ASTV ผู้จัดการรายวัน - ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงผันผวนตามปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยมีกรอบอยู่ที่ 1,340-1,360 จุด นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ระบุ SET INDEX ที่ 1,300 จุด เหมาะลงทุนระยะยาว โอดธุยุรกิจโบรกฯสุดช้ำจากการเมือง กำไรหด รัดเข็มขัดตัดราคาคอมมิชชั่นเพื่อความอยู่รอด คาดการเมืองจบไม่เกิน Q2
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ไทยในวานนี้ (25 มี.ค. 57) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,354.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.11 จุด หรือคิดเป็น 0.30% มูลค่าการซื้อขาย 23,731.26 ล้านบาท โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,354.30 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,341.60 จุด
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ยอมรับว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อนานกว่า 6 เดือน ส่งผลให้ธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยมีการปรับตัว และเริ่มแข่งขันรุนแรงขึ้น โดยพยายามออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อสร้างผลกำไรให้กับบริษัท ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มวานิชธนกิจเอง ก็เน้นการทำธุรกิจ IB ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการลงทุนและการบริการมากขึ้น
ขณะเดียวกันกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศเริ่มนิ่ง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ประกาศปรับลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน มาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตรการ QE ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศไทย ที่ยังคงยืดเยื้อไร้ทางออก อย่างไรก็ตามดัชนี SET INDEX อยู่ที่ประมาณ 1,300 จุด ถือว่าเป็นระดับเหมาะสมที่นักลงทุนจะเข้าลงทุนในระยะยาวโดยพิจารณาลงทุนเป็นรายหลักทรัพย์
“จากวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น โอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศจะใหลกลับเข้ามาในประเทศไทยเป็นไปได้ยากขึ้น และแนวโน้มจะใหลไปลงทุนยังกลุ่มประเทสเกิดใหม่ที่มีเสถียรภาพทางการเมืองมากกว่า ทำให้บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งพยายามลดต้นทุน ลดรายจ่ายลง เพื่อที่จะพยายามรักษาฐานรายได้ ซึ่งมีทั้งบริษัทที่ประสบปัญหาขาดทุนและมีกำไร แต่ก็เป็นไปตามกลไกการตลาด” นางภัทธีรา กล่าว
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดว่าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบแคบ ระหว่าง 1,340 - 1,360 จุด เนื่องจากไม่มีปัจจัยเศรษฐกิจใหม่เข้ามาหนุนตลาด รวมถึงประเด็นการเมืองยูเครน เริ่มกลับมากดดันตลาดต่างประเทศจากการยกเลิกการประชุม G8 ที่รัสเซีย รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯและจีนก็ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร สำหรับการเมืองภายในประเทศยังคงไร้ทางออก ขณะที่การตัดสินของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.ในคดีจำนำข้าวยังเป็นประเด็นที่ต้องจับตา โดยประเมินแนวรับ 1,340 จุด และแนวต้าน 1,360 จุด
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ไทยในวานนี้ (25 มี.ค. 57) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,354.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.11 จุด หรือคิดเป็น 0.30% มูลค่าการซื้อขาย 23,731.26 ล้านบาท โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,354.30 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,341.60 จุด
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ยอมรับว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อนานกว่า 6 เดือน ส่งผลให้ธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยมีการปรับตัว และเริ่มแข่งขันรุนแรงขึ้น โดยพยายามออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อสร้างผลกำไรให้กับบริษัท ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มวานิชธนกิจเอง ก็เน้นการทำธุรกิจ IB ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการลงทุนและการบริการมากขึ้น
ขณะเดียวกันกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศเริ่มนิ่ง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ประกาศปรับลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน มาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตรการ QE ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศไทย ที่ยังคงยืดเยื้อไร้ทางออก อย่างไรก็ตามดัชนี SET INDEX อยู่ที่ประมาณ 1,300 จุด ถือว่าเป็นระดับเหมาะสมที่นักลงทุนจะเข้าลงทุนในระยะยาวโดยพิจารณาลงทุนเป็นรายหลักทรัพย์
“จากวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น โอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศจะใหลกลับเข้ามาในประเทศไทยเป็นไปได้ยากขึ้น และแนวโน้มจะใหลไปลงทุนยังกลุ่มประเทสเกิดใหม่ที่มีเสถียรภาพทางการเมืองมากกว่า ทำให้บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งพยายามลดต้นทุน ลดรายจ่ายลง เพื่อที่จะพยายามรักษาฐานรายได้ ซึ่งมีทั้งบริษัทที่ประสบปัญหาขาดทุนและมีกำไร แต่ก็เป็นไปตามกลไกการตลาด” นางภัทธีรา กล่าว
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดว่าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบแคบ ระหว่าง 1,340 - 1,360 จุด เนื่องจากไม่มีปัจจัยเศรษฐกิจใหม่เข้ามาหนุนตลาด รวมถึงประเด็นการเมืองยูเครน เริ่มกลับมากดดันตลาดต่างประเทศจากการยกเลิกการประชุม G8 ที่รัสเซีย รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯและจีนก็ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร สำหรับการเมืองภายในประเทศยังคงไร้ทางออก ขณะที่การตัดสินของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.ในคดีจำนำข้าวยังเป็นประเด็นที่ต้องจับตา โดยประเมินแนวรับ 1,340 จุด และแนวต้าน 1,360 จุด