“สุรนันทน์” เผยรัฐบาลยังมึนผลวินิจฉัยศาล รธน.การเลือกตั้ง 2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้ระบุเป็นโมฆะ โยนกฤษฎีกาศึกษาคำตัดสิน ส่วนการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต. ขณะเดียวกัน หวัง ป.ป.ช.ให้พยาน 11 ปากแจงคดี “ยิ่งลักษณ์” ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อยทุจริตจำนำข้าว โบ้ยม็อบทำงดจัดงานวันข้าราชการ โวย กปปส.ปิดสถานที่ราชการทำงานสะดุด เศรษฐกิจแย่ ชี้ความขัดแงต้องจบที่โต๊ะเจรจา
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งมีการพิจารณาต่ออายุโครงการลดค่าครองชีพของประชาชน ด้วยการให้บริการรถเมล์ และรถไฟฟรี ที่จะหมดอายุในวันที่ 31 มี.ค. 57 กระทรวงคมนาคมขอความเห็นชอบกู้เงิน 4,292.72 ล้านบาท ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และสอบถามข้อศึกษาเบื้องต้นคำวินิจฉัยกลางศาลรัฐธรรมนูญ กรณีเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยกฏหมายรัฐธรรมนูญว่า กรณีคำวินิจฉัยกลางศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ได้ให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาไปทำการศึกษาและสรุปเป็นประเด็นเสนอกลับมา เนื่องจากคำวินิจฉัยกลางไม่ไดัใช้คำว่าโมฆะ ใช้คำว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงต้องดูว่าไม่ชอบอย่างไร และการดำเนินการต่อไปอย่างไรที่จะทำให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
“คิดว่า กกต.จะบอกได้ดีที่สุด แต่ขณะเดียวกันต้องรอสอบถามความเห็นจากกฤษฎีกาอีกครั้ง ซึ่งจะได้มีการหารือในที่ประชุม ครม.ที่สำคัญยังอยู่ที่บทบาทของ กกต.ที่ต้องคุยกับฝ่ายกฏหมาย และพรรคการเมืองต่างๆ เมื่อมีการกำหนดวันที่ชัดเจนก็บอกรัฐบาลมา รัฐบาลก็พร้อมปฏิบัติตามที่ฝ่ายกฎหมายและ กกต.ต้องการ”
นายสุรนันทน์ยังกล่าวถึงการเข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในข้อกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า ด้วยเวลาที่มีจำกัด เอกสารต่างๆ ที่รวบรวมได้ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว เพื่อให้เห็นว่าข้อกล่าวหามีความสลับซ้ำซ้อนพอสมควร แต่ยังยืนยันนายกฯ ไม่ได้ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ใดๆ การกล่าวหานายกฯไม่ได้กล่าวหาทุจริต เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ก็จะมีเอกสาร ชี้ให้เห็นชัดนายกฯ ไม่ได้ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ นายกฯ สั่งการกำชับปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ข้าราชการ นำข้อท้วงติงต่างๆ มาพิจารณา
“ก็หวังว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะพิจารณาในรายละเอียด หากมีข้อสงสัยก็พร้อมส่งข้อมูลเพิ่มเติม และซักถามมาได้ รวมถึงพยานบุคคล 11 คน พร้อมให้ความกระจ่าง หวัง ป.ป.ช.ให้โอกาส 11 ปากชี้แจงข้อเท็จจริง แต่คำวินิจฉัยเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. หากต่างฝ่ายต่างให้เกียรติการปฏิบัติหน้าที่เราก็สบายใจ หวังว่า ป.ป.ช.ได้ศึกษาเอกสารอย่างเต็มที่”
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการงดจัดงานวันข้าราชการพลเรือน ที่ทำเนียบรัฐบาล ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 1 เม.ย.ของทุกปีว่า ปีนี้รัฐบาลได้มอบให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปดำเนินการ โดยให้หัวหน้าหน่วยราชการเป็นผู้มอบรางวัลข้าราชการดีเด่น และจัดงานในแต่ละหน่วยงาน เนื่องจากไม่มีความสะดวกในเรื่องของสถานที่ โดยเฉพาะที่ทำเนียบรัฐบาล และความขัดแย้งทางการเมือง หากกลุ่ม กปปส.ไปปิดล้อมก็จะกลายเป็นประเด็นการเมืองไป
“การที่ กปปส.เคลื่อนขบวนไปปิดล้อมศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เป็นการแสดงสัญลักษณ์ก็ว่ากันไป แต่เชื่อว่าข้าราชการทุกคนปฏิบัติหน้าที่ให้กับนักการเมืองทุกฝ่าย แม้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ข้าราชการก็เคยปฏิบัติงานให้ เชื่อข้าราชการเป็นมืออาชีพพอ อยากทำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติ ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้บังคับบัญชาก็พร้อมทำงาน โดยเฉพาะที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย”
นายสุรนันทน์กล่าวว่า ดังนั้นขอให้ กปปส.คิดดูให้ดีว่าการไปปิดล้อมสถานที่ราชการนั้น มันทำให้การทำงานเพื่อประชนเกิดการสะดุดอย่างไร เศรษฐกิจส่วนหนึ่งต้องขับเคลื่อนโดยข้าราชการ ถ้าหน่วยราชการทำงานไม่ได้ เศรษฐกิจทำงานไม่ได้ผลเสียหายตกอยู่กับประชาชน ไม่ได้ตกอยู่กับนักการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะฉะนั้นความขัดแย้งทางการเมืองมีได้ ถกเถียงกันได้ แต่ควรอยู่บนโต๊ะเจรจา แต่ถ้าจะไม่ใช่ปิดสถานที่ราชการ ทำให้งานราชการสะดุด เสียหายต่อประเทศชาติ การประท้วงตามสิทธิแต่การจำกัดสิทธิข้าราชการ ถือเป็นความผิดตามกฏหมาย เมื่อถามว่าทำไมไม่จัดการกับคนเหล่านี้ที่ทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าจะไม่ใช่ปิดสถานที่ราชการ ทำให้งานราชการสะดุด เสียหายต่อประเทศชาติ การประท้วงตามสิทธิแต่การจำกัดสิทธิข้าราชการ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่จัดการกับคนเหล่านี้ที่ทำผิดกฎหมาย นายสุรนันทน์กล่าวว่า ดำเนินคดีอยู่ แต่นโยบายรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกัน ถ้ายั่วยุไปสู่ความรุนแรงก็จะเห็นเกิดการเข้าไปสู่ลู่ทางที่เราไม่อยากเห็น ถ้ามีความรุนแรงก็จะเกิดกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเข้ามา