“ชวนนท์” ยกเลือก ส.ว.บัตรเสีย ไม่ลงคะแนน หลับทับสิทธิเพียบ สะท้อน ปชช.เบื่อการเมือง จี้ นายกฯทบทวน แก้ปัญหาก่อนเลือก ส.ส.แนะ 5 วิธีแก้วิกฤตศรัทธา นักการเมืองอยู่ใต้ กม.ยุติโกง เลิกให้ท้ายสาวกรุนแรง หยุดยัดคดีเลือกปฏิบัติ มี รบ.ไม่ลุอำนาจ เสนอเลื่อนเลือกตั้งไป 4-6 ด.ถกให้ ปชช.มั่นใจก่อนใช้สิทธิ ฝืนไปโมฆะซ้ำ ตอกแดงนัดร่วมฝูงใหญ่ เปิดทางเผด็จการปู ขอทหารจับตาส่อรุนแรง ชายชุดดำส่อคืนชีพ
วันนี้ (31 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้ง ส.ว.ที่ปรากฏว่าผู้ได้รับเลือกมีความใกล้ชิดกับกลุ่มการเมืองว่า มีประเด็นที่น่าสนใจคือ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 42 มีผู้กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนร้อยละ 12 ประมาณ 2 ล้านคะแนน และมีบัตรเสียอีกจำนวนหนึ่ง สะท้อนประชาชนเบื่อหน่ายกับกระบวนการทางการเมือง จึงไม่พร้อมที่จะแสดงตนในฐานะเจ้าของประเทศ เพราะเกิดวิกฤตศรัทธาต่อระบบการเมือง การเลือกตั้งจึงไม่สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชนอย่างแท้จริง ถึงเวลาที่ฝ่ายการเมืองต้องยอมรับว่าเกิดวิกฤตต่อฝ่ายการเมืองอย่างรุนแรง แม้ว่าการเลือกตั้ง ส.ว.จะไม่มีความรุนแรง แต่มีประชาชนเกินกว่าครึ่งหนึ่งไม่ใช้สิทธิและมีจำนวนมากที่จะไม่ไว้วางใจที่จะลงคะแนนให้กับผู้ใด จึงถึงเวลาที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องพิจารณาทบทวนว่าอะไรเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ประชาชนปฏิเสธการเลือกตั้ง เพราะหากปล่อยไปเช่นนี้ตนเชื่อว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ที่พยายามจะยัดเยียดให้สังคมไทยในขณะนี้จะเกิดปัญหาตามมา จึงควรแก้ปัญหาก่อนเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง โดยพรรคขอเสนอ 5 ประการให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง หากพรรคเพื่อไทยยอมรับจะแก้วิกฤตศรัทธาระหว่างประชาชนกับนักการเมืองได้ไม่มากก็น้อย
1.นักการเมืองต้องแสดงให้เห็นว่าอยู่ภายใต้กฎหมาย เคารพกระบวนการยุติธรรม ศาล และองค์กรอิสระ รวมทั้งศาลตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำได้ทันที โดยไม่ต้องแก้กฎหมายหรือรอการปฏิรูป เพียงแค่หยุดวิจารณ์องค์กรอิสระ ศาล ที่ทำตามหน้าที่ แต่ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เอาเปรียบประชาชนมีพฤติกรรมอยู่เหนือกฎหมาย หลีกหนีการตรวจสอบ เชื่อประชาชนไม่ให้โอกาสกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก
2.ต้องยุติการทุจริตคอร์รัปชันให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยเริ่มจากโครงการทุจริตจำนำข้าวที่ชาวนาถูกโกง และยังไม่สามารถปิดบัญชีได้โดยมีการขาดทุนปีละไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนล้าน ปัญหาการสวมสิทธิ ข้าวเน่า ต้องเร่งแก้ไขให้ประชาชนมั่นใจก่อนกลับไปเลือกตั้งว่าจะไม่ได้นักการเมืองที่ออกนโยบายประชานิยมเข้ามาโกง โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องร่วมมือกับ ป.ป.ช.สาวให้ถึงตัวคนผิดมาลงโทษก่อนเลือกตั้งใหม่
3.นางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องประกาศยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ เพราะประเทศไทยเหมือนมิกสัญญีพกอาวุธสงครามโดยไม่ถูกดำเนินคดี แม้แต่การจับกุมการ์ด กวป.หน้า ป.ป.ช.ก็ไม่มีการสาวถึงผู้บงการ รวมถึงแนวร่วมของนายโกตี๋ และระเบิดที่มีนบุรี ซึ่งสะท้อนถึงการจัดตั้งที่จะก่อเหตุรุนแรงอย่างเป็นระบบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องจัดการสร้างบรรยากาศความปลอดภัยกลับมาสู่สังคมไทย แต่ถ้ายังให้ท้ายคนเหล่านี้นอกจากการเลือกตั้งไม่เกิดแล้ว จะเกิดสงครามกลางเมืองแทน
4.ต้องหยุดให้เจ้าหน้าที่รัฐเลือกปฏิบัติ โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องสั่งการให้มีการปฏิบัติหน้าที่กับประชาชนอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ดำเนินคดีเฉพาะฝั่งตรงข้ามรัฐบาล แต่คดีที่กระทำต่อประชาชนไม่มีความคืบหน้า เพราะหากยังเลือกปฏิบัติประชาชนจะปฏิเสธการใช้อำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม
5.ประชาชนต้องมีความมั่นใจว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงนั้น ไม่ว่าใครจะได้เป็นเสียงข้างมากเป็นรัฐบาล ต้องไม่มีรัฐบาลที่ลุแก่อำนาจ นำอำนาจประชาชนไปใช้ในทางที่ผิด ทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรม เช่น การออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดให้คนโกง
หากมีการพูดคุยทั้งห้าประเด็นนี้อย่างชัดเจนจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งได้ แต่ถ้ายังไม่มีแนวทางแก้ปัญหาโดยพฤติกรรมไม่เปลี่ยนแปลง ก็เห็นว่าการเลือกตั้งที่นางสาวยิ่งลักษณ์อยากเห็นคงเกิดยาก ทั้งนี้พรรคพร้อมให้ความร่วมมือโดยขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป 4-6 เดือน เพื่อหารือถึงกระบวนการที่จะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจก่อนเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งครั้งใหม่
“พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องว่าจะกำหนดการเลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่ถ้าเดินแบบนี้การเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้น หรือถ้าเกิดก็อาจโมฆะอีก จึงขอให้เพื่อไทยยอมรับความจริงว่ามีวิกฤตแล้วมาร่วมมือกันแก้ไข หากสามารถทำให้ประชาชนวางใจในห้าประการที่พรรคเสนอ ก็จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งได้ แต่ถ้าไม่ทำประชาชนก็จะไม่ยอมรับและขัดขวางการเลือกตั้ง เพราะพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ไม่สำนึกต้นเหตุว่าวิกฤตเกิดจากการบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จึงต้องแก้ที่ต้นเหตุไม่ใช่โทษคนอื่น” นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงการระดมคนเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ในวันที่ 5 เมษายน 2557 ว่า เป็นการสังหารประชาธิปไตยเดินหน้าเผด็จการยิ่งลักษณ์ ด้วยวิธีนอกรัฐธรรมนูญ ใช้กองกำลังส่วนตัวมาจัดการกับประชาชนที่ต่อต้าน โดยตนเกรงว่าจะมีการแฝงตัวก่อความรุนแรงและโยนความผิดให้ผู้อื่น จึงขอให้ทหารจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชน โดยเฉพาะคนเสื้อแดงที่มักจะมีการแฝงตัวของชายชุดดำที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมปฏิบัติการสร้างความรุนแรงกับทั้งคนเสื้อแดง และ กปปส.จึงขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามป้องกันเหตุความสูญเสียในช่วงห้าวันอันตรายนี้