เกาะกระแส
00 บรรยากาศเริ่มเขม็งเกลียว ร้อนแรงรับกับอุณหภูมิช่วงหน้าร้อนได้จริงๆ เพราะหลายเหตุการณ์กำลังสรุปแทบจะทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ชี้อนาคตของแต่ละฝ่าย แต่ที่กำลังตกที่นั่งลำบากเห็นจะเป็น “ระบอบทักษิณ” กำลังวิกฤตแทบไม่มีที่ยืนแล้ว ล่าสุดศาล รธน.ได้ตัดสินให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบเต็มๆ อย่างน้อยก็ “ดับฝัน” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่คิดใช้การเลือกตั้งใช้สูตรเดิมกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบต้องหลุดลอยไปต่อหน้า และนับจากนี้ก็จะ “โดนขึงพืด” กลางกระดานจนหมดแรงลงไปเรื่อยๆ
00 การที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดของ นิคม ไวยรัชพานิช ในคดีแก้ไข รธน.เกี่ยวกับที่มา ส.ว.นี่ก็กระทบต่อเนื่องโดนเข้าไปเต็มๆ เพราะคิดจะให้ นิคม “หน้าด้าน” รักษาการตำแหน่งประธานวุฒิฯ เพื่อขวางคลอง ไม่ให้มีการเสนอชื่อ “นายกฯคนกลาง” ตามมาตรา 3 มาตรา 7 ได้สำเร็จ เป็นการซื้อเวลาไปจนกว่าจะมี ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้ามาเสียก่อน แต่เมื่อถูกชี้มูลฯแบบนี้ก็เลี่ยงไม่ออก ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ปิดทางไปอีก
00 อีกไม่กี่วันราว “ต้นเดือนเมษายน” ตามปฏิทินที่ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ที่ดูแลคดี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุจริตจำนำข้าว ย้ำว่าจะสามารถชี้มูลได้ แม้ว่าฝ่าย ระบอบทักษิณ จะพยายามยื้อทาง กม.ขอเวลาในการรวบรวมเอกสารไปชี้แจง แต่ก็เลื่อนไปได้แค่ 15 วัน และเมื่อพิจารณาจากอาการ “ป่วน” ของคนเสื้อแดงและจำนวนระเบิดที่ลงมาอย่างถี่ยิบ มันก็เหมือนรู้ชะตากรรมล่วงหน้าว่า “โดนแน่” นั่นคือ “โดนชี้มูลความผิด” นั่นคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯ ทันที ไอ้ที่บอกว่าลาออกไม่ได้นั้น นาทีแบบนี้ต้องลุกจากเก้าอี้สถานเดียว และที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ หลังจากนั้นก็เสี่ยงต่อการ “เดินเข้าคุก” เป็นใครก็ย่อมหวั่นไหว เพราะอนาคตข้างหน้ากำลังเปลี่ยนจาก “หน้ามือเป็นหลังเท้า”
00 อย่างที่บอก สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ของระบอบทักษิณก็คือ “เล่นเกมแรง” และใช้มวลชนเสื้อแดงเคลื่อนไหวข่มขู่คุกคาม แต่นั่นก็จะยิ่ง “เร่งให้หายนะ” มากขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนหัวโจกจาก “ธิดา ถาวรเศรษฐ” มาเป็น “จตุพร พรหมพันธุ์” ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่สมควรเปลี่ยนตัว แต่เปลี่ยนแล้วมันน่าจะดูดี เป็นผู้เป็นคนให้มากกว่านี้ เพราะการให้ ตู่-จตุพร นำทัพแดง มันก็ไม่ต่างจากให้ “กุ๊ยนำทัพ” มันไม่มีเครดิตในภาพกว้าง จะมีก็แต่เฉพาะพวกเดียวกันเอง “อวยกันเองครื้นเครงในกะลา” อย่าได้แปลกใจที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงระยะหลังมวลชนจะเหลือแค่หลักพัน ไม่คึกคักเหมือนเก่า แม้ว่าจะพยายามโหมระดมกันอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่ก็ทำได้แค่นั้น แค่นั้นจริงๆ
00 ปรากฏการณ์ที่เห็นก็ล้วนมีแต่ความ “กักขฬะ” หยาบคาย ถ่อยเถื่อน ซึ่งมันก็พอหลับตานึกภาพได้อยู่แล้วว่าบรรยากาศจะออกมาแบบไหน คนดีๆ ที่พอมีความคิดอยู่บ้างล้วนเบือนหน้าหนี เพราะเวทีคนเสื้อแดงก็มีพวก “ล้มเจ้า” จาบจ้วงสถาบันฯ พวกที่เพ้อเจ้อเรื่อง สปป.อีสานล้านนา ยิ่งแสดงออกมาก็ยิ่งมีแต่เสียง “ยี้” กลับมา สังคมได้เห็นธาตุแท้มากขึ้นทุกวัน และที่สำคัญผลงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านมากว่าสองปี ถือว่า “ห่วยแตก” ที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมา พิสูจน์ได้แล้ว ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ เพื่ออำนาจของ ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวนี้ทั้งสิ้น ขณะ ลิ่วล้อขี้ข้าก็พลอยได้ “เศษเนื้อข้างเขียง” ไปด้วย ถามว่าคนอย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รวมทั้ง เหวง โตจิราการ นอกจากสู้ให้ ทักษิณ แล้วยังสู้เพื่อตัวเองให้รวย ให้ตัวเองได้เป็น ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรมต.หรือไม่ แล้วไหนละผลประโยชน์ของมวลชนเสื้อแดง เห็นมีคุกตะราง ไม่มีใครเหลียวแล อ้อ แล้วเงินจำนำข้าวของชาวนา ทำไมไม่ช่วยทวงจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ละ ไหนว่าต่อสู้เพื่อ “ไพร่” ล่ะ ทุด !!
00 ถึงได้บอกว่า ไม่รู้ว่า ทักษิณ ชินวัตร นี่มันโง่ หน้ามืด ถึงได้ตั้งให้ จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นหัวโจกคนเสื้อแดง เพราะมีแต่เสียงยี้ ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวต่อต้าน ข่มขู่คุกคาม องค์กรอิสระ ศาล ในเวลานี้ สังคมก็มองออกแล้วว่าเป็นฝีมือใคร สังคมก็ยิ่งรังเกียจ เพราะนี่คือการไม่เคารพกติกา เอาแต่ได้ ทำตัวอยู่เหนือ กม.ไม่มีใครยอมรับหรอก หากไม่เชื่อก็ลองมาวัดกันดูก็ได้ว่า การชุมนุมใหญ่วันที่ 29 มีนาคม ของ มวลมหาประชาชน กปปส.ที่นำโดย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ กับวันดีเดย์ชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่นำโดย จตุพร พรหมพันธุ์ ที่กำหนดในต้นเดือน เม.ย.เพื่อข่มขู่ ป.ป.ช.ไม่ให้ตัดสินเอาผิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีทุจริตจำนำข้าวว ว่ามวลชนฝ่ายไหนจะมากกว่ากัน !!
