เฟซบุ๊กยิ่งลักษณ์ระบุพบ ผช.รมว.ตปท.สหรัฐฯ พร้อม “ทูตคริสตี้” เผยแสดงถึงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมือง หวังทุกฝ่ายอดกลั้น ไม่ใช้ความรุนแรง เจ้าตัวอ้างใช้สันติวิธีจัดการม็อบ แนะทุกฝ่ายเจรจาหาทางออก เหน็บศาล-องค์กรอิสระควรให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย อ้างรัฐบาลพร้อมหาทางออก
วันนี้ (8 เม.ย.) เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ระบุข้อความว่า ได้มีโอกาสพบกับ คุณแดเนียล รัสเซล (Mr.David Russel) ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา พร้อมด้วย คุณคริสตี้ เคนนีย์ (Miss Kristie Kenney) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยได้มีการหารือระหว่างกันถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ รวมทั้งสถานการณ์การเมืองภายในประเทศไทยด้วยค่ะ
สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ประเทศไทยคือหนึ่งในประเทศพันธมิตรที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจและมีบทบาทสำคัญในกลุ่มประเทศอาเซียน และในปีหน้าที่จะมีการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหากประเทศไทยมีเสถียรภาพทางการเมืองที่เข้มแข็งแล้ว ก็จะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้การรวมตัวเป็นปึกแผ่นได้โดยเร็ว ซึ่งจะช่วยสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจในอาเซียนให้เติบโตได้อย่างมั่นคงขึ้น
อย่างไรก็ดี ทางสหรัฐอเมริกาได้แสดงถึงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยในขณะนี้ และได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายจะมีความอดทนอดกลั้น ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน ทั้งนี้ ทางฝ่ายไทยได้แจ้งว่ารัฐบาลรับมือการชุมนุมประท้วงโดยใช้สันติวิธีตามบรรทัดฐานของนานาประเทศ และกรอบกฎหมายมาโดยตลอดค่ะ
นอกจากนี้ ทางสหรัฐฯยังให้ความเห็นว่าทุกฝ่ายควรร่วมกันเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสันติวิธีตามครรลองระบอบประชาธิปไตย และหลักกฎหมาย และคาดหวังว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม โดยที่พรรคการเมืองต่างๆ จะเข้าร่วมในการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมีขึ้น นอกจากนี้ สถาบันที่สำคัญ ทั้งทางด้านนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ รวมทั้งองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศ ควรจะต้องทำหน้าที่ของตนเองอย่างเป็นธรรมโดยยึดมั่นในหลักการของกฎหมาย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาทางการเมืองเป็นไปอย่างยุติธรรมกับทุกฝ่าย
ทั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลไทยเห็นตรงกันกับทางสหรัฐฯค่ะว่า ปัญหาทางการเมืองของประเทศไทยจำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างสันติ และทางฝ่ายรัฐบาลเองก็พร้อมที่จะหาทางออกโดยการเจรจามาโดยตลอด ทั้งนี้การเจรจาจะต้องเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย และอยู่ภายใต้หลักกฎหมาย เพื่อให้การเจรจานำมาซึ่งทางออกที่มีความเป็นธรรม ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศข้ามพ้นความขัดแย้งแล้วเดินหน้าต่อไปได้ค่ะ