“กอร์ปศักดิ์” จุดประกายฝัน ดันก้น “มาร์ค” ออกยูทิวบ์

รายงานกรเมือง

จู่ๆ “พี่มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ก็ขึ้นลุกมาสลัดสนับก้น กระสันจุดไฟในถ้ำมืด อาสาเป็นโซ่ข้อกลางเดินสายพูดคุยกับทุกภาคส่วนที่เป็น “คู่ขัดแย้ง” เพื่อสมานแผลสังคมไทย

ทั้งที่หากดูตามเนื้อผ้าแล้ว สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้อาสามาแสดงบทหล่อเลย

โดยมีนัดหมายคุยกับ “กิตติพงษ์ กิตยารักษ์” ปลัดกระทรวงยุติธรรม “พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร” (ผบ.สส.) “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” (กกต.) และรัฐบาล

วรรคทองของ “พี่มาร์ค” คือ “ขอโอกาสผมทำงานครับ อย่าเพิ่งปฏิเสธการทำงานของผม ให้โอกาสกับผม ผมขอเชิญชวนทุกฝ่ายให้โอกาสกับประเทศของเรา”

ดูเท่-ดูหล่อ-ดูดี แต่ในทางปฏิบัติแล้วแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย

เพราะ “คู่ขัดแย้ง” ที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ มีชื่อของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ติดแบล็กลิสต์อยู่ด้วย แถมเป็นแบล็กลิสต์เบอร์ต้นๆ ที่ “คนเสื้อแดง” จ้องจะแก้แค้นให้จงได้ ความฝันที่ “พี่มาร์ค” จะเป็นโซ่ข้อกลางมาแก้ปัญหา จึงเสมือนปราสาททรายที่รอวันล่มสลาย

ทว่า การออกมาเสนอตัวของ “พี่มาร์ค” ถูกซ่อนไว้ด้วยเล่ห์กลเกมการเมือง เพราะคนอย่าง “พี่มาร์ค” รู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จ แต่ที่ต้องก้าวเดินออกมา ก็เพื่อ “ฟอกตัว” ให้ดูดีเหมาะเป็น “พระเอกขี่ม้าขาว” ก็เท่านั้น

ทำไปเพื่อคาดหวังให้ “ประชาชน” เคลิ้มกับ “วาทกรรม” แล้วหันมามอง “พี่มาร์ค” ให้ทางที่ดีบ้าง

อินไซด์จาก “พรรคประชาธิปัตย์” (ปชป.) ระบุตรงกันว่า “พี่มาร์ค” ทำตามคำแนะนำคนคุ้นเคยอย่าง “กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ” ที่ยังคงเดินเข้า-เดินออก “พรรคสีฟ้า” อยู่ แม้ก่อนหน้านี้จะดูเหินห่างไปบ้าง

แต่ด้วยความสนิทสนมกับ “พี่มาร์ค” ระยะหลัง “มิสเตอร์กอร์ป” จึงขอเกาะชายกางเกง “พี่มาร์ค” เข้ามาเสนอไอเดียใน ปชป.หลายต่อหลายครั้ง

หากย้อนกลับไปดูหมากการเมือง-การอ่านเกมของ “มิสเตอร์กอร์ป” แล้วจะพบว่าผิดพลาดมาหลายครั้งหลายคร่า ผลงานชิ้น “โบว์ดำ” คงหนีไม่พ้น การเสนอให้ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ยุบสภาในช่วงกลางปี 2554

ขณะนั้น “มิสเตอร์กอร์ป” นั่งตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ คอยประเมินสถานการณ์ทางการเมืองให้ “พี่มาร์ค” ตัดสินใจ โดย “มิสเตอร์กอร์ป” ประเมินว่ากระแสของ “พรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง” กำลังอ่อนตัวลง หลังผ่านศึกนองเลือดช่วงกลางปี 2553

“มิสเตอร์กอร์ป” ดีดลูกคิดคำนวณแล้ว “พรรคสีฟ้า” จะเข้าวินมาลำดับสอง เป็นรอง “พรรคสีแดง” แต่จุดเปลี่ยนจะอยู่ที่ “พรรคสีน้ำเงิน” ที่คาดการณ์ว่าจะสามารถลาก ส.ส.อีสาน เข้าสภาได้ 70-80 ที่นั่ง

หากรวมเสียง “พรรคสีฟ้า” เข้ากับ “พรรคสีน้ำเงิน” มีหวังชนะ “พรรคสีแดง” แบบนอนมา

แต่ผลการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 กลับทำให้ “เครือข่ายทักษิณ” กลับมาผงาดอีกทั้ง ทั้ง “ปชป.-ภท.” แพ้ขาด ชนิดที่ยังไม่สามารถรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับ “เพื่อไทย” ได้เลย

ลูกคิดของ “มิสเตอร์กอร์ป” แทบหัก บรรดาลูกพรรค ปชป.ก่นด่า “มิสเตอร์กอร์ป” ชนิดไม่ไว้หน้า ทำให้บทบาทของ “มิสเตอร์กอร์ป” ลดลงไปตามผลงานชิ้น “โบว์ดำ”

นอกจากนี้ “มิสเตอร์กอร์ป” กำหนดไทมิ่งให้ “พี่มาร์ค” โชว์บทพระเอกในระยะเวลา 10วัน โดยในกรอบวัน ว. เวลา น.ดังกล่าวเหมาะเหม่งกับที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะมีคำวินิจฉัยคดี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีโยกย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” เกือบจะพอดี

หาก “พี่มาร์ค” อาศัยช่วงเวลา 10 วัน “ฟอกตัว” ได้ “มะม่วง” อาจจะหล่นทับอีกรอบ เพราะเมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัยออกมา “รัฐบาลปูแดง” ต้องพ้นสภาพ เกิดสุญญากาศ “พี่มาร์ค” พร้อมเข้าเสียบทันที

ซึ่งดูเหมือน “มิสเตอร์กอร์ป” จอมขายฝันเป่าหู “พี่มาร์ค” เสียจนทำให้ “พี่มาร์ค” เกิดอาการกระสันอยากนั่งเก้าอี้ “ผู้นำ” อีกคำรบ ด้วยความกระสั่นของ “พี่มาร์ค” จึงเห็นดีเห็นงามกับแนวทางของ “มิสเตอร์กอร์ป”

ข้อเสนอของ “มิสเตอร์กอร์ป” อินไซด์ใน ปชป. ยืนยันเกือบเป็นเสียงเดียวกันว่า “กำนันสุเทพ” แทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้อีกทีหน้าพี่มาร์คโผล่บนยูทิวบ์แล้ว

“พี่มาร์ค” รู้ทั้งรู้ว่า “มิสเตอร์กอร์ป” ทำเสียขบวนแพ้เลือกตั้งมาแล้วครั้งหนึ่ง ยังจะ “โง่” หลงเชื่อน้ำคำจากปาก “มิสเตอร์กอร์ป” อีก

ทว่า ยังดีที่ “กำนันสุเทพ” อ่านเกมขาดออกมาชิงจังหวะด่าก่อนว่า “อย่าสะเออะ” เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ “พี่มาร์ค” ทำส่งผลเสียต่อรูปขบวนของ “กปปส.”

“กำนันสุเทพ” ส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่เอาด้วยกับ “พี่มาร์ค” เพราะต้องการ “คนกลาง” จริงมาถือธง “ปฏิรูปประเทศ” จับสัญญาณคีย์เวิร์ดของ “กำนันสุเทพ” รู้ว่าต้องการส่งไปถึงตัว “มิสเตอร์กอร์ป” โดยตรง

งานนี้มีหวัง “พี่มาร์ค” จะทำให้แนวทางของ “กปปส.” บิดเบี้ยวไป เพราะชัดเจนแล้วว่าแนวทาง “ปฏิรูปประเทศ” ของ “กปปส.” ที่ต้องการเอา “คนกลาง” ขึ้นมาชูธงปฏิรูปประเทศ

แต่ “พี่มาร์ค” กลับเล่นบทสวนทางอยากเป็นเอง ทั้งที่บทบาทของ “พี่มาร์ค” ที่ผ่านมา หากไม่นับ “ไอ้แม้ว” แล้ว ดูเหมือนจะเป็นคนที่เปื้อนโคลนการเมืองมากที่สุด แล้วจะมีใครมายอมรับ “พี่มาร์ค” ได้สักกี่คน

สิ่งที่ “กำนันสุเทพ” บ่มเพาะมากว่า 180 วัน อาจจะพังด้วยน้ำมือของ “พี่มาร์ค” นี่แหละ!!!