“อภิสิทธิ์” เผยหารือ กกต.ห่วงเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบลดความขัดแย้ง แนะ กกต.นำสิ่งที่เสนอไปหารือกับรัฐบาล ดักคอ “ยิ่งลักษณ์” เปิดหูฟังความเห็นที่เสนอผ่าน กกต. วอน กปปส.อย่าเพิ่มตัดรอน ยันไม่ได้ขัดแย้ง “สุเทพ” นัดถก “บรรหาร-สุวัจน์” ต่อบ่ายนี้ เพื่อยืนยันว่าการเดินหน้าเลือกตั้ง โดยไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ ด้านประธาน กกต.เผย “มาร์ค” เสนอแนวทางปฏิรูปเลือกตั้ง ไม่ได้พูดจะลงสมัครครั้งหน้าหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นานกว่า 1 ชั่วโมง ว่าได้แลกเปลี่ยนสถานการณ์บ้านเมืองและสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไป รวมทั้งขยายความสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำเรื่องถึง กกต. ว่าเป้าหมายการจัดการเลือกตั้งต่อไปควรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน พร้อมเสนอการปฏิรูปให้ กกต.มีอำนาจจัดเลือกตั้ง แต่ปัญหาใหญ่ที่เห็นตรงกันว่าบรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้จะทำให้การเลือกตั้งประสบความสำเร็จนั้นยาก การจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องไม่เป็นโมฆะแบบวันที่ 2 ก.พ. อย่างไรก็ตาม กกต.จะนำเรื่องที่หารือกับตนไปสะท้อนต่อรัฐบาลที่จะหารือกันวันที่ 30 เม.ย. โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ควรรับฟังความเห็นที่ตนหารือกับ กกต. พร้อมนำไปพิจารณาอย่าเพิ่งปิดโอกาสโดยการยึดติดว่าต้องเร่งรัดให้เลือกตั้งโดยเร็ว
ส่วนที่ กปปส.ที่เป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาลและประกาศไม่เอาแนวทางอะไรทั้งสิ้น การเดินสายหารือจะเป็นประโยชน์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อเสนอในสิ่งที่นำเสนอ จึงขอให้อย่าเพิ่งปฏิเสธ ข้อเสนอของตนปลายทางคือการปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญที่มีกฎหมายรองรับ และเข้าใจว่าทุกฝ่ายห่วงใยว่าข้อเสนออาจมีปัญหาหรือจุดอ่อน แต่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องปิดจุดอ่อนหรือทางเลือก ซึ่งจะเดินอย่างไรจะดูตามความเหมาะสมให้นำไปสู่ความสำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้หารือให้ชะลอการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า การที่จะมีพระราชกฤษฎีกา โดยไม่มีการสร้างความมั่นใจในการเลือกตั้ง ประเทศจะไม่หลุดจากความขัดแย้ง และการเลือกตั้งจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ ถ้าเลือกตั้งเร็วแล้วขัดแย้งกันต่อ แต่เลือกตั้งช้าแล้วมีคำตอบ ตนมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกให้เลือกตั้งช้าแต่เรียบร้อย
ต่อข้อถามว่าถ้าฝ่ายต่างๆ ตอบรับข้อเสนอพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องตอบรับ ทั้งนี้หลังจากที่เดินสายพบปะกับพรรคการเมืองต่างๆ เสร็จแล้วก็จะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดที่คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้ 2-3 วันเพื่อนำไปหารือกับรัฐบาล ส่วนข้อเสนอที่ออกมานั้นจะให้ถูกใจทุกฝ่ายไม่ใช่กระบวนการที่ง่าย แต่ขอให้รัฐบาลอย่าปิดโอกาส โดยให้นำข้อเสนอต่างๆ ไปพิจารณาด้วย ตนเสนอตามกรรอบและทำให้ภาวะของบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติให้มากที่สุด ยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้ไม่มีการเจรจาต่อรองอะไรทั้งสิ้น และการเจรจาแต่ละครั้งทำอย่างเปิดเผย
ส่วนการหารือกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยนั้น เห็นว่ารัฐบาลแและพรรคเพื่อไทยอยู่ในวิสัยเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตนระมัดระวังกับฝ่ายตรงข้ามเพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของตนมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ทำให้ต้องพิจารณารูปแบบที่ทำให้คนทุกฝ่ายสบายใจ
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในช่วงบ่ายตนได้นัดพบกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เพื่อยืนยันว่าการที่พรรคการเมืองขณะนี้จะมุ่งสู่การเลือกตั้งอีกครั้ง โดยยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีการปฏิรูป ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ และพรรคการเมืองเหล่านี้ ที่ผ่านมาก็มีประสบการณ์มาแล้วในวันที่ 2 ก.พ. โดยปัญหาพื้นฐานในเรื่องที่จะไปเลือกตั้งนั้นยังมีอยู่
“วันนี้พวกเราที่เป็นนักการเมืองนี้ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงก่อนว่า ความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อนักการเมืองขณะนี้มันต่ำสุดๆ ถ้าเราไม่พยายามทำอะไร หรือหาคำตอบที่จะเป็นการกอบกู้วิกฤตศรัทธาตรงนี้แล้ว ระบบการเมืองก็จะเดินไปได้ยากต่อไปในอนาคต อันนี้ก็จะไปแลกเปลี่ยนกันตรงไปตรงมากับท่านเหล่านี้ แล้วก็ดูซิว่าท่านคิดอย่างไร แต่ผมจะไม่เอาเรื่องปัญหาการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองอะไรมาทั้งนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่ประชาชนเขาไม่ต้องการจะเห็น จะต้องเป็นการพูดคุยกันในเรื่องของปัญหาของบ้านเมือง แล้วก็บทบาทของนักการเมือง และพรรคการเมืองที่พึงจะเป็นในปัจจุบัน แต่ที่คงจะปรึกษาตรงๆ เลยคือขอทางเลือกเพิ่มให้กับประเทศไทย ที่ผมพยายามสนับสนุนนี้ขอให้มันเป็นทางเลือกหนึ่งได้ไหม แทนที่ขณะนี้ประชาชนอาจจะฟังจากเสียงของหลายพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลที่พูดว่าทางออกของประเทศขณะนี้ขอให้กลับไปเลือกตั้ง แต่ไม่มีอะไรที่เป็นคำตอบเพิ่มเติม ผมก็ยืนยันว่าไปอย่างนี้ก็ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้ง แล้วก็นำประเทศออกจากวิกฤตได้”
ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวให้กำลังใจการทำงานและพร้อมที่จะพบนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์สนใจ และอยากให้ตนทำงานก็ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ เมื่อตนเสนอข้อเสนอไปแล้ว หรือระหว่างที่ยังไม่ทำข้อเสนอไปนี้ก็ต้องไม่ปิดทางเลือกนี้ เพราะจะเกี่ยวพันกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยต้องให้โอกาสจริงๆ และท่าทีของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยต้องสอดคล้องกับสิ่งที่พูดด้วยและต้องเป็นการพบปะที่เปิดเผยเพราะงานนี้ต้องไม่มีลักษณะการไปพบปะอะไรกันลับๆ
นายอภิสิทธิ์ยังยืนยันด้วยว่า ไม่ได้ขัดแย้งกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และมวลมหาประชาชน เพราะมีเป้าหมายเหมือนกันคือต้องการเห็นบ้านเมืองมีการปฏิรูป แต่วิธีการหรือความเห็นที่มันแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา
ด้านนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ว่า การพูดคุยในครั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเนื้อหาที่พรรคประชาธิปัตย์มาเสนอให้ กกต.รับทราบในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการเลือกตั้งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แต่ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเนื้อหาของการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งหน้าว่าพรรคประชาธิปปัตย์จะลงรับสมัครเลือกตั้งหรือไม่
ด้านนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ได้เสนอแนวทางการปฏิรูปการเลือกตั้ง8 ประเด็น โดย กกต.รับทราบข้อเสนอ ซึ่งภาพรวมเป็นข้อเสนอที่เกี่ยวกับการปฏิรูปกลไกการบริหารจัดการเลือกตั้งที่อยู่ในอำนาจของ กกต. เช่น การบริหารจัดการเลือกตั้ง การแข่งขันให้การเลือกตั้งที่เป็นธรรม และการบริหารจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่หลายประการ ซึ่ง กกต. เห็นตรงกันว่า ควรแก้ไขกฎระเบียบหรือประกาศต่างๆของกกต. ตามที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้หารือกับด้านบริหารงานเลือกตั้งทั้ง 13 ข้อเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลักการสำคัญต้องคำนึงถึงการเลือกตั้งที่สงบเรียบร้อยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน สามารถทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์มากกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา จนทำให้มีสภาได้
นายภุชงค์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังได้เสนอว่า ที่ผ่านมาการนำเสนอนโยบายต่างๆ ของพรรคการเมือง เมื่อได้เป็นรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายได้ จึงอยากให้ กกต. แก้ไขระเบียบว่าหากทำไม่ได้ตามนโยบายจะถือว่าขัดต่อระเบียบ กกต. อาจมีผลต่อการสั่งเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง รวมทั้งยังเสนอให้ กกต.พิจารณาให้ใบเหลืองใบแดงแก่ผู้สมัครที่ทำผิดกฎหมายภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง เพราะเห็นว่าหากผู้สมัครสามารถเข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้การดำเนินคดีก็เป็นเรื่องยาก จากนั้นค่อยจัดการเลือกตั้งซ่อมหลังจาก 1 เดือน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่กกต.จะต้องรับไว้พิจารณา
“นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ได้กล่าวในที่ประชุมว่าขอเชิญชวนให้พรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะเห็นว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งเหตุการณ์ก็คงจะเรียบร้อย ซึ่งนายอภิสิทธิ์ยังไม่ได้ตอบตกลงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้ติดใจเรื่องการที่กกต.จะจัดเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค. เพียงแต่แสดงความเป็นห่วงในเรื่องความสงบเรียบร้อย”