xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” เผ่นออกนอกเปิดทางแดงป่วน-ก่อนวันศาล รธน.ตัดสิน!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ริ่มมีการคาดการณ์ตรงกันมากขึ้นแล้วว่า ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินชี้ขาดกรณีที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกร้องเรื่องการโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติโดยมิชอบ โดยเธอชิงลาออกแล้วตั้งรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการแทน เพื่อรักษาคณะรัฐมนตรีและรักษาอำนาจเอาไว้ จากนั้นก็เดินทางเผ่นออกนอกประเทศ ซึ่งหากทำแบบนี้จริงนั่นยังเป็นการเปิดทางให้คนเสื้อแดงที่มีการเตรียมการเอาไว้ก่อความวุ่นวาย เพื่อหวังสร้างอำนาจต่อรองเป็นไม้ตายสุดท้าย

หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวในอดีตที่ผ่านมาทุกครั้งถ้าครั้งใดที่คนในครอบครัวชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศพร้อมกัน เหตุจลาจลวุ่นวายมักจะเกิดขึ้นตามมาทุกครั้ง

คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน ถือว่า ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายเกิดอาการเสื่อมทรุดมากที่สุด โดนพลังประชาชนยืนหยัดขับไล่มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และคนอย่างทักษิณ ก็คงไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้ เพราะนี่คือพลังของการ “ตื่นรู้” ที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสความจริง ข้อมูลจริงและแพร่กระจายออกไปแบบไฟลามทุ่ง ข้อมูลและเหตุผลมีการแชร์กันสนั่นโลกออนไลน์ จนนึกไม่ถึงว่าขนาดระบอบทักษิณ มีสื่ออยู่ในมือพร้อมสรรพ ทั้งฟรีทีวี ทีวีดาวเทียมเสื้อแดง สื่อรับใช้เต็มไปหมดก็ไม่อาจบิดเบือนยับยั้งได้เลย

เมื่อประชาชนรับรู้ความจริงได้เห็นความชั่วความห่วยของ ทักษิณ และคนของเขา ทางหนึ่งมวลชนเสื้อแดงที่เคยเป็นฐานสนับสนุนหลักปริมาณก็ลดลงเรื่อยๆ จนเชื่อว่านาทีนี้ไม่อาจวัดพลังกันอย่างเปิดเผยได้แล้ว ทำให้ถูกจับตามองว่าอาจต้องใช้วิธีก่อกวน ข่มขู่ด้วยวิธีใต้ดิน ดังที่เกิดเหตุการณ์ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเข้าใส่ที่ทำการศาล และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงฝ่ายตรงข้าม ข้าราชการที่ไม่ยอมค้อมหัวให้

ความเสื่อมศรัทธาและความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้นก็คือกรณีที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือบางครั้งก็แสดงออกชัดเจนแบบให้ท้ายกับคนที่มีพฤติกรรม “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” สิ่งเหล่านี้ทำให้คนไทยรับไม่ได้

อย่างไรก็ดี จุดที่ชี้ขาดอนาคตของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบอบทักษิณ กลับอยู่ที่คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แม้ที่ผ่านมาจะพยายามซื้อเวลาออกไปอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ก็ไม่อาจยืดได้ตลอดไป เพราะถึงอย่างไรมันก็ย่อมมีกรอบเวลาให้เดิน อย่างกรณีของ ป.ป.ช.ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่โดนคดีในเรื่องปล่อยปละละเลยให้การเกิดการทุจริตสร้างความเสียหาย ก็ได้มีการตัดพยานที่น่ารำคาญออกไปหมดแล้ว คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมก็จะเรียบร้อย ชี้มูลออกมา ถ้าผิดก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้ว่าจะตั้งคนอื่นขึ้นมาแทน แต่เส้นทางข้างหน้ามัน “เสี่ยงคุก” เพราะเป็นคดีอาญา แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาบ้าง แต่ก็ไม่นานเกินรอ

แต่ที่น่าหนักใจเฉพาะหน้าก็คือ คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะชี้ขาดเรื่องสถานะนายกรัฐมนตรีของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีที่ย้าย ถวิล เปลี่ยนศรีโดยมิชอบ แม้ว่าเมื่อวานนี้ (23 เมษายน) ศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณาคำขอเลื่อนการชี้แจงออกไปอีก 15 วันซึ่งก็ตามคาดศาลฯ ให้โอกาสตามคำขอ แต่ไม่ว่าจะอนุญาตหรือไม่ก็ตาม มันไม่ผลต่อรูปคดี เพราะถึงอย่างไรก็ยื้อได้ไม่นาน เพราะศาลฯ ได้กำหนดมาแล้วว่าภายในเดือนพฤษภาคมก็ตัดสินชี้ขาดได้แล้ว และเมื่อพิจารณาจากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดนำทางมาก่อนหน้าแล้ว มันก็พอเดาออก เพราะสิ่งที่ต้องพิจารณามีเพียงแค่ด้านกฎหมายเท่านั้น จะชี้ขาดวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้ แต่เมื่ออยากยื้อ อยากป่วนก็ปล่อยไป

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณานับนิ้วดูแล้วก็แค่เดือนหน้าเท่านั้น ที่ “ส่อชะตาขาด” ความหมายก็คือ หากมีความผิดก็ต้องพ้นสภาพจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าเวลานี้จะเป็นรักษาการหรือไม่ก็ตาม แต่ต้องพิจารณาต่อไปก็คือ ทำให้รัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นไปด้วย และนี่จึงเป็นที่มาของความเคลื่อนไหวแบบ “หัวหมอ” ที่ว่า เธอจะชิงลาออกก่อน แล้วตั้งรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งมารักษาการแทน เพื่ออย่างน้อยป้องกันคณะรัฐมนตรีรักษาให้อำนาจให้ครอบครัวชินวัตร ของเธอได้ อีกทั้งเมื่อสืบค้นประวัติแล้วทุกครั้งที่คนในครอบครัวนี้หลบออกไปนอกประเทศนั่นก็คือสัญญาณความรุนแรงตามมา และคราวนี้ถือเป็นเดิมพันครั้งสุดท้ายเสียด้วย

แต่ปัญหาก็คือมันจะทำได้แค่ไหน เพราะชาวบ้านเขาก็ตื่นรู้มากเกินคาดหมายเขาจะยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นหรือไม่ และคนเสื้อแดงรากหญ้าที่เวลานี้มีแค่หยิบมือจะกล้าขายชีวิตให้อีกหรือ บทเรียนที่ผ่านมาจาก “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” มันจริงหรือเปล่า เพราะหลายคนยังอยู่ในคุก ครอบครัวลำบากไม่เห็นใครไปดูดำดูดี!!


กำลังโหลดความคิดเห็น