xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ห่วงแดงก่อม็อบ 5 เมษาฯ แค่เกมล่อ เปิดทางกองกำลังต่างชาติฆ่าคนไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
“ชวนนท์” ห่วงเล่ห์แดงก่อม็อบ 5 เม.ย.แค่เกมล่อเจ้าหน้าที่ เปิดทางกองกำลังต่างชาติโจมตี กปปส.ในกรุงเทพฯ จี้ทหารตั้งด่านสกัดอาวุธ เตือนนายจ้างบ้าจี้ขนแรงงานต่างด้าวร่วมชุมนุมถือว่าทำผิด กม. เย้ยก๊วนแดงเสนอเลือกตั้งแล้วปฏิรูปใน 1 ปี แค่แผนรวบรัดอำนาจ พร้อมประณาม “สุรพงษ์” ป้ายสีกระบวนการยุติธรรมไทยต่อต่างชาติ ลั่นไม่ยอมให้อำนาจเถื่อนทำลายศาล เฉ่ง “ยิ่งลักษณ์” อ้างพระราชดำรัสในหลวงที่ให้ยึดหลักในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ตัวเองดิ้นหนี ป.ป.ช. เป็นตัวทำลายการถ่วงดุล ไม่เคารพการตรวจสอบ



นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความกังวลต่อสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ภายใต้การนำของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่ประกาศว่าจะมีมวลชนถึง 5 แสนคน ซึ่งคิดว่าอาจจะเป็นเพียงแค่กลลวงให้เจ้าหน้าที่คลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง เนื่องจากมีความน่าสงสัยหลายประการ เช่น การเลือกถนนอักษะเป็นสถานที่ชุมนุมเพราะอยู่ใกล้แหล่งอุตสาหกรรม โดยพบข้อมูลว่ามีความพยายามสั่งการนายจ้างให้ขนแรงงานต่างด้าวเข้าร่วมการชุมนุมด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายเพราะอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้

นอกจากนี้มีรายงานว่า มีการขนทหารต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา สอดคล้องกับข่าวลับที่ว่ามีความพยายามสร้างสถานการณ์รุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยใช้การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเบี่ยงเบนประเด็น เปิดโอกาสชายชุดดำที่นำเข้าจากเพื่อนบ้านเข้าปฏิบัติการใน กทม. จึงจำเป็นที่เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะทหารที่ต้องมีการตั้งด่านตรวจโดยเฉพาะพื้นที่บริเวณถนนอักษะอย่างจริงจังว่าเป็นคนไทยจริงหรือไม่ เพื่อสกัดขบวนการนำกองกำลังต่างชาติเข้ามาสังหารคนไทย

“ขอเรียกร้องไปยังนายจ้าง หากถูกคำสั่งจากรัฐมนตรีที่มีอำนาจคุมความมั่นคงปฏิเสธการส่งแรงงานต่างด้าวเข้าร่วมชุมนุม เพราะหากมีการจับกุมได้นายจ้างต้องร่วมรับผิดชอบตามกฎหมาย จึงขอเรียกร้องว่าอย่าร่วมมือกับรัฐบาลซ่องโจรทำร้ายประเทศไทยอีกเลย และขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจัดการกับปัญหานี้โดยเร็ว”

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงข้อเสนอของคนเสื้อแดงที่ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมเจรจาให้มีการเลือกตั้ง อายุสภาฯ 1 ปี ตั้ง ครม.ผสมสองฝ่ายแล้วยุบสภาว่า การคิดหาทางออกเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ปัญหาคือประชาชนไม่ต้องการให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการปฏิรูป เพราะเป็นรัฐบาลที่ทำลายนิติรัฐ นิติธรรม ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะมีการปฏิรูปเกิดขึ้น ดังนั้นหากต้องการปฏิรูปประเทศจริงขอให้มีการเปิดเผยแนวคิดการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง จากการเจรจาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือจะให้พรรคประชาธิปัตย์เสนอแนวทางปฏิรูปพร้อมกับพรรคเพื่อไทย รวมทั้งชี้ให้เห็นถึงกระบวนการที่ชัดเจนก่อนการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง ไม่ใช่รวบรัดเลือกตั้งเพื่อเข้าสู่อำนาจ เพราะรัฐบาลไม่มีความชอบธรรม ไม่มีความน่าเชื่อถือต่อสังคมแล้ว

ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องคุยกับร่างทรงของประชาชนเพื่อกำหนดแนวทางปฏิรูปแล้วเดินหน้าให้เป็นรูปธรรม แต่ถ้าเป้าหมายยังอยู่ที่การเลือกตั้ง ตนเชื่อว่าเป็นแค่วาทกรรมเป็นการปฏิรูปแบบขอไปทีเท่านั้น

นายชวนนท์ยังเรียกร้องให้ประชาชนคนไทยประณามการกระทำของนายสุรพงษ์โต วิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ที่กล่าวหากระบวนการยุติธรรมของไทยและองค์กรอิสระว่าไม่เป็นธรรม มีความลำเอียง โดยส่งเรื่องไปยังสหประชาชาติ เพราะป็นเจตนาทำร้ายประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยพรรคประชาธิตย์ได้ทำหนังสือหักล้างสิ่งที่นายสุรพงษ์กล่าวหาผ่านสถานทูตทุกแห่ง เพื่อให้มีความเข้าใจว่ากระบวนการยุติธรรมไทยไม่ได้มีปัญหา ถือเป็นคนไทยที่ไม่มีสำนึกต่อความเป็นไทย ใช้การเมืองระหว่างประเทศมาสังเวยตัณหาทางการเมืองของตนเอง นับเป็นความตกต่ำที่สุดของ รมว.ต่างประเทศของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการข่มขู่ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่ถูกใจจะมีการลุกฮือของประชาชน จึงขอเตือนว่าไม่มีสิทธิใช้อำนาจเถื่อนคุกคามกระบวนการยุติธรรม เพราะเชื่อว่าหากมีการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาปกป้องกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้เป็นหลักของบ้านเมือง

พร้อมกันนี้ยังได้ตำหนิพฤติกรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่หยิบยกพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ แต่ตนเองกลับไม่เคยทำหน้าที่ผู้นำประเทศ จึงขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยการเคารพการตรวจสอบ และให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. โดยต้องกำชับให้ 3 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาซื้อขายข้าวกับประเทศจีนแบบรัฐต่อรัฐไปให้ปากคำต่อ ป.ป.ช. ไม่ใช่ยื่นพยานเพิ่มเติมเพื่อยื้อเวลาให้ยาวนานที่สุด



ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าไม่ได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพราะไม่อยู่ทำเนียบ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานกลาโหม แต่ควบสองตำแหน่งโดยเดือนหนึ่งทำงานไม่ถึง 5 วัน แต่กินเงินเดือนเต็ม โดยทำเหมือนว่าไม่มีปัญหาเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงมีความสุขในการเดินทางชมวิว ในขณะที่ประชาชนที่เดือดร้อนไม่สามารถยื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรีได้

นายจุฤทธิ์ยกตัวอย่างกรณีของตัวเองที่ทำเรื่องร้องเรียนนายกรัฐมนตรีในการใช้งบ 500 ล้าน ก่อสร้างเรือนจำที่จังหวัดพังงา ไม่มีการให้ประชาชนมีส่วนร่วมตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้มีการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วย แต่เมื่อเรื่องส่งไปที่ทำเนียบฯ ก็ไม่มีนายกฯ อยู่ ส่งไปที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ก็มีการลบเลขหนังสือที่มีการลงรับวันที่ 27 มี.ค. 2557 ซึ่งมีการตอบรับโดยหน่วยงานราชการแล้ว ตีกลับมาที่ตนในวันที่ 3 มี.ค. 57 แสดงว่าไม่ยึดถือระเบียบทำให้เอกสารดีกลายเป็นเอกสารเถื่อน

“ผมขอตั้งคำถามว่าจะพบนายกฯ ได้ที่ไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำงานไม่เป็น ไม่เคยทำงาน หรือไม่อยากทำงาน ถ้าไม่อยากทำงานก็ต้องลาออก ทำงานไม่เป็นก็ต้องลาออก ถ้าไม่อยากทำงานอย่าลงสมัคร ส.ส.อีก เพราะประเทศไทยไม่ต้องการนายกฯ ที่แต่งตัวสวย เที่ยวอย่างเดียว”


กำลังโหลดความคิดเห็น