ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-สัปดาห์ก่อนหลายท่าน คงเห็นภาพและคลิปวีดีโอ คุณป้าท่านหนึ่ง เข้าใจว่าอยู่ฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. พูดต่อว่า สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประมาณว่าสหรัฐฯ ไม่ควรเข้ามาแทรกแซงกิจการทางการเมืองของประเทศไทย
ขณะที่เพจของคนเสื้อแดง บางแห่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ มีการโพตส์ข้อความว่า ให้ติดธงชาติสหรัฐอเมริกาหน้ารถยนต์ส่วนตัว เพื่อให้สหรัฐฯมาสนับสนุนการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ที่ฝ่ายรัฐรักษาการอยากจะให้มีการจัดเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป ขณะที่ฝ่ายรัฐรักษาการก็พยายามเรียกร้องต่อองค์กรต่างประเทศ เหมือนต้องการให้เข้ามาแทรกแซงกลาย ๆ
สัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน มีข่าว นายไมเคิล อาร์ เทิร์นเนอร์ สมาชิกสภาครองเกรส จากรัฐโอไฮโอ ที่เขียนจดหมายถึง “โอบามา” ให้สนับสนุน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ขณะที่มีคำถามจากฝ่ายการเมือง นักกฎหมาย หลายคน พูดถึงนายไมเคิล อาร์ เทิร์นเนอร์ ผู้นี้
เริ่มจากเฟซบุ๊คของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกฯ สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาตั้งคำถามว่า
ถามโอบามา ....... แล้วไง เพจนี้ยัง อ้างว่า “ความแตก” เพราะ “นายไมเคล เทอร์เนอร์” ที่เขียนจดหมายถึง โอบาม่า ให้สนับสนุน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แท้จริงคือเพื่อนซี้ของเจ้าของบริษัทลอปบี้ยิสต์ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้กระทรวงต่างประเทศไทยใช้ภาษีคนไทยล้านกว่าบาท (สามหมื่นเหรียญ) จ้าง
ใจความยังระบุว่า นายนายไมเคิล อาร์ เทิร์นเนอร์ ส.ส.จากรัฐโอไฮโอ ส่งจดหมายน้อยถึงประธานาธิบดีโอบามา ขอให้โอบามาออกมาประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าสหรัฐไม่เห็นด้วยกับสถานการณ์ปัจจุบัน ( การชุมนุมของกปปส. ) ขอให้โอบามาประกาศสนับสนุนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภานี้
เพื่อนๆคงสงสัยว่านายไมเคลนี่โผล่มาจากไหน อยู่ๆก็เกิดเป็นห่วงประชาธิปไตยในประเทศไทยขึ้นมาซะอย่างนั้น
เรื่องนี้มีที่มาที่ไปครับ
จำบทความที่ผม (นายกอร์ปศักดิ์) เคยเขียนเรื่อง ล๊อบบี้ยิ๊สต์ของทักษิณได้ไหม ทักษิณมีลูกจ้างประเภทล๊อบบี้ยิสต์อยู่หลายราย
“ที่ทักษิณรักสุดชื่อ BGR รายนี้สนิทสนมมาก ถึงขนาดสั่งให้กระทรวงต่างประเทศว่าจ้าง BGR ให้ทำงานให้รัฐบาลไทยนานถึง 1 ปี” ใช้เงินภาษีพวกเราไปเดือนละ $ 30,000 หรือประมาณ 1 ล้านบาท รวม 12 ล้านบาท
เอกสารนี้เคยนำให้ดูมาแล้วครั้งนึงครับ
ตัวอักษร " B " ของบริษัnBGR ย่อจากชื่อบอสใหญ่ นาย Haley Barbour นาย Barbour อดีตเป็นผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี่ อยู่พรรครีพับลิกัน นาย ไมเคล เทอร์เนอร์ เจ้าของจดหมายน้อย ปัจจุบันเป็นสส.พรรครีพับลิกันเหมือนกัน
ถามว่าสองคนนี้รู้จักกันดีไหม ชัวร์ครับ ขนาดบริจาคเงินเข้าพรรคในปี 2010 ยังทำพร้อมกันเลย ตามหลักฐานนี้ครับ เพื่อนกัน พึ่งกันได้ ช่วยกันคนละไม้ละมือ
BGR รับเงินภาษีของพวกเราไป 12 ล้านบาท ได้ผลงานเป็นจดหมาย 1 ฉบับ ทักษิณใช้เงินของเราจ้าง BGR เพื่อเหยียบพวกเราให้ติดดิน อีกตัวอย่างของระบอบทักษิณที่ทำร้ายประเทศไทยครับ
ขณะที่ “นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องว่า ในอดีต สหรัฐฯ ไม่เคยที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศไทย และเชื่อว่า สหรัฐฯจะไม่ทำอะไรที่เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย แต่กระบวนการที่เกิดขึ้นมีความน่าสงสัย คือ มีข่าวว่า มีการจ้างบริษัทล็อบบี้ยีสต์ ในการล็อบบี้สภาครองเกรส และวุฒิสมาชิกของสหรัฐ เพื่อให้มีการกดดันประเทศไทยโดเยเฉพาะฝ่ายของประชาชน
นอกจากนี้ยังมี จดหมายที่ “วณิณา สุจริตกุล” เขียนถึงนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับวิกฤตทางการเมืองของประเทศไทย ซึ่งเป็นการตอบโต้นายไมเคิล อาร์ เทิร์นเนอร์
เขียนเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2014 ท่านประธานธิบดีที่นับถือ
ข้าพเจ้าเขียนมาเพื่อโต้แย้งจดหมายของ ไมเคิล เทิร์นเนอร์ สมาชิกสภาคองเกรส ซึ่งเขียนถึงท่านเมื่อวานนี้ ซึ่งเรียกร้องให้ท่านแสดงการคัดค้านอย่างเปิดเผยต่อการเคลื่อนไหวคัดค้านรัฐบาล และสนับสนุนการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2014 ด้วยความเคารพอย่างยิ่งที่ต้องบอกว่า จดหมายของเทิร์นเนอร์ สมาชิกสภาคองเกรส ได้ชี้นำอย่างผิดๆ และแสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจต่อวิกฤตทางการเมืองของไทย
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นนักกฎหมายที่เรียนจบจากสหรัฐฯ และก็เป็นพลเมืองทั้งของสหรัฐฯและประเทศไทย ข้าพเจ้าเป็นผู้รักระบอบประชาธิปไตย และในความเป็นจริง ข้าพเจ้าก็ได้ร่วมเป็นอาสาสมัครในกลุ่มช่วยเหลือผู้ออกเสียงเลือกตั้ง ทำหน้าที่แจ้งข่าวสารต่อชาวอเมริกัน ในการลงทะเบียนเพื่อออกเสียงเลือกตั้ง แจ้งหลักฐานที่จำเป็นต่อการไปใช้สิทธิ์ออกเสียง ตลอดจนการรวบรวมหลักฐานการใช้สิทธิ์เพื่อให้แน่ใจว่าคะแนนเสียงของพวกเขาจะถูกรวบรวมอย่างถูกต้อง
ผู้ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลไทยก็เป็นฝ่ายนิยมระบอบประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน การเคลื่อนไหวมิใช่เพื่อทำลายระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย หากแต่เพื่อขจัดอำนาจการปกครองที่กดขี่และเป็นเผด็จการให้พ้นไปจากประวัติศาสตร์ไทย ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า มีจอมเผด็จการมากมายก็มาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ซัดดัม ฮุสเซนก็ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งมา 100% ฮูโก้ชาเวซ ซึ่งท่านเรียกกันอย่างเปิดเผยว่าเป็นเผด็จการอัตตาธิปไตยนั้น ก็ได้รับเลือกตั้งมาจากเสียงส่วนใหญ่เช่นเดียวกัน
รัฐบาลเผด็จอำนาจของทักษิณ ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยเปลือกนอก ก็ได้พิสูจน์ว่าเป็นรัฐบาลที่โกงกินที่สุดและละเมิดสิทธิ์มนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด คนจะเข้าใจวิกฤตทางการเมืองในขณะนี้ได้ ต้องไปเข้าใจจากรากเหง้าการผูกขาดด้านโทรคมนาคม ขอยกบางเรื่องที่ทักษิณครอบงำกำกับอยู่เป็นตัวอย่าง
- ในเดือนกุมภาพันธ์ 2003 ซึ่งทักษิณทำสงครามปราบยาเสพติด เพียงช่วงเวลา 3 เดือน มีผู้ถูกฆ่าตายถึง 2800 คนโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ผลการสำรวจอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2007 สรุปว่า มากกว่าครึ่งของผู้ที่ถูกฆ่าตายไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย เรื่องที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้แสดงความห่วงใยอย่างมากนั้น ผู้กระทำผิดก็ยังมิได้ถูกดำเนินการใดๆทางกฎหมาย
เมื่อปี 2004 กองกำลังรักษาความมั่นคงของทักษิณได้ทำให้ผู้ประท้วงคัดค้านภาคใต้ต้องตายไป 85 คน จากการถูกยิงตาย และถูกจับมัดกองทับกันจนขาดอากาศหายใจตาย หรือที่เรียกกันว่ากรณีตากใบ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนได้ประณามความป่าเถื่อนโหดร้ายนี้ และเรียกร้องให้มีการการไต่สวนถึงอาชญากรรมครั้งนี้ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ อีกเช่นกัน
- ตัวเลขขององค์กรนิรโทษกรรมสากล มีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนถึง 18 คน ถูกลอบฆ่าตายและถูกอุ้มหายตัวไปด้วยการเซ็นเซอร์และข่มขู่คุกคามหนังสือพิมพ์ การละเมิดสิทธิมนุษยชนจึงมิได้ถูกเปิดเผย เสียงคัดค้านใดๆ ล้วนถูกทำให้เงียบไป
เพื่อที่จะพยายามหลบเลี่ยงกฎหมายควบคุมการขัดกันทางผลประโยชน์ ทักษิณได้โอนหลักทรัพย์หลายพันล้านบาทของตนไปไว้ในชื่อของคนรับใช้และคนขับรถของตนโดยเจ้าตัวมิได้รับรู้อย่างผิดกฎหมาย
ทักษิณฝ่าฝืนกฎหมายที่ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐทำธุรกิจกับรัฐ ด้วยการช่วยให้ภรรยาของตนซื้อที่ดินของรัฐในราคาถูกเพียง 1 ใน 3 ของราคาจริง ซึ่งทักษิณถูกตัดสินให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่เขาก็หลบหนีออกนอกประเทศและไม่เคยยอมรับผิด
ทักษิณได้อนุมัติเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของรัฐบาลไทยจำนวน 127 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ให้แก่รัฐบาลทหารพม่า เพื่อใช้ซื้อบริการรับสัญญาณดาวเทียมจากธุรกิจโทรคมนาคมของตน
ช่วงที่ทักษิณปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีนั้น เขาได้ขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการโทรคมนาคม ให้กับเทมาเส็กโฮลดิ้ง โดยหลบเลี่ยงการเสียภาษีมูลค่า 16.3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
ด้วยสารพัดวิธีการของทักษิณในการเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจโทรคมนาคมของเขา ทำให้ศาลสูงสุดมีคำตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ในความผิดคอร์รัปชั่นทางนโยบาย 4 กระทง และมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์จำนวน 1.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จากทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้จำนวน 2.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
นี่เป็นเพียงบางตัวอย่างที่ทักษิณใช้วิธีการต่างๆนานาชำเราและฉ้อโกงจากประเทศนี้ แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการเนรเทศตัวเองอยู่ในต่างประเทศ ทักษิณก็ยังคงชักใยประเทศไทย และดำเนินนโยบายคอร์รัปชั่นผ่านทางน้องสาวของตน ในเรื่องความพยายามประนีประนอมจอมปลอม ระบอบทักษิณได้ผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในคืนวันศุกร์ตอนตี 4.25 ที่ให้ยกโทษแก่ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมการประท้วงทางการเมือง รัฐสภาภายใต้การควบคุมของทักษิณได้ผ่าน พ.ร.บ.วาระสุดท้าย(วาระ3) ยกโทษให้กับนักการเมืองทุกคนที่ถูกกล่าวหาและตัดสินว่ามีความผิดเรื่องการคอร์รัปชั่นตั้งแต่การรัฐประหาร ซึ่ง พ.ร.บ.ที่ถูกแก้ไขนี้ ยังมีผลให้ต้องคืนทรัพย์สินที่ถูกสั่งยึดไปด้วย กล่าวให้ชัดเจนก็คือ การผ่านกฎหมายฉบับนี้ก็เพื่อปูทางให้ทักษิณได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ และต้องคืนทรัพย์สมบัติให้แก่เขา
ด้วยเล่ห์เหลี่ยมที่จะเข้าควบคุมทั้งรัฐสภาและวุฒิสภา รัฐบาลปัจจุบันของทักษิณพยายามที่จะแก้ไขโครงสร้างของวุฒิสภา และปิดกั้นการทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับคัดเลือกมาจากทุกสาขาอาชีพ การล้มระบบนี้ออกไปจะทำให้พรรคการเมืองของทักษิณสามารถควบคุมการออกกฎหมายโดยไม่ต้องถูกตรวจสอบและถ่วงดุล พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและกฎหมายอื่นๆก็จะทำให้การคอร์รัปชั่นของทักษิณผ่านได้โดยสะดวกง่ายดาย และถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้หยุดยั้งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างวุฒิสภาแล้วก็ตาม แต่รัฐบาลของทักษิณก็แสดงการปฏิเสธไม่ยอมขึ้นต่อคำตัดสินของศาลอย่างเปิดเผย
นโยบายคอร์รัปชั่นอย่างเป็นระบบและการใช้อำนาจมิชอบเพื่อเอื้อประโยชน์ของทักษิณอย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ ได้ผลักดันให้ประชาชนไทยต้องลุกยืนขึ้นและเรียกร้องว่าพอกันที ผู้ประท้วงคัดค้านต้องการประชาธิปไตย แต่ต้องขจัดอำนาจเผด็จการของทักษิณออกไปก่อน
เป็นเวลากว่าทศวรรษมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นที่ชัดเจนภายใต้ระบอบทักษิณก็คือ ระบบประชาธิปไตยในปัจจุบันของเราล้มเหลว เพราะมันได้ปล่อยให้ระบอบเผด็จการอัตตาธิปไตยสามารถฉกฉวยใช้อำนาจและกอบโกยโกงกินทรัพย์สินของชาติ เมื่อใดที่ระบบการใช้สิทธิ์เลือกตั้งปล่อยให้เกิดการฉ้อฉลและปล่อยให้นักการเมืองคอร์รัปชั่นอยู่เหนือกฎหมาย เมื่อนั้น ประชาชนจึงต้องตั้งคำถามและลุกขึ้นคัดค้านระบบที่เสียหายเช่นนี้ ประชาชนจึงกำลังเรียกร้องต้องการการปฏิรูป เพื่อให้มีระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และที่สำคัญที่สุดคือ มีการถ่วงดุลในการใช้อำนาจ
เราต้องการประชาธิปไตย และด้วยวิธีอารยะขัดขืนนี้แหละ จะนำมาซึ่งประชาธิปไตยของเรา ขอแสดงความนับถือ
“วณิณา สุจริตกุล”ผู้นี้เป็นนักกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นหลานสาว ของอาจารย์สมปอง สุจริตกุล นักวิชาการที่ร่วมต่อสู้เรื่องคดีปราสาทเขาพระวิหาร นั้นเอง