xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” จี้ “ปู” ดู 2 นายกฯ หุ่นเชิดรุ่นพี่แจง ป.ป.ช.เอง ชี้เมษาเดือด แดงป่วนขู่องค์กรอิสระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
รอง หน.ปชป.ย้ำอยากให้นายกฯ แจง ป.ป.ช.คดีโกงข้าวเองพรุ่งนี้ ดักอ้างดูนโยบายปัดความรับผิดชอบไม่พ้น ใช้อำนาจมิชอบให้คนอื่นแจงแทนไม่ได้ เหตุใช้ดุลยพินิจคิดเอง แนะแจงเองเดินตาม 2 นายกฯหุ่ นเชิดแม้วรุ่นพี่ เย้ยอ้างแต่ ปชต.ต้องเคารพตรวจสอบด้วย คาด “เมษาเดือด” เหตุมีคดีโกงข้าว ส.ว.ชงศาลวินิจฉัยนายกฯ พ้นเก้าอี้ ปมย้าย “ถวิล” ทำสาวกขู่ป่วนหากตัดสินไม่เข้าหู แถม “คางคก” นัดร่วมฝูงสุมอาวุธสู้ทหาร



วันนี้ (30 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะต้องไปให้ถ้อยคำคดีทุจริตจำนำข้าวต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ว่า อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปให้ถ้อยคำด้วยตัวเองเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพราะอ้างว่าดูแค่นโยบายและไม่มีการทุจริต ทั้งนี้แม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะดูแลด้านนโยบาย แต่ความรับผิดที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดได้ ดังนั้นจึงควรไปชี้แจงด้วยตัวเอง เพราะข้อกล่าวหาต่อโครงการทุจริตจำนำข้าว คือ ส่อจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งตนคิดว่าการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบไม่สามารถให้คนอื่นไปอธิบายแทนได้จึงต้องไปอธิบายด้วยตัวเองว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เนื่องจากเป็นดุลพินิจในการเซ็นเอกสาร สั่งการ ชี้แจงแถลงถ้อยคำเกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าว ซึ่งคนอื่นไม่ทราบความคิดและจิตใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ว่าดำเนินการนโยบายนี้ในฐานะประธาน กขช.ใช้ดุลพินิจอย่างไรในการพิจารณาเรื่องนี้

นายองอาจกล่าวว่า ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์มั่นใจว่าไม่ผิดก็สามารถไปตอบด้วยตัวเองอยู่แล้ว และควรปฏิบัติตนให้เป็นไปตามนายกรัฐมนตรีรุ่นพี่ได้ปฏิบัติ คือ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งถูก ป.ป.ช.เรียกไปชี้แจงให้ถ้อยคำ ซึ่งบุคคลทั้งสองก็เดินทางไปด้วยตัวเองเพราะไม่มีใครสามารถตอบแทนทั้งสองคนได้ในคดีความที่ขึ้นไปสู่ ป.ป.ช. จึงคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ชอบอ้างประชาธิปไตย บอกจะยอมตายในสนามประชาธิปไตยก็ต้องเข้าใจว่าหัวใจสำคัญของประชาธิปไตย คือ การเคารพกระบวนการตรวจสอบและกระบวนการยุติธรรม

“เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและกระบวนการยุติธรรม ก็ควรให้ความเคารพและยอมรับการตรวจสอบด้วยการไปให้ถ้อยคำต่อ ป.ป.ช.ด้วยตนเอง ซึ่งจะถือเป็นความสง่างามของคนเป็นนายกรัฐมนตรีที่เคารพกระบวนการตรวจสอบ และเห็นว่าหากเรื่องนี้ไปถึงสมาชิกวุฒิสภาก็ต้องไปชี้แจงด้วยตนเองโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้”

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประเมินว่า นับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไปการเมืองจะดุเดือดรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มวิกฤตรุนแรงขึ้นจึงขอเรียกว่าเดือนนี้เป็น “เมษาเดือด” เพราะคดีความที่เกี่ยวกับคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยกำลังเข้าสู่องค์กรอิสระ และศาลอย่างต่อเนื่องในหลายคดีความ แต่ที่สำคัญคือ การทุจริตจำนำข้าว และกรณีที่ 27 ส.ว.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ จากการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งทำให้กลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาลออกมาเคลื่อนไหวโดยมีการพูดถึงขนาดว่าหากมีการดำเนินการที่กระทบต่อสถานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นในหลากหลายรูปแบบอันอาจนำไปสู่ความรุนแรง

ทั้งนี้ มีสัญญาณส่อให้เห็นว่าเดือนเมษายนจะนำไปสู่วิกฤตหลายประการ เช่น การเปลี่ยนให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ มาเป็นประธาน นปช. นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 5 เม.ย.ทั้ง 20 จุดรอบ กทม. สะสมอาวุธเพื่อต่อสู้กับทหาร จัดการร้านค้าและรถที่ติดธงชาติ ดังนั้นทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาลว่าจะปล่อยให้เดือนเมษายนเป็นเมษาเดือดหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น