xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ฟันกราวรูด “นายตำรวจ-ไทเกอร์” ฮั้วจัดซื้อ จยย.สายตรวจฉาว “ผัวเจ๊เบียบ” รอดคดีฮั้วโซลาร์เซลล์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มอเตอร์ไซค์สายตรวจยี่ห้อไทเกอร์ (ภาพจาก supote2503.blogspot.com)
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีมอเตอร์ไซค์สายตรวจฉาวของ สตช.ตั้งแต่นายตำรวจยันบริษัทผู้ผลิต เหตุล็อกสเปกเอื้อรายเดียว กรรมการประกวดราคาเกียร์ว่าง ไม่ตรวจสอบศูนย์บริการ ส่วนบริษัทผู้เสนอราคา และไทเกอร์โดนด้วย โกหกมีศูนย์ซ่อมบำรุงครบ 76 จังหวัด อีกด้านตีตกข้อกล่าวหา “เสริมศักดิ์” พร้อมพวกอีก 41 คน คดีฮั้วประมูลจัดหาโซลาร์เซลล์ ชี้กรอบความหมายแค่อธิบายเพิ่ม อีกทั้งเป็นไปตามข้อบังคับ กฟภ.

วันนี้ (1 เม.ย.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสํานักงาน ป.ป.ช.ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีกล่าวหาว่า พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ ผู้บังคับการพลาธิการและสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ากระทําความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการและกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล) ในการดําเนินการโครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจขนาด 200 ซีซี พร้อมอุปกรณ์ทดแทนจํานวน 19,147 คัน วงเงิน 1,144,550,600 บาท

โดย ป.ป.ช.ได้มีคําสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ปรากฏข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า ในการดำเนินการดังกล่าว มีผู้ซื้อซองเสนอราคา 6 ราย แต่ยื่นซองเสนอราคาเพียง 3 ราย มีเพียงบริษัท คาร์แทรคกิ้ง ซึ่งเสนอรถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ รุ่น Boxer200 เพียงรายเดียว แต่คณะกรรมการประกวดราคาไม่เสนอให้ยกเลิกการประกวดราคา กลับเสนอซื้อรถจักรยานยนต์ตามโครงการ โดยไม่อ้างเหตุผลความจําเป็นที่จะต้องซื้อ นอกจากนี้คุณสมบัติของผู้เสนอราคารายการที่สําคัญคือ ต้องมีตัวแทนจําหน่าย ซึ่งให้บริการซ่อมครบทุกจังหวัด กรณี นายปิติ มโนมัยพิบูลย์ เป็นผู้รับรองว่า บริษัท ไทเกอร์มอเตอร์ จํากัด มีครบทุกจังหวัด ให้บริษัท คาร์แทรคกิ้ง จํากัด โดย นางรักชนก แจ๊ะซ้าย กรรมการผู้จัดการบริษัท คาร์แทรคกิ้ง จำกัด เสนอต่อสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่ได้มีตัวแทนจําหน่าย ซึ่งให้บริการครบทุกจังหวัดแต่อย่างใด

ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ซึ่งเริ่มการกําหนดคุณลักษณะจากขนาด 150 ซีซี มาเป็นขนาดไม่เกิน 200 ซีซี การกําหนดร่างขอบเขตงานในเรื่องของโรงงานผู้ผลิตต้องได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ม.อ.ก.) และงบประมาณที่ได้รับทําให้พิจารณาได้ว่ามีเพียงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ รุ่น Boxer200 ที่สามารถเข้าเสนอราคาได้อย่างถูกต้องเพียงรายเดียว และยังไม่เสนอเพื่อให้มีการยกเลิกการประกวดราคา หรือไม่แสดงเหตุผลความจําเป็นใด เพื่อที่จะดําเนินการต่อ และที่สําคัญอีกประการคือไม่ได้ตรวจสอบเงื่อนไขที่สําคัญของการประกวดราคา ที่บริษัท คาร์แทรคกิ้ง จํากัด ที่ไม่มีศูนย์ซ่อมและตัวแทนจําหน่ายดังกล่าว ทําให้เชื่อได้ว่ามีบริษัท คาร์แทรคกิ้ง เพียงรายเดียว ทําให้ทางราชการเสียหาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ใช้รถจักรยานยนต์ ไทเกอร์ ในการปฏิบัติหน้าที่ไม่สามารถนํารถจักรยานยนต์ ไปซ่อมบํารุงตามสัญญาได้ และพบว่ามีปัญหาหลายอย่าง เช่น อัตราเร่งไม่สามารถทําความเร็วได้เท่ากับรถยี่ห้ออื่นๆ ในท้องตลาด

ดังนั้น กระบวนการในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ จึงไม่ชอบด้วยระเบียบและกฎหมาย การกระทําของผู้เกี่ยวข้องจึงมีมูลความผิด คือ พล.ต.ต.สัจจะ ในฐานะกรรมการประกวดราคา ซึ่งทราบรายละเอียดมาทุกขั้นตอน และเป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหาครั้งนี้ ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบระมัดระวังผลประโยชน์ของทางราชการให้สูงเป็นพิเศษ แต่กระทําการโดยมีเจตนาให้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ไทเกอร์ รุ่น BOXER200 ได้เข้าทําสัญญากับสํานักงานตํารวจแห่งชาติ อีกทั้งในฐานะที่เป็นผู้บังคับการพลาธิการและสรรพาวุธ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพัสดุ ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบพัสดุ แต่กลับไม่นําเสนอข้อเท็จจริงในการประกวดราคาในกรณีที่มีผู้มีสิทธิเสนอราคาเพียงรายเดียว รวมทั้งเหตุผลและความจําเป็นที่จะต้องดําเนินการประกวดราคาต่อไป เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาในการอนุมัติจัดซื้อ

การกระทําดังกล่าวจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ฐานเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทําการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออํานวยแก่ผู้เข้าทําการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับหน่วยงานของรัฐตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล มาตรา 12 และฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และเป็นความผิดวินัย ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ ตาม พ.ร.บ.ตํารวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 79(1)

ส่วนการกระทําของ พล.ต.ท.ประชิน วารี พล.ต.ต.สมพงษ์ น้าเจริญ และ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ไม่ได้รู้เห็นการดําเนินการมาตั้งแต่ต้น แต่อยู่ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคา โดยการที่ต้องตรวจสอบศูนย์ซ่อมรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ดังกล่าวตามที่เสนอมาว่ามีอยู่จริงหรือไม่ แต่กลับไม่มีการตรวจสอบแม้กระทั่งการสุ่มตัวอย่างแต่อย่างใด คณะกรรมการประกวดราคากลับไม่ดําเนินการให้เหตุผลที่ไม่ยกเลิกการประกวดราคาในครั้งนี้ไว้อย่างชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาที่มีอํานาจในการอนุมัติจัดซื้อ จัดจ้าง การกระทําดังกล่าวเป็นความผิดวินัยฐานการรักษาวินัยในเรื่องไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีโดยไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ตาม พ.ร.บ.ตํารวจแห่งชาติ มาตรา 78(1) (1) และการกระทําผิดดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง การกระทําดังกล่าวจึงเป็นการกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 79(6) ส่วน พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจํานง นั้น ในฐานะกรรมการประกวดราคา เป็นข้าราชการบํานาญ จึงไม่มีความผิดทางวินัย

นอกจากนี้ การกระทําของ น.ส.รักชนก แจ๊ะซ้าย หรือ น.ส.สุพิชญา สองมณี กรรมการผู้จัดการบริษัท คาร์แทรคกิ้ง จํากัด ที่ได้ยื่นเสนอราคาต่อสํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดยเสนอเอกสารหนังสือรับรองการเป็นตัวแทนจําหน่ายให้บริการซ่อมบํารุงตามมาตรฐานว่ามีตัวแทนจําหน่ายให้บริการซ่อมบํารุงครบทั้ง 76 จังหวัด เพื่อมีเจตนาให้คณะกรรมการประกวดราคาพิจารณาให้บริษัท คาร์แทรคกิ้ง เป็นผู้มีสิทธิเสนอราคาต่อสํานักงานตํารวจแห่งชาติ การกระทําดังกล่าวถือว่า น.ส.รักชนก ได้กระทําการอันเป็นความผิดฐานร่วมกันในการเสนอราคา โดยเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐ อันมิใช่เป็นในทางประกอบธุรกิจปกติ ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ส่วน นายปิติ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทเกอร์มอเตอร์ จํากัด ได้แจ้งรายชื่อที่ตั้งของตัวแทนจําหน่ายรถจักรยานยนต์ซึ่งให้บริการซ่อมบํารุงตามมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ของบริษัท ไทเกอร์ มอเตอร์ จํากัด ครบทุกจังหวัด ซึ่งไม่เป็นความจริง จึงมีมูลความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทําความผิดของ น.ส.รักชนก แจ๊ะซ้าย อันมีมูลเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล มาตรา 4 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

อีกด้านหนึ่ง ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้แถลงผลการประชุมกรณีกล่าวหานายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กับพวก 41 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 11 คน และคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา 6 คณะ รวม 30 คน ร่วมกันกําหนดคํานิยาม คําว่า “ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศของแผงเซลล์แสงอาทิตย์” ในการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างโครงการเร่งรัด ขยายบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (SOLAR HOME SYSTEM) โดยมิชอบและมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ซึ่งได้มีคําสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นดําเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ปรากฏว่า คณะกรรมการ กฟภ.ทั้ง 11 คน ได้มีมติเห็นชอบให้ กฟภ.ดําเนินการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างโครงการเร่งรัด ขยายบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (SOLAR HOME SYSTEM) จํานวน 6 ครั้ง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา จํานวน 6 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา โดยกําหนดเงื่อนไขในเอกสารการประกวดราคาว่าจะต้องเป็น “ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศของเซลล์แสงอาทิตย์”

ต่อมาคณะกรรมการ กฟภ.มีมติเห็นชอบกรอบความหมายของคําว่า “ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศของเซลล์แสงอาทิตย์” ตามเงื่อนไขการประกวดราคาว่า “แผงเซลล์แสงอาทิตย์ดังกล่าว ต้องมีกระบวนการผลิต และหรือมีการประกอบเชื่อมวงจรแล้วเคลือบสารป้องกันความชื้น ตามกรรมวิธีที่ได้มาตรฐานประกอบกันเป็นแผงเซลล์สําเร็จรูปแล้วในประเทศไทย” การกําหนดกรอบความหมายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เป็นการสรุปจากประกาศประกวดราคา และข้อกําหนดขอบเขตและเงื่อนไขการว่าจ้างก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์สําหรับครัวเรือนชนบทห่างไกล ซึ่งกําหนดว่าผู้เสนอราคาต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ผลิต หรือผู้แทนจําหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทยของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ แผ่นเซลล์แสงอาทิตย์ที่นํามาประกอบภายในแผงเซลล์แสงอาทิตย์ทุกเซลล์ ต้องไม่มีรอยด่างอันเนื่องมาจากความบกพร่องในการผลิต และภายในแผงเซลล์แสงอาทิตย์ จะต้องมีการผนึกด้วยสารกันความชื้น

มติคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดังกล่าว เป็นเพียงการอธิบายความหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและคุณลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ของผู้มีสิทธิเข้าประกวดราคาตามที่ได้ประกาศประกวดราคาไว้แล้วเท่านั้น มิใช่เป็นการเพิ่มเติมความหมายของคําว่า “พัสดุที่ผลิตในประเทศ” โดยมีเจตนามุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เนื่องจากมีผู้ผลิตที่เข้าข่ายเป็นผู้ผลิตภายในประเทศ รวม 8 ราย และในการดําเนินการโครงการดังกล่าว มิใช่การจัดซื้อแผงเซลล์แสงอาทิตย์เท่านั้น ยังรวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดตั้งยังบ้านเรือนราษฎรที่อยู่นอกเขตจําหน่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอีกด้วย

สําหรับคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ทั้ง 6 คณะ ได้ดําเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้เสนอราคาโดยให้คะแนนผู้เสนอราคาแต่ละราย ตามหลักเกณฑ์ที่กําหนด ในเอกสารประกวดราคา และข้อบังคับ กฟภ.ว่าด้วยการจ้าง ปี 2543 และในการประกวดราคาแต่ละครั้งจะมีผู้สนใจยื่นเสนอราคา 4-6 ราย ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าคณะกรรมการพิจารณาผลปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือดําเนินการโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ตามที่กล่าวหา คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 41 ราย ได้ดําเนินการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างโครงการ เป็นไปตามข้อบังคับ กฟภ.ว่าด้วยการจ้าง ประกาศประกวดราคา และข้อกําหนดขอบเขตและเงื่อนไขการว่าจ้างโดยชอบแล้ว โดยมิได้กระทําการอันเป็นมูลความผิดตามข้อกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป


กำลังโหลดความคิดเห็น