที่ญี่ปุ่นด้วย เกาหลี และก็โยงไปถึงไต้หวัน และฮ่องกงบางส่วน ถึงแม้ว่าจะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนเกาหลี หรือญี่ปุ่น ผมคิดว่าโดยพื้นฐานแล้ว เขาได้พื้นฐานมาจากหลักปรัชญาการสอนของลัทธิขงจื๊อ หลายพันปีมาแล้ว พูดง่ายๆ ว่ามีความละอายในสิ่งที่ตัวเองทำ เมื่อละอายแล้วก็ต้องแสดงอะไรออก เพื่อลดความละอายลงไป เราจะเห็นได้ชัดว่า ในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นของเกาหลี หรือของจีน หรือของญี่ปุ่น คนไหนก็ตามทำผิด ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีชื่อมีเสียง มีตำแหน่งแห่งที่แล้ว คือสมัยก่อนเขามีจักรพรรดิ เขามีกษัตริย์ ใครก็ตามที่ทำผิดต่อกฎมณเฑียรบาล หรือทำผิดต่อกษัตริย์ ทำผิดต่อชาติบ้านเมือง จะมาขอโทษกษัตริย์จักรพรรดิ และบอกว่าข้าพระพุทธเจ้ายินดีตาย ข้าเจ้าสมควรตาย โปรดตัดหัวข้าพระพุทธเจ้า เป็นอย่างนี้จริงๆ นะครับ
เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ว่า เราเคยดูภาพยนตร์ตลอดเวลา เราจะเห็นว่าพอห้องเต็ม ทำงานอะไรแล้วเสนาบดีทำไม่ถูกต้อง ทำผิด จะคุกเข่าเลย ข้าพระพุทธเจ้ายอมรับผิด พระองค์ท่านจะสั่งประหารชีวิต ขุนนางก็มาขอชีวิตกัน ขุนนางมาขอชีวิตบอกคนนี้มีบุญคุณอย่างโน้นนี่นั่น ฮ่องเต้บอกไม่ประหารชีวิตเนรเทศไป ปลดจากแม่ทัพไปเป็นทหารเลว ไปเลี้ยงม้าที่คอกม้า ขุนพลซึ่งทำผิดไว้ก็โค้งคำนับกราบบอก เป็นพระมหากรุณาธิคุณ ข้าพระพุทธเจ้าจะตั้งใจทำดีเพื่อราชวงศ์ เพื่อกษัตริย์ เพื่อประเทศชาติ มันฝังลงไปในชีวิตจิตใจของเขา ผมว่ามันฝังจนกระทั่งมันค่อยๆ สืบเนื่องมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งมาถึงยุคที่มันทันสมัยยุคนี้ ยุคเฟซบุ๊ก ยุคโน้นยุคนี่แต่ว่าความรู้สึกที่รับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ และความรู้สึกกลัวในชั่วในบาปมันยังมีอยู่ แล้วเขาก็มีเรื่องราวตำนานซึ่งพูดกันมาตั้งนาน และเขาไม่เคยลืมกัน อย่างที่ญี่ปุ่นจะมีตำนานเรื่องหนึ่งคือ 47 โรนิน 47 Ronin โรนินคือใคร คืออดีตซามูไร ซามูไรต้องมีหัวหน้า มีเจ้าเมือง มีเจ้าสำนักอะไรทำนองนี้ ถ้าหัวหน้าตาย เจ้าเมืองตาย โรนินไม่มีที่อยู่ กลายเป็น ซามูไรไร้หัว เขาเลยเรียกว่า โรนิน ทีนี้รู้สึกจะเป็นเจ้าเมือง หรือเจ้าของปราสาท ซึ่งถูกศัตรูฆ่าตาย พอฆ่าตายแล้วพวกซามูไร ซึ่งเป็นอยู่ภายใต้เจ้าเมืองคนนี้ 47 คน เลยกลายเป็นโรนิน กลายเป็นคนไม่มีที่อยู่ ไม่มีศักดิ์ศรี คือสมัยก่อน เหมือนแอน เหมือนคนสมัยนี้ บอก แอนอยู่ไหน บอกอยู่เอเอสทีวี
จินดารัตน์ - แบบมีสังกัด
สนธิ - แบบมีสังกัด และสมัยก่อนมันแรงมาก แบบมีสังกัดแบบนี้ แต่พอมายุคนั้น ไม่มีสังกัดแล้ว มันเลยแค้น 47 โรนิน เลยรวมตัวกัน เพื่ออะไร ล้างแค้นให้นายตัวเอง เพราะเจ้านายตัวเองโดนโชกุนฆ่า ปรากฏว่ามันก็วางแผน โชกุนจะเดินทางมาทางนี้ มันวางแผน และทุกคนตัดสินใจเด็ดขาดว่า สู้ครั้งนี้ จะไม่ยอมมีชีวิตรอดออกไป
จินดารัตน์ - คือพลีชีพ
สนธิ - พลีชีพเลย 47 คน ตรงนี้มันแรงมาก แต่มันแสดงให้เห็นถึงคุณธรรมที่เขารักเจ้านายเขา การที่เขารักเจ้านายเขา มันสะท้อนออกไปถึง ถ้าเขาทำไรผิด เขารู้เขาผิด เขายอมรับผิด ตรงนี้เลยพอมาถึงการเมืองยุคใหม่ ทั้งเกาหลี ทั้งญี่ปุ่น กลายเป็นว่าแสดงความรับผิดชอบว่า ถ้าผิดแล้ว ถึงแม้ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ แต่ตัวเองเป็นคนรับผิดชอบ ตัวเองรับผิดชอบแล้วตัวเองจะต้องแสดงออกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าเราอ่านหนังสือเก่าๆ ตำนานเก่าๆ ในญี่ปุ่น ในเกาหลี หรือในจีน เราจะเห็นได้ว่า ลูกน้องใครก็ตาม ทหารระดับล่าง ถ้าทำผิดแล้ว แม่ทัพจะยอมรับผิดเลย
จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ ถึงแม้ตัวเองจะไม่ ...
สนธิ - ถ้าเป็นในลักษณะซึ่งยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหารชาติทำให้บ้านเมืองเสียหาย 5-6 แสนล้านบาท เรื่องข้าวเนี่ย เขาต้องตัดคอแล้วนะ ยิ่งลักษณ์นี่ถ้าเป็นญี่ปุ่นนะ สมัยก่อน ต้องกระทำที่เขาเรียกว่า เซ็ปปุกุ
จินดารัตน์ - ทำยังไงคะ
สนธิ - เซ็ปปุกุ ไง คุกเข่า นั่งแบบนี้ เอาผ้าพัน ซามูไรแทงท้อง กัดฟันแล้วก็คว้าน หมุนเลย แล้วก็ตาย นี่คือเซ็ปปุกุ แต่แทนที่จะเซ็ปปุกุตัวเอง ยิ่งลักษณ์และตระกูลชินวัตรกลับทำให้คนไทยต้องคว้านท้องตัวเอง กลับทำให้ชาวนาซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องผูกคอตาย มันเป็นความหน้าด้าน ที่สุดๆ ของความหน้าด้าน ซึ่งหาไม่ได้แล้ว แล้วถ้าตำนานนี้เอาไปเล่าให้คนญี่ปุ่น หรือคนเกาหลีฟังนะ เขาจะหัวเราะเยาะคนไทยมาก
จินดารัตน์ - เขาบอกว่าช่วงที่นายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ไปตรวจดูสถานที่เกิดเหตุเรือล่ม โดนชาวบ้านเอาของขว้างปา
สนธิ - เอาขวดน้ำขว้าง จนกระทั่งนายกรัฐมนตรีทนไม่ได้ ผู้ช่วยครูผูกคอตาย เขาทนไม่ได้ที่ลูกศิษย์ตัวเองต้องตายไป แล้วพูดว่า ชีวิตตัวเองอยู่ไปจะมีความหมายอะไร ไม่เหมือนครูในไทย ที่ทำผิด ลูบขาอ่อนเด็ก ข่มขืนเด็ก ขายของให้เด็ก เอาเงินเอาทองเด็ก ให้เด็กไปเอาเงินทองพ่อแม่มา ครูบางคนขายประกันชีวิต คือเมืองไทยนี่นะ แอน เดี๋ยวเราโยงกลับไปตอน 2 ตอน 3 เมืองไทยมันต้องปฏิวัติมันอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้
จินดารัตน์ - ปฏิรูปไม่ได้ใช่ไหมคะ
สนธิ - ไม่ได้ และไอ้นักการเมืองสถุนๆ ทุกวันนี้ ที่สู้กันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะหล่อหรือไม่หล่อนี่นะ ปัญหาของชาติบ้านเมืองทั้งนั้น บ้านเมืองทุกวันที่มันฉิบหายก็เพราะว่า ไอ้นักการเมืองพวกนี้ทั้งสิ้นเลย พวกนี้จริงๆ บ้านเมืองผมยืนยัน บ้านเมืองฉิบหายกันอยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะไอ้นักการเมืองสถุนๆ แถบจะทุกคน 99.99%
จินดารัตน์ - แอนคิดถึงชื่อรายการหนึ่งค่ะ กำจัดจุดอ่อนค่ะ เราต้องกำจัดของพวกนี้ใช่ไหมคะ มันคือจุดอ่อนของประเทศ
สนธิ - อันนี้เขาไม่ได้เรียกจุดอ่อนแล้ว เขาเรียกจุดฉิบหาย แอนพูดจาให้เกียรติเขามากเกินไป ไอ้พวกนักการเมืองพวกนี้มันโสโครกมาก ผมเห็นหน้ามันในที่สาธารณะ ผมอยากจะถุยน้ำลายใส่หน้ามัน ให้พวกคุณรู้ด้วยไอ้พวกนักการเมืองทั้งหลาย ผมไม่เคยชอบพวกคุณ และทีหลังเห็นหน้าผมในที่สาธารณะอย่าเสือกมาทักผม
จินดารัตน์ - มีคนมาทักด้วยหรอ
สนธิ - โอ้ยเยอะ พี่ครับอย่างโน้นอย่างนี้ แหมผม.. มึงไปไกลๆ ในใจผมมึงไปไกลๆ ตีนกูเลย
จินดารัตน์ - เขาก็ช่างกล้านะคะ พวกนี้ทำได้ทุกอย่าง
สนธิ - แล้วลูกหลานพวกนี้นะ เอาเงินเอาทองที่พ่อแม่มัน โคตรเหง้ามันโกงชาติโกงบ้านโกงเมือง เอามาซื้อรถราคาคันละ 10 กว่าล้านบ้าง เอาไปกินเหล้ากินยาไปผับบ้าง ไปเที่ยวต่างประเทศผมเจอบ่อย เจอแม้กระทั่งไปญี่ปุ่นคราวที่แล้ว ก็ยังเจอลูกนักการเมืองหลายคน โอ้ยคุยโม้เรื่องนักการเมือง ผมนี่ถ้าไม่เกรงใจคนไปด้วย ผมจะเอาส้นตีนผมถีบมันซักที
จินดารัตน์ - ยังน้อยไปใช่ไหมคะ
สนธิ - ยังน้อยไป
จินดารัตน์ - พูดถึงนักการเมือง แล้วไปพูดถึงเรื่องการโกง การกระทำของพ่อแม่ โยงใยถึงลูก แม้จะไม่มีชีวิตแล้วก็ตาม คำสั่งศาลปกครอง
สนธิ - อ่อ ลุงหมักเหรอ
จินดารัตน์ - ให้ทายาทคุณสมัคร สุนทรเวช และคุณประชา มาลีนนท์ ต้องชดใช้ค่าเสียหาย กรณีโกงจัดซื้อเรือรถดับเพลิง 587 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 47 แอนไปลองคำนวณดูแล้ว 10 ปีที่ผ่านมา จะต้องจ่ายเบ็ดเสร็จต่อครอบครัว 1,028 ล้านบาท โดยประมาณ แต่เขาบอกว่า เขาจะอุทธรณ์ เพราะทางทนายความเขาบอกเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมรดก ที่ต้องยื่นฟ้องศาล ฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง ศาลปกครองไม่มีสิทธิสั่ง แต่อันนี้ก็มันก็บอกได้
สนธิ - คืองี้ คือแอน ไอ้ปฏิรูปการเมือง ให้นักการเมืองมาปฏิรูป มันไม่ได้ทำอะไรหรอก นอกจากปกป้องตัวมันเอง ก่อนมันจะปฏิรูปอะไรก็ตาม เดี๋ยวเราจะพูดเรื่องนี้กัน ผมถามนักการเมืองที่นั่งอยู่ เชิดหน้าชูตาอยู่ ที่พยายามจะกลับไปเป็นรัฐมนตรีรัฐบาล ผมจะถามคนอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา ผมจะถามคนอย่าง เสนาะ เทียนทอง คนอย่างสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ซึ่งทุกคนอ้างปากน้ำลายไหลว่า ทำงานเพื่อชาติ ผมอยากถามพวกนี้นิดนึง คุณเห็นด้วยกับผมไหมว่า คดีฉ้อราษฎร์บังหลวง คดีคอร์รัปชั่นเนี้ยะ ไม่ควรมีอายุความ มันจะใบ้แดกเลยไอ้พวกห่านี่ เพราะอย่างสุวัจน์นี่ก็เพิ่งหมดอายุความ คดีคลองด่านเพิ่งหมดอายุความไป เสนาะ เทียนทอง คดีที่ดินอัลไพน์ ก็หมดอายุไป ผมนี่บนบานว่ากล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ชาติบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง แล้วคดีความพวกนี้ไม่หมดอายุความ ดีอีกอย่างคดีคลองด่าน คุณสุวัจน์ต้องมาพิสูจน์ ให้กับศาลเห็น ให้เห็นชัดเจนเลย ว่าคุณผิดหรือเปล่า เพื่อความแฟร์ไง เขาไม่ได้ลงโทษคุณเขาให้คุณไปสู้ในคดี นี่เล่นใช้กติกาหมดอายุความก็มาว่า
จินดารัตน์ - และจะให้นักการเมืองปฏิรูปได้อย่างไรนะคะ
สนธิ - นักการเมืองปฏิรูปนักการเมืองไม่ได้หรอก ไม่มีทาง
จินดารัตน์ - วันนี้รอนะคะ เดี๋ยวมีจัดหนัก เบรกที่ 2 คุณเติมศักดิ์มาแล้วนะคะ เดี๋ยวแอนขออนุญาตพักก่อน ช่วงหน้ากลับมาเต็มเหนี่ยวเลยนะคะ
แต่ก่อนที่จะพักกันแอนมีเรื่องของสุขภาพเช่นเคย ก่อนเข้าโฆษณาเบรกแรก อ.ปานเทพ จะมาเล่าเรื่องสุขภาพให้ฟัง สัปดาห์นี้น่าสนใจค่ะ คุณผู้ชมกินพาราเซตามอลกินเป็นนิสัยหรือเปล่า
สนธิ - ผมไม่ได้กินมา 20 ปี แล้ว พาราเซตามอลแอนตี้ไบโอติก ไปอ่านเลย เพราะพาราเซตามอลในความรู้สึกของผม เดี๋ยวให้ อ.ปานเทพ ขยายความ เป็นยาที่ทำลายร่างกายคน กัดกระเพาะ
จินดารัตน์ - แต่คนรู้สึกอย่างนี้ค่ะคุณสนธิ เป็นยาที่กินง่ายที่สุด แล้วเหมือนจะมีโทษน้อยที่สุด เข้าใจผิดค่ะ ต้องฟัง อ.ปานเทพ ไปฟังกันค่ะ
ช่วงที่ 2
จินดารัตน์ - กลับมาช่วงที่ 2 รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ คุณเติมศักดิ์มาแล้วนะคะ
เติมศักดิ์ - สวัสดีครับ คุณสนธิ
จินดารัตน์ - วันนี้มาพร้อมกับใจจดจ่อหลายเรื่องใช่มั้ยคะ
เติมศักดิ - มาฟังชำแหละพวกนักการเมืองเก่า นักเลือกตั้ง อีกครั้งหนึ่ง
จินดารัตน์ - โปรยๆ ไว้บ้างนิดหน่อย โปรยตะปูเรือใบไว้บ้างแล้วตอนต้นรายการ แอนขออนุญาตนิดหนึ่งนะคะ คนถามมาเยอะ ว่าที่วิ่งกันอยู่ 2 ตัวนี้ ชื่ออะไร พันธุ์อะไร มีคนถามเข้ามาในเฟซบุ๊กด้วยนะคะคุณสนธิ
สนธิ - มันเป็นหมาญี่ปุ่น พันธุ์ชิบะ ชิบะ ที่เราเคยดูหนังฝรั่ง ที่ริชาร์ด เกียร์ เล่น เรื่องฮาชิ ฮาชินั่นเป็นพันธุ์อากิตะ ชิบะ เป็นอีกพันธุ์หนึ่ง ตัวจะเล็กกว่าอากิตะครึ่งหนึ่ง
จินดารัตน์ - แต่หน้าตาคล้ายๆ กัน
สนธิ - หน้าตาคล้ายๆ กัน เพราะว่ามันมีส่วนผสมของหมาป่า หมาป่าและหมาจิ้งจอก ปากจะแหลม แล้วผมเป็นคนที่ชอบหมามาก แต่ก่อนผมมีโกลเด้นรีทรีฟเวอร์อยู่ 6 ตัว ตายไปแล้ว 5 แก่ตาย เหลืออยู่ตัวก็ใกล้ตาย นั่นคือที่มาของการเอาแมวมาเลี้ยง ผมเป็นคนชอบสัตว์เลี้ยง เอาแมวมาเลี้ยง เอามาแรกๆ ก็มีแฮปปี้ แล้วค่อยเอากงลี่มา แมวพันธุ์เปอร์เซียแท้ แต่แฮปปี้ก็คืนเขาไป คืนคุณหมอซึ่งเขาเป็นคนขายมาให้ เพราะแฮปปี้เป็นแมวเกเรนะครับ ทีนี้กงลี่ก็ไม่ได้เกเรอะไร ตอนหลังแฮปปี้ไปก็มีอีกตัวหนึ่งมาที่เหมือนเสือ
จินดารัตน์ - อั่งเปา
สนธิ - อั่งเปานะครับ ทีนี้ไม่รู้คือ ตัวผมโดยพื้นฐานแล้ว จริงๆ แล้วชอบแมวชอบหมา แต่ไม่ถูกโฉลกกับแมวนะครับ และผมก็อยากจะได้หมา เพราะว่าหมาตัวสุดท้ายชื่อ แสนดีก็ใกล้ตายแล้ว
จินดารัตน์ - แก่มากแล้ว
สนธิ - แก่มากแล้ว เดินแทบจะไม่ไหว ผมเป็นคนชอบหมามาก เลยตัดสินใจหาหมามาแทน เลยได้ 2 ตัวนี้มานะครับ พันธุ์ชิบะเลยตัดสินใจว่า เอาอย่างนี้ดีกว่าเลี้ยงหมาอย่างเดียว เลยเรียกคุณหมอฝน ซึ่งเป็นสัตวแพทย์คืนไปให้ พอคืนไปให้แล้วเลยเหลือ 2 ตัวนี้ไว้ ไอ้ 2 ตัวนี้มา ตัวผู้ ผมเลยตั้งชื่อว่า อาเบะ คือชื่อนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ส่วนตัวเมียชื่อ โยโกะ เป็นนางเอกหนังเอวีของญี่ปุ่น ก็เลยกลายเป็น ชิบะ
จินดารัตน์ - เดี๋ยวก่อนนะคะ โยโกะ คุณสนธิไม่ได้ตั้งเองใช่ไหมคะ มีคนตั้งให้หรือเปล่าคะ
สนธิ - มีคนตั้งให้
จินดารัตน์ - ว่าแล้วเชียว โห นางเอกหนังเอวีด้วย
สนธิ - ก็คงพอจะเดาออก คนไหนตั้งให้
จินดารัตน์ - เทือกๆ นี้นะคะ
สนธิ - คือแมว กับหมาไม่เหมือนกัน แมวจะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก กูไม่สนใจใคร กูจะเดิน
จินดารัตน์ - สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง
สนธิ - สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง เรียกก็ไม่มา แต่หมาเนี้ยะ มันอยู่กับผมได้ไม่นาน พันแข้งพันขาผมตลอด มันจะรู้เลยเวลาผมกลับบ้าน กระโดด ตะกุย กัดมือผม กัดแบบเล่นๆ เลียมือ บางทีก็เลียหน้า เราขึ้นไปข้างบนห้องทำงานมันก็ตามขึ้นไป เรานั่งอ่านหนังสือ มันก็กระโดดนั่งบนตักเรา มันจะมีความผูกพัน หรืออีกนัยหนึ่ง มันอ้อนเป็น ทีนี้ ถ้าเลี้ยงตัวเล็กเกินไป เช่น ชิวาวา ผมก็ไม่ไหว
จินดารัตน์ - บอบบางเกิน
สนธิ - ไม่ใช่ฮะ ปากเปราะ
จินดารัตน์ - ปากเปราะ ใช่ๆๆๆ
สนธิ - เห่าได้ทั้งวันทั้งคืน เห่าจนน่ารำคาญ ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเคยเลี้ยงชิวาว่า แล้วหมาพันธุ์ญี่ปุ่น ชื่ออชิตะ ที่ตัวใหญ่ อชิตะนี่เป็นหมาที่ฉลาดมากๆเลย มีอยู่วันหนึ่งไอ้ชิวาว่าตัวนี้ก็เข้ามาที่ห้อง เห่าๆ ไอ้เพื่อนผมก็นอนยังไม่ทันตื่น เช้าตรู่เลย เห่าจนกระทั่งมันก็ตะโกนลั่นเลยนะ เรียกอีกตัวก็คืออชิตะ สมมติว่าชื่อโยโน อชิตะวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้นะ มันคาบคอไอ้ชิวาว่า แล้วก็เดินออกไปนอกห้อง มันไม่ได้กัดนะ มันคาบคอออกไป
จินดารัตน์ - เหมือนกับรู้ว่าทำให้เจ้านายรำคาญ
สนธิ - หมาญี่ปุ่นพันธุ์อชิตะ เป็นหมาที่ฉลาดมาก
จินดารัตน์ - อันนี้วิ่งซนนะคะ ยังเด็กใช่ไหม กี่เดือนคะคุณสนธิ
สนธิ - 6 เดือนหว่า เกือบ 7 เดือน มีหมาเป็นเพื่อนดีกว่ามีเพื่อนหมาๆ
จินดารัตน์ - อึ้งเลย
เติมศักดิ์ - มาพูดถึงคนบ้าง ที่ไม่รู้จะเทียบได้หรือเปล่า เพราะนักการเมืองเมืองไทย ไม่ได้ขี้ตีนของไอ้โยโกะ กับอาเบะหรอก โยโกะ อาเบะ มันซื่อสัตย์ มันใสซื่อบริสุทธิ์
จินดารัตน์ - แล้วไปดูคนที่ดูเหมือนจะใสซื่อบริสุทธิ์ในสายตาของสาวกบางคนนะคะ เดินสายตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สนธิ - ผมว่าถ้าเราจะพูดถึงคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เราต้องทำความเข้าใจก่อน คุณอภิสิทธิ์มีคนที่รักแกเยอะ รักเพราะว่าแกภาพพจน์ดี รักเพราะว่าแกหน้าตาดี ต้องยอมรับแกเป็นคนซึ่งเมื่ออยู่ใกล้ๆ แล้วมีเสน่ห์ เพราะแกคุย แกพูดได้ทุกเรื่อง และก็โน้มน้าวใจได้ทุกเรื่อง เพราะว่าวาทะเป็นเอก วาทกรรมแกนี่สุดยอด คือแกสามารถจะพูดเรื่องที่เรารู้ว่าแกผิดแท้ๆ แกพูดตั้งนานจนกระทั่งคนฟังเห็นด้วยกับแก และพอแกไปแล้ว ไอ้นี่ก็เพิ่งจะหายนะจังงัง บอกว่าเฮ้ย.. เมื่อกี้เขาพูดอะไรวะ พูดไม่รู้เรื่อง ตั้งแต่ผมดูคุณอภิสิทธิ์มาด้วยความสัตย์จริง คุณอภิสิทธิ์เป็นคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องเลย คือแกจะเป็นคนไม่ฟันธงเรื่องจุดยืนเมื่อเรื่องอะไรก็ตาม แกจะเป็นประเภทอ้อมไปอ้อมมา อ้อมไปจนกระทั่งเรางง
จินดารัตน์ - เหมือนถามอย่างตอบอย่าง
สนธิ - เหมือนถามอย่างตอบอย่างนะครับ อภิสิทธิ์กับเชาวลิต ยงใจยุทธ มีลักษณะคล้ายๆ กันหลายอย่าง คือเป็นคนที่โลเลเหลาะแหละ ถ้าจะเอาสามก๊กเข้ามาเกี่ยวข้อง อภิสิทธิ์นี่มีส่วนผสมของเล่าปี่ โลซก และอ้วนเสี้ยว ทั้งโลเล ทั้งสร้างภาพว่ามีคุณธรรม และขณะเดียวกัน เสือกในเรื่องที่ไม่ควรจะเสือก อย่างเช่นโลซก คุณเติมเคยอ่านสามก๊กใช่มั้ย นั่นล่ะ ฉะนั้นคุณอภิสิทธิ์มีคุณสมบัติ ...
จินดารัตน์ - ครบเลยเหรอคะ
สนธิ - ครบเลย 3 คนนี้ เอาแต่ละส่วนๆ มา ส่วนทักษิณนี่ ลักษณะเหมือนโจโฉหรือไม่ ผมว่าไม่ใช่ ทักษิณนี่คือตั๋งโต๊ะ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมมามองว่า คุณอภิสิทธิ์นี่นะ ถ้าผมจะพูดถึงคุณอภิสิทธิ์วันนี้ ต้องทำใจนิดหนึ่ง ว่าต้องโดนสาวกคุณอภิสิทธิ์ด่าแน่นอน แต่นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะว่านี่คือเอเอสทีวี นี่ไม่ใช่บลูสกาย และเราก็ไม่ใช่สาวกคุณอภิสิทธิ์ และเราก็ไม่ใช่สาวกใครทั้งสิ้น
ที่คุณแอนจะถาม และคุณเติมศักดิ์จะมีคำถาม ถามมันเกิดอะไรขึ้น ผมว่าคุณอภิสิทธิ์เป็นคนซึ่ง ความที่เป็นคนไม่มีหลัก แกเป็นคนซึ่งบ้าเลือกตั้ง บ้าเลือกตั้งมาก แต่ความบ้าเลือกตั้ง แกมีความรู้สึก แกเชื่อเหมือนคุณชวนเชื่อ แกเป็นศิษย์เอกคุณชวนอยู่แล้ว แกมีความเชื่อมั่นว่า ต้องรักษาประชาธิปไตยไว้ ส่วนเนื้อหาประชาธิปไตยเป็นยังไง แกไม่สนใจ ขอให้รักษาไว้ก่อน และพอรักษาไว้ได้ การรักษาประชาธิปไตยในสายตาแก คือการรักษาการเลือกตั้ง เพราะคุณอภิสิทธิ์พูดมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้วว่า แกเป็นนักการเมืองอาชีพ หรืออีกนัยหนึ่ง แกเป็นนักเลือกตั้งอาชีพ
จินดารัตน์ - ใช่คะ
สนธิ - แกมองว่า ความเชื่อของแก หรือความเชื่อของนักเลือกตั้งคือ ได้รับเลือกจากประชาชน ส่วนประชาชนจะมาเลือกแบบไหน อย่างไร มีสิ่งแวดล้อมอย่างไรทำให้ประชาชนต้องเลือกคนโน้น คนนี้ หรือมีเหตุจูงใจไร แกไม่สนใจ แกสนใจว่าขอให้เลือกตั้งก่อน แต่พอเลือกไปแล้ว แกแพ้เขา เหตุผลเพราะเขามีมากกว่าแก แกเลยเริ่มกลับมาถึงจุดเริ่มต้นที่แกไม่ยอมพูดตอนต้น เพราะถ้าแกยอมพูดตอนต้น แกต้องไม่ยอมรับการเลือกตั้งแบบนี้ แต่เนื่องจากแกต้องการเลือกเข้าไป เพราะเขาหวังว่าแกจะชนะไง แต่พอเข้าไปแกแพ้ แกยกมือเท่าไหร่ แกพูดเท่าไหร่ เหมือนที่มีการอภิปรายกันในสภา แกพูดเกือบตาย อะจบหรือยัง จบแล้ว ยกมือพรึ่บ แกแพ้ ซึ่งแกก็รู้ว่า แกสู้เขาไม่ได้ และนั่นคือที่มาของการเดินหน้าผ่าความจริงตั้งแต่ต้น เดินหน้าผ่าความจริง คุณอภิสิทธิ์เป็นคนที่เห็นด้วยนะ ถ้าไม่อย่างนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่เดินหน้าผ่าความจริง เป็นจุดๆๆ ไป ถูกไหมถูก
ทีนี้ ลักษณะการฉกฉวยโอกาส เอารัดเอาเปรียบ เจ้าเล่ห์แสนกล คือลักษณะที่ตอนที่พันธมิตรประชาธิปไตยสู้ 193 วัน อยู่ในทำเนียบฯ แกจะสนับสนุนเต็มที่เลย แต่พอวันซึ่งเราไปที่สนามบิน แกไม่ได้พิจารณาว่า วันที่เราไปสนามบินเราไปเพราะอะไร ที่เราไปสนามบินเพราะว่าเราโดนทำร้ายด้วยอาวุธเอ็ม 79 ตลอดเวลา และไม่มีใครช่วยเราได้ เราเลยไปประท้วงที่สนามบิน พอแกไปแกเริ่มรู้ว่ามีคนพูดบอกว่า เรากำลังจะไปปิดสนามบิน มีคนเริ่มว่าเราตำหนิเรา ทันทีเลยนะแกบอกว่า ผมไม่เห็นด้วยการไปสนามบิน
จินดารัตน์ - ชิ่งเลย
สนธิ - เพราะว่าแกต้องการเอากำไรตรงนี้เข้ามา เพราะคุณอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองที่ชีวิตทั้งชีวิตตีกินมาตลอดชีวิต ต้องพูดอย่างนี้เลย เผอิญการตีกิน คุณอภิสิทธิ์ลักษณะไม่เหมือนคุณเนวิน ชิดชอบ หรือคุณเสนาะ เทียนทอง เพราะคุณอภิสิทธิ์มาจากคนนามสกุลเวชชาชีวะ ปู่ทวดอะไรเป็น คุณอภิสิทธิ์ต้นตระกูลเป็นจีนแคระ อพยพมาจากเมืองจีน มาตั้งหลักแหล่งที่จันทบุรีน่าสนใจมาก อพยพมาที่เดียวกันมากลุ่มเดียวกันกับจีนแคระอีกตระกูลหนึ่งคือ ตระกูลชินวัตร
จินดารัตน์ - แซ่คูหรอคะ
สนธิ - แซ่คู จันทบุรี เพียงแต่ว่าต้นตระกูลชินวัตร นั่งเรือล่องกันไปเชียงใหม่ ขึ้นไปแม่น้ำปิงไปหากินที่นั่น ที่สันกำแพง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มาทางนี้มาเป็นหมอ ได้นามสกุลพระราชทาน รัชกาลที่ 6 เนื่องจากต้นตระกูลเป็นหมอถึงมีคำว่า เวชชา และถ้าพูดถึงชาติตระกูลของคุณอภิสิทธิ์ โอเค ชาติวุฒิ วัยวุฒิอาจจะดูเด็ก แต่คน 47-48 ก็ประมาณโอเคแล้ว คุณวุฒิคุณจบอ๊อกซฟอร์ด เพอร์เฟ็กซ์ เพราะฉะนั้นคุณอภิสิทธิ์นั่งเฉยๆ ก็ได้ชัยไปแล้วครึ่งหนึ่ง และยิ่งเป็นคนที่มีวาทกรรมเป็นเลิศ คำพูดเป็นเลิศเลยทำให้ตัวเองโดดเด่นขึ้นมา แต่ตั้งแต่ดูคุณอภิสิทธิ์เล่นการเมืองมาตั้งแต่ต้น คุณอภิสิทธิ์เป็นคนที่ไม่มีแก่นสารเลยแม้แต่นิดเดียว ความใฝ่ฝันคุณอภิสิทธิ์พูดตั้งแต่เด็กแล้วอยากเป็นนายกฯ ก็ได้เป็นจริง แต่เมื่อได้เป็นแล้วอะไรเกิดขึ้นก็รู้ ใช่ไหม
คุณดูทำไมผมถึงบอกว่า คุณอภิสิทธิ์เป็นคนเหมือนอ้วนเสี้ยว อ้วนเสี้ยวคือขุนพลยุคแรกๆ สมัยแรกที่ดูแลพระราชวัง อ้วนเสี้ยวเป็นคนโลเล ใครพูดอะไรอย่างก็ฟัง ใครพูดอีกอย่างก็ฟัง แต่เป็นคนขี้ขลาด ช่วงที่อ้วนเสี้ยวรบกับโจโฉ อ้วนเสี้ยวมีทหารเยอะที่สุด 7-8 แสนคน โจโฉมีแค่ 2 แสนคน แต่อ้วนเสี้ยวไม่มีความสามารถ ไม่มีความกล้าที่จะไปสู้กับโจโฉ อุปมาอุปมัยเหมือนกันกับที่คุณอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาล แต่คุณอภิสิทธิ์ก็ไม่กล้าที่จะตัดสินใจเด็ดขาดที่จะจัดการกับระบอบทักษิณ หรือจัดการกับพวกเสื้อแดงที่ป่วนเมือง ไม่มี ใช่ไหมครับ และที่น่าเสียดาย คนที่ล้อมรอบคุณอภิสิทธิ์ ก็เป็นคนเช่นนี้เช่นกัน น่าประหลาดใจ คนที่ให้คำปรึกษาคุณอภิสิทธิ์ในช่วงยุคเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง กับคนที่ให้คำปรึกษาคุณอภิสิทธิ์ในการเดินสายครั้งนี้ เป็นกลุ่มคนเดียวกัน ตอนนั้น คนที่มีบทบาทมากในการเจรจากับเสื้อแดง คือคุณกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ คุณกอร์ปศักดิ์จะเป็นคนซึ่งจัดการเรื่องโน้นเรื่องนี้ หาเรื่องให้คุยกัน คุยกันเถอะ เพราะว่าคุณอภิสิทธิ์เป็นอ้วนเสี้ยวไง แล้วก็มีส่วนหนึ่งของเล่าปี่ อยากแสดงให้เห็นว่าตัวเองนั้นเป็นคนซึ่งมีคุณธรรม เป็นคนซึ่งคุยกันทั้งสองฝ่าย แล้วให้วิน-วินกันทั้งคู่ คุณอภิสิทธิ์มีความรู้สึกวิน-วินกันดีกว่า แต่วินแล้วคุณอภิสิทธิ์ต้องเป็นคนที่ชนะที่สุด แต่อยากแสดงภาพให้เห็นว่าแกเป็นคนไม่รังแกใคร ประเด็นไม่ใช่ปัญหาเรื่องรังแก หรือไม่รังแก คุณอภิสิทธิ์ไม่ได้สวมวิญญาณโจโฉ เพราะโจโฉคือคนซึ่งเอาเป้าหมายตั้ง คุณอภิสิทธิ์เอาเป้าหมาย คือชาติตั้ง คุณอภิสิทธิ์ต้องสามารถจัดการกับพวกนี้ได้ แต่เนื่องจากไปคุยกับพวกเสื้อแดงก่อน และคุณกอร์ปศักดิ์ก็อยู่เบื้องหลังในการที่จะให้คุณอภิสิทธิ์เห็นด้วย แล้วคุณอภิสิทธิ์ก็เห็นด้วย คุณอภิสิทธิ์ก็เห็นด้วยว่าต้องช่วยเสื้อแดงประกันตัว เดินทางไปประกันตัวให้ สั่งให้คนในรัฐบาลไปให้การกับศาล ว่าคนพวกนี้เป็นคนดี ควรจะให้ประกันตัว
เติมศักดิ์ - ไม่มีอาวุธในม็อบ
สนธิ - ไม่มีอาวุธ นี่คือคุณอภิสิทธิ์ ทีนี้พอเข้าไปในสภาฯแล้ว หลังจากที่ยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาล คุณอภิสิทธิ์ก็เลยมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความหมายเพราะตัวเองไปเจอคนซึ่งเป็นหุ่นยนต์ ถามช้างตอบม้า คุณอภิสิทธิ์อภิปราย ระหว่างพูดไปก็รู้สึกว่า ตัวเองเท่ ออกทีวี พูดจามีหลักมีฐาน มีความรู้สึกว่าเป็น Speech ของการ อภิปรายไม่ไว้วางใจที่เด่นที่สุด น่าจะชนะน็อกได้เลย แต่ปรากฏว่าคุณอภิสิทธิ์อภิปรายได้ช้าง ยิ่งลักษณ์ตอบเรื่องหมา ไม่สนใจ คุณอภิสิทธิ์เจอคนดื้อด้าน คุณอภิสิทธิ์ไปไม่เป็น หลายๆครั้ง แล้วมาเจอประธานสภาฯ เช่น สมศักดิ์ ประธานวุฒิสภา เช่น นิคม 2 คนนี้ก็ประเภทดื้อด้าน คือ ดื้อด้านจะยืนข้างทักษิณ ยืนข้างเพื่อไทย ไม่สนในสถานภาพตัวเอง คุณอภิสิทธิ์เลยเจอระบบการเมืองที่คุณอภิสิทธิ์ ต้องการจะรักษาไว้ เข้าใจหรือเปล่า จนในที่สุด คุณอภิสิทธิ์ ก็เลยลืม ลืมว่าครั้งหนึ่งคุณอภิสิทธิ์เคยว่าพวกผม ว่าการเมืองต้องเล่นกันในสภา ต้องตัดสินด้วยคน 500 คนในสภา ไม่ใช่ข้างถนน และคุณอภิสิทธิ์ยกหลักการต้อง 500 คน แต่คุณอภิสิทธิ์ ไม่เคยลงรายละเอียดว่า ไอ้ 500 ไอ้พวกโจร 500 พวกนี้ มันมีที่มาที่ไปยังไง แล้วที่มาที่ไปมันควรหรือไม่ ระบบอย่างนี้ และประชาธิปไตยมันจำเป็นหรือไม่ ที่้ต้องยกมืออย่างเดียว อันนี้คือประชาธิปไตยที่ให้สิทธิ์การเลือกตั้ง พอเลือกเสร็จแหละ จบแล้วนะ ไม่มีสิทธิเข้าไปมีส่วนร่วม อย่างที่ผมเคยเรียกว่ามัน ประชาธิปไตย 4 วินาที คือตอนหย่อนบัตร เท่านั้นเอง นับ 1 2 3 4 พอหย่อนเสร็จแล้วก็จบแหละ สิทธิตัวเองไม่มีแหละ
ทีนี้พอความโชคร้าย ความโชคร้ายของทักษิณ ตรงที่ ความโลภ ความยะโสโอหัง ความอหังการ์ วันนั้นที่มีการพิจารณาเรื่องของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คุณวรชัย เหมะ ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นคนที่เคยอยู่ในป่า เป็นคนซึ่งเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับที่นิรโทษฯ เฉพาะคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง ไม่นิรโทษฯ ทักษิณ
เติมศักดิ์ - ยังไม่สุดซอย
สนธิ - ยังไม่สุดซอย คล้ายๆ ว่า วัตถุประสงค์คือต้องการที่จะให้พวกเสื้อแดงที่ติดคุกหลุดไปซะที จะได้ชดใช้บุญคุณกัน แต่นิรโทษฯ พวกนั้นไม่ได้ ต้องเอาเสื้อเหลืองด้วย ก็จะรวมไปจนถึงพวกเสื้อเหลืองที่โดนคดีอยู่ สองคนนี้ก็นั่งอยู่ โดนคดีที่สนามบิน แล้วโดนโดยคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนเอาขื่อมาแขวนคอพวกเราเอาไว้ ความจริงแล้ว ตรงนั้น ถ้าทักษิณหยุดตรงนั้นแล้วปล่อยให้วรชัย เหมะ เดินด้วย พ.ร.บ.ตัวนี้แล้ว วันนี้ก็ยังอยู่ต่อ ไม่มีเหตุอันใดที่จะออก แต่คุณทักษิณ เนื่องจากว่าไปเชื่อเฉลิม อยู่บำรุง ไปเชื่อประยุทธ์ หัวเกรียน เพราะประยุทธ์ไปเยี่ยมทักษิณแล้วทักษิณทำหน้าเศร้าๆ บอก พี่ยุทธ์ พาผมกลับบ้านหน่อย ประยุทธ์ขึ้นมา กลับมาเลย ต้องสุดซอย แล้ววันนี้หาตัวประยุทธ์เจอมั้ย
เติมศักดิ์ - ไม่รู้หายไปไหนแล้ว
สนธิ - ไม่รู้ตกนรกไปที่ไหนแล้ว พอสุดซอยปั๊บ ยึดถือว่าตัวเองมีเสียงข้างมาก ยกมืออะไรก็ได้ นั่นคือที่มาของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ความไม่พอใน ความไม่เข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ เข้าใจ และความที่รับไม่ได้เลยกับนิรโทษกรรมเฮงซวยแบบนี้ ที่รวมไปถึงทักษิณ และคืนเงินให้ทักษิณด้วย ย้อนไปถึงเลยตั้งแต่สมัยยุคทักษิณเป็นนายกฯ ครั้งแรก เรื่องกรณีกรือเซะกับตากใบ รวมหมดทุกอย่าง คือชีวิตนี้ตระกูลชินวัตร พวกกูทำผิดไม่ได้ ถ้าพวกกูทำผิดแล้วจะต้องล้างความผิดให้พวกกูหมด เหมือนกับวันนี้สันดานทักษิณถ่ายทอดมาให้น้องสาวตัวเอง ที่น้องสาวตัวเองพูดตลอดเวลาเลยว่า ตัวเองไม่ผิด ไม่เคยผิด พวกชินวัตรทำอะไรก็ไม่ผิด ตรงนี้คนไม่พอใจกันทั้งประเทศ จังหวะพอดี พอดีตรงไหน พอดีตรงที่ว่า วันหนึ่งผมเกิดมีเหมือนกับมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกผม สนธิพอแล้วนะ ให้คนอื่นเขาทำบ้าง อย่าไปพูดขาดการรักชาติเอาไว้ เพราะทุกวันนี้ที่สู้มาตลอดก่อนหน้านั้น คนจะด่าว่า ทำไมพวกพันธมิตรฯ ถึงผูกขาดการรักชาติ คนอื่นเขาไม่รักชาติบ้างหรอ นั่นคือที่มาของการยุติบทบาท
วันที่ผมประกาศยุติบทบาท ผมคุยกันภายใน อาจารย์ปานเทพ พี่ลอง สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พี่พิภพ ธงไชย ยังช็อกไปเลย ทุกคนช็อก เฮ้ยทำไมต้องหยุด ระวังจะเสียมวลชนนะ บอกพอแหละ คนที่รักเราก็มี คนที่เกลียดเราก็ไม่น้อย ถ้าเราไม่หยุด เราจะไม่มีผู้นำคนอื่นขึ้นมา และถ้าผู้นำคนอื่นขึ้นมา ไม่เกี่ยวกับเรา จะมีคนตามเขาเยอะ ยิ่งถ้าเป็นผู้นำจากพรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งเพอร์เฟค เพราะเขามี 12 ล้านเสียงอยู่ในมือ และนั่นคือที่มาที่ผมพูดตลอดเวลา บอก ถ้าประชาธิปัตย์ลาออก ออกมาหมดเลยแล้วเดินหน้าสู้นอกสภา คนจะมาร่วมกันเป็นล้านๆ ผมไม่ผิด การต่อมาได้พิสูจน์แล้วว่า คำพูดผมไม่ผิด มันถูกต้องหมด
ทีนี้ พอคุณสุเทพออกมานำ เดิมทีสู้แค่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ผมเข้าใจว่า คุณสุเทพ คงมีสายสัมพันธ์กับทหารบางคน คงคุยไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะออกมานำ ในทำนองว่า มีข้อตกลงว่า ถ้าคุณสุเทพนำมวลชนแล้ว ทหารจะออกมาจัดการกับยิ่งลักษณ์ นั่นคือที่มาของ จบแน่นอน 7 วันนี้ จบแน่นอน 10 วันนี้ จบแน่นอน สิ้นเดือนนี้จบแน่นอน แล้วเสียงค่อยๆ อ่อนไปเรื่อยๆ เข้าใจไหม เดิมที ทำไมคนมาร่วมเยอะมาก เพราะอึดอัดใจในเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย มากันหมดเลย มืดฟ้ามัวดิน เป็นไปได้ยังไง หมอ พยาบาล นักศึกษา อาจารย์มหาวิทยาลัย อธิการบดี แม้กระทั่งผู้พิพากษายังเปิดตัว เคยเห็นที่ไหนผู้พิพากษาเปิดตัว ไม่มี พึ่งมีรายการนี้ที่ผู้พิพากษา เปิดตัว เพราะทนไม่ได้จริงๆ กับความอหังกา ความชั่วร้าย ที่สภานำโดยพรรคเพื่อไทย นำโดยคนเช่น สุวัจน์ ลิปตพัลลภ บรรหาร ศิลปอาชา สนับสนุนให้นิรโทษกรรมทักษิณ รับไม่ได้ ไฮโซ ดารา ยังรับไม่ได้เลย นักร้องก็รับไม่ได้ คนพวกนี้ เป็นคนซึ่งไม่เคยสนใจทางการเมือง แต่ออกมาเปิดหน้ากันหมดเลย เป็นมวลมหาประชาชนที่เขาตั้งชื่อกันมา มันเลยเกิดขึ้น พอเกิดขึ้นแล้ว คุณสุเทพรู้ว่าจะสู้ในฐานะที่คุณสุเทพเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หรือเป็นรองหัวหน้าพรรค ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว มันไม่ศักดิ์สิทธิ์ คุณสุเทพถึงต้องลาออก และเพื่อให้มันศักดิ์สิทธิ์ด้วย ก็เลยต้องเอาคนที่รับทราบว่าทหารจะเข้ามา คุณเติม ถ้าไม่มีข้อมูลแบบนี้ คนพวกนี้ไม่ออกมาเป็นทีมหรอก
จินดารัตน์ - ใครจะกล้าเสี่ยงออกมา
สนธิ - ไม่มีใครเสี่ยงออกมาอย่างนี้หรอก ทุกคนออกมาเพราะเชื่อว่า โอเคกันเรียบร้อยแล้ว ไม่นาน เดี๋ยวก็จบ ไม่มีใครคิดว่ามันจะตั้ง 6 เดือนแล้ว ไม่มีใครคิด ให้ตาย ไม่มีใครคิด อย่างมากก็บอกเดือนเดียวเท่านั้นเอง เอาล่ะ ไม่เป็นไร พอคุณสุเทพลาออกมาปั๊บ คุณสุเทพก็เลยเมามวลชน เพราะคุณสุเทพไปยืนบนมวลชน แล้วคุณสุเทพเห็นมวลชนให้ความศรัทธา ให้ความหวัง ผมก็ให้ความหวังคุณสุเทพนะ ถึงแม้ว่าตอนนั้นผมยังไม่ไว้ใจคุณสุเทพเท่าไร ผมก็ยังให้ความหวัง ดีแล้ว ปรากฏว่าคุณสุเทพ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Get carry on ลมส่งให้ลอยขึ้น คุณสุเทพถอยไม่ได้ ลงไม่ได้ แล้วปรากฏว่าประชาชนล้ำหน้าคุณสุเทพไปตลอดเวลา คุณสุเทพก็เลย อย่างที่เขาพูดก็ถูกต้อง แกเป็นเหมือนร่างทรงของประชาชน เมื่อแกเป็นร่างทรงของประชาชนแล้ว แกมีที่ปรึกษาเยอะ เลยมีคนคิดโน้นคิดนี่ไปตลอดเวลานะครับ คุณอภิสิทธิ์ คุณชวน หลีกภัย หลายๆ คนที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ เห็นประชาชนมาเยอะขนาดนี้ เลยตัดใจทำช้ากว่าที่ผมบอกไปนานพอสมควร ลอกไปหมด ซึ่งถ้าพูดถึงยุทธวิธีแล้ว เขาพลาด ถ้าเขาลาออกตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าสภาฯ และเขายกมือกัน และเขาโดนล้มเรื่องกรณีของระเบียบวิธีการ และเขาเห็นว่านี่คือเผด็จการรัฐสภา เขาออกตอนนั้น ตอนนั้นทักษิณกับยิ่งลักษณ์พร้อมจะเจรจาทันที แต่เขาลอยเอกาไปแล้ว จนกระทั่งคุณสุเทพออก เขาถึงค่อยออก พอเมื่อเขาออกไปแล้ว เขาก็มีความรู้ว่า เขาต้องเกาะ คือนี่ประชาชนของเขานะ
เติมศักดิ์ - เป็นมวลชนของเขา
สนธิ - เป็นมวลชนไม่น้อยเลย ไม่หมด ผมเชื่อว่าในนั้นต้องมีอย่างน้อย 30% ที่เป็นของพันธมิตรฯ อีกประมาณ 20% เป็นทั่วๆ ไปที่ไม่ได้เป็นใคร แต่อีก 50% เป็นของเขา ผมเชื่อว่าเป็นของเขานะครับ และหลักของคุณสุเทพมาจากใต้หมด คนใต้นี่นะ เป็นตำบลเป็นอำเภอเลย ไปช่วยกำนันยัง บริจาคเงินทุกคนต้องให้ พ่อค้ามีเงินเยอะก็ให้เยอะหน่อย มีเงินน้อยก็ให้น้อยหน่อย แต่ทุกคนให้ด้วยความต็มใจ เพราะจะไปโค่นระบอบทักษิณซึ่งเป็นระบอบที่ชั่วร้าย นั่นเป็นที่มาว่าทำไมคุณสุเทพถึงลุกขึ้นมาสู้กับระบอบทักษิณ ต้องล้มระบอบทักษิณให้ได้
เติมศักดิ์ - จากตอนแรกที่แค่ล้ม พ.ร.บ.
สนธิ - กลายเป็นล้มระบอบทักษิณแล้ว เมื่อล้มระบอบทักษิณแล้วกลายเป็นการไล่ตระกูลชินวัตรออกจากประเทศ ยึดทรัพย์หมดทุกอย่าง เราไล่เป็นเสต็ปๆไปเลยนะ คุณอภิสิทธิ์ นี่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จู่ๆคุณอภิสิทธิ์ตื่นขึ้นมา อ้าว ตายห่า มวลชนไปอยู่กับคุณสุเทพหมด คุณอภิสิทธิ์รับไม่ได้ โดยนิสัยส่วนตัวก็รับไม่ได้ เพราะตัวเองเป็นคนหล่อ ตัวเองเป็นคนพูดจาอะไรคนรักคนชอบ ตัวเองต้องเป็นผู้นำ แต่ไปนำแบบสุเทพ ตัวเองทำไม่ได้ จะทำอย่างไร ก็ไม่กล้าฝืนกระแส นั่นคือที่มาของคุณอภิสิทธิ์ ที่พูดไง ตอนนั้น ว่าไม่มีเลือกตั้งไม่เอา ต้องปฏิรูป
เติมศักดิ์ - ต้องตามน้ำไปก่อน
จินดารัตน์ - เรามีคลิปนะคะ
สนธิ - เปิดดูทันทีเลย
**************คลิปอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ************
สนธิ - ผมถามตรงๆเถอะเติม พูดกันอย่างเป็นกลางเลย คุณฟังรู้เรื่องไหม
เติมศักดิ์ - จับต้องอะไรไม่ได้
สนธิ - เขาพูดฟังพูดไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว
จินดารัตน์ - แล้วพูดเหมือนให้คนนำไปตีความได้หลายทาง
สนธิ - ถูกต้อง ทีนี้อภิสิทธิ์ต้องการพูด อภิสิทธิ์คนที่พูดบอกว่าไม่ลงเลือกตั้ง เหตุผลเพราะไม่รู้จะลงไปเป็นตัวแทนใคร ที่พูดตอนนั้นเพื่อรักษามวลชน เพราะรู้ว่าตอนนี้อารมณ์ของมวลชนกำลังขึ้น ไม่งั้นแล้วจะเสียหมด เลยต้องพูดอย่างนั้น นั่นรู้สึก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังเพิ่งจะสู้ไปได้แค่เดือนสองเดือนเอง กำลังฮอต คนเยอะมาก ประมาณเดือนเศษๆ กำลังฮอต
ผมคิดว่าจุดเปลี่ยนมันเปลี่ยนตรงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนไม่เคยคิด พล.อ.ประยุทธ์ ลั่นวาจาออกมาว่า เลิกคิดได้แล้วมาตรา 7 ไปเลือกตั้งเถอะ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Wake up call ให้กับอภิสิทธิ์ บอกตายละ แล้วจะทำอย่างไร เพราะคนพวกนี้เขาผูกพันกับประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเขามีความรู้สึกว่า ถ้าประยุทธ์ ไม่ทำตามที่เคยสัญญาไว้กับใครก็ตามก่อนเอามหามวลชนออกมา เขารู้ เพราะเขาเคยชินกับการที่เขาถูกตั้งเป็นนายกฯในค่ายทหารไง ปี 52 เขาเห็นว่าประยุทธ์ หรือทหารสามารถที่จะทำให้เกิดการตั้งขึ้นมาได้
จินดารัตน์ - มันก็เลยเกิดภาพบางภาพ แอนอยากให้คุณผู้ชมย้อนอดีตหน่อยนะคะ ว่ามันก็เกิดภาพนั้นขึ้นมา เดี๋ยวไปดูกันค่ะ
******************คลิป******************
จินดารัตน์ - ซึ่งก่อนหน้านี้ คนตัวโย่งๆ ก็ไปกอดกับอีกคนหนึ่งมาแล้ว
เติมศักดิ์ - ครับ ไปกอดกับทักษิณมาแล้ว
สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้ว โดยลักษณะการเมือง
เติมศักดิ์ - อันนี้ ก่อนไปกอดกับอภิสิทธิ์
สนธิ - จะเห็นได้ว่า โดยเนื้อหาของการเมืองระบบที่เราเห็นอยู่เนี้ยะ มันเป็นการเมืองที่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทย 65 ล้านคน มันเป็นการเมืองที่เล่นกันในหมู่นักเลือกตั้งเท่านั้น จำถึงการแก้รัฐธรรมนูญสมัยยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ไหม ที่ผมไปประท้วงหน้าสภา วันนั้นรัฐบาลชุดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แก้รัฐธรมนูญ ก็ไม่ได้แก้เพื่อประเทศไทย แต่แก้เพื่อนักการเมืองให้เลือกตั้งง่ายขึ้น ทำไม มันเป็นเช่นนี้ เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่า คนพวกนี้เล่นการเมืองเพื่อรักษาอาชีพตัวเอง ไม่ได้เล่นการเมือง เพื่อพัฒนาทำให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้น คนพวกนี้ไม่ได้เอาชาติเป็นตัวตั้ง คนพวกนี้ เอาอาชีพตัวเองเป็นตัวตั้ง มันไม่มีอาชีพไหนที่จะสร้างความร่ำรวยได้อย่างมหาศาลด้วยการฉ้อราษฎร์บังหลวงจากนักการเมือง นอกจากอาชีพนักการเมือง เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่อภิสิทธิ์ทำในช่วงหลัง ที่น่าสนใจอย่าง ทักษิณเนี้ยะ ทักษิณเป้าอันนี้อยู่ที่ไหน เลือกตั้ง ถูกไหมถูก ทักษิณเป้าอยู่ที่เลือกตั้ง อภิสิทธิ์คือนักเลือกตั้งตัวจริง ก็อยู่ที่เลือกตั้ง มีกำนันเท่านั้นเองที่ตัดตัวเองออกมาได้ แต่สำหรับผม กำนันยังตัดได้แค่ 80% ยังค้าง 20% ยังมีความรู้สึกว่ายังต้องรักษาน้ำใจกันไว้ ผมว่ากำนันออกมานำมวลชนแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจแล้ว ต้องรักษาน้ำใจประชาชน 65 ล้านคน รักษาน้ำใจมวลมหาประชาชนที่ตามกำนันมา ดีกว่าไปรักษาน้ำใจ ผมวัดจากตรงไหน ผมวัดจากวันที่กำนัน ด่าอภิสิทธิ์ว่า อย่าเสอะ วันรุ่งขึ้น เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ออกมาบอกว่า ไม่ได้ขัดแย้งกัน นี่คือการรักษาน้ำใจไง นี่คืออีกหนึ่งหมัดที่ชกไม่สุดหมัด เหมือนวันนั้น เสรี วงษ์มณฑา ขึ้นไปชำแหละประยุทธ์ จันทร์โอชา และกำนันขึ้นไปอุ้มประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนกัน ผมอยากให้กำนันแก้ตรงนี้ ถ้าอยากให้ตัวเองมีพลานุภาพเกิดขึ้นในการนำจะต้องแก้ตรงนี้
ทีนี้น่าสนใจอย่าง เมื่อทักษิณต้องการอย่างนี้ อภิสิทธิ์ก็ชอบที่จะเป็นอย่างนี้ ถามว่าประยุทธ์ชอบอะไร เหมือนกัน เหมือนคราวที่แล้ว ศุกร์ที่แล้วผมพูดใช่ไหม ประยุทธ์ต้องการอะไร ต้องการให้มีการเลือกตั้ง แล้วตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น แล้วตัวเองจะได้เกษียณอายุไป ใช้เงินใช้ทองที่มีตัวเองมีอยู่ 3 ฝ่ายเห็นต้องกัน 1 2 3 เมื่อเห็นต้องกันแล้ว ทักษิณ อาทิตย์ที่แล้วผมบอกว่า ทักษิณ กำลังแพ้ และกำลังแพ้จริงๆ ผมเลยบอกให้กำนันให้ฮึดสู้ อย่าไปถอย เดี๋ยวจะพูดต่อว่าอย่าไปถอยอย่างไร ทักษิณมีทางออกทางเดียวคือว่า ต้องเลือกตั้ง ทักษิณเลยต้องทำทุกวิถีทางให้เกิดการเลือกตั้ง ทำแม้กระทั่งให้คุณประยุทธ์พูดออกมา ใช่ไหม เราต้องรักษาระบอบประชาธิปไตย เราต้องทำตามกฎหมาย แต่เวลาปู ยิ่งลักษณ์ โกงชาติโกงบ้านโกงเมืองไป 4 แสน 5 แสนล้าน คุณประยุทธ์นั่งเฉย คุณประยุทธ์นี่หน้าไหว้หลังหลอกมากนะครับ
เอาล่ะ ถ้าผมเป็นทักษิณ ผมก็จะบอกประยุทธ์ ทำไมผมบอกประยุทธ์ไม่ได้ เพราะผมไว้ใจประยุทธ์มากไง ใช่ไม่ใช่ ในคลิปถั่งเช่าบอกเลย ตู่นี่ ผมไว้ใจตู่มากที่สุด ผมจะบอกประยุทธ์ทำอย่างไรที่จะให้อภิสิทธิ์เดินสาย เคลียร์คนเพื่อหาทางเลือกตั้ง และจะทำให้มวลชนของอภิสิทธิ์ ของสุเทพสับสน นั่นคือสิ่งที่สุเทพพูดไง ว่าใครมาเดินและทำให้มวลชนไขว้เขว และนี่คือสิ่งที่อภิสิทธิ์ทำเห็นหรือยัง
เติมศักดิ์ - ไปตัดขา
คลิก! อ่านต่อ