xs
xsm
sm
md
lg

ลำพูนแชมป์ใช้สิทธิ! ชลบุรีน้อยสุด กกต.คาดประกาศ ส.ว.ใน 7 วัน แจกเหลืองแดงก่อน 9 เม.ย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (แฟ้มภาพ)
กกต.แถลงสรุปเลือกตั้ง ส.ว.เผยลำพูนแชมป์ใช้สิทธิ ชลบุรีคนลงคะแนนน้อยสุด “บุญส่ง” เผย 9 เรื่องร้องเรียน ประเดิมชงฟันเหตุผู้สมัครหาเสียงหยาบคายเข้าที่ประชุม คาดประกาศผลใน 7 วัน แจกเหลือง-แดงได้ก่อน 9 เม.ย. นัดประชุมเลือกตั้ง ส.ส.พรุ่งนี้

วันนี้ (31 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายสมศักดิ์ สุริยมงคล รองเลขาธิการ กกต. แถลงสรุปข้อมูลการเลือกตั้ง ส.ว.เป็นการทั่วไปอย่างเป็นทางการว่า การเลือกตั้ง ส.ว.เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา เขตเลือกตั้งมี 77 เขต 93,597 หน่วยเลือกตั้ง โดยการใข้สิทธิเลือกตั้งนั้น จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมี 48,787,153 คน ผู้มาใช้สิทธิ 20,873,423 คน คิดเป็นร้อยละ 42.78 บัตรเสีย 1,086,184 บัตร คิดเป็นร้อยละ 5.20 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 2,496,341 บัตร คิดเป็นร้อยละ 11.96 ซึ่งจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดได้แก่ จ.ลำพูน ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 68.39 จ.แม่ฮ่องสอน ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 67.54 และ จ.ปราจีนบุรี ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 61.10 ส่วนจังหวัดที่ผู้มาใช้สิทธิน้อยมากที่สุดได้แก่ กทม. ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 28.61 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 27.03 และ จ.ชลบุรี ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 24.99 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถิติจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งนี้จะน้อยกว่าปี 2551 แต่ในภาวะบ้านเมืองที่เกิดความขัดแย้ง ตัวเลขที่ออกมาก็ถือว่าน่าพอใจ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าที่ ส.ว.กทม. เคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเห็นชอบให้ชี้มูลความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเมื่อปี 2554 นั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลการเลือกตั้ง เพราะยังไม่มีคำร้องคัดค้านในประเด็นดังกล่าวส่งมายัง กกต. ซึ่งขณะนี้คำร้องที่คัดค้านคุณหญิงจารุวรรณมีเพียงกรณีที่นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ร้องว่านายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่ม กปปส.ในลักษณะปราศรัยชี้นำและยกตัวอย่างให้เลือกตั้งคุณหญิงจารุวรรณ โดยคำร้องนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดว่าจะรับหรือไม่รับเป็นคำร้อง

ด้านนายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน เปิดเผยถึงคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ว.ว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนเข้ามาแล้วทั้งหมด 9 เรื่อง โดยเป็นเรื่องของ กทม.2 เรื่อง เกี่ยวกับประเด็นการติดป้ายแนะนำตัวผู้สมัครในที่ห้ามติด และอีกประเด็นเกี่ยวกับกรณีการช่วยเหลือผู้สมัครในการหาเสียงบนเวที เป็นการหาเสียงกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวนลุมพีนี แต่เป็นการกระทำของบุคคลอื่นไม่ใช่ตัวผู้สมัคร ส่วนอีก 7 เรื่อง ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ นครปฐม เลย ศรีสะเกษ สมุทรสาคร สิงห์บุรี และหนองบัวลำภู จังหวัดละ 1 เรื่อง โดยมี 3 จังหวัดที่เป็นเรื่องร้องเรียนผู้ที่ไม่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง ประกอบด้วย เชียงใหม่ นครปฐม และเลย ส่วนอีก 6 จังหวัดเป็นเรื่องร้องเรียนผู้ที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องคัดค้านของ จ.อำนาจเจริญ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่ โดยทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหาเสียงเกินอำนาจหน้าที่และการปราศรัย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี 1 เรื่องที่รับเป็นสำนวนแล้ว เตรียมเสนอเข้าสู้ที่ประชุม กกต.เพื่อชี้ขาด โดยประเด็นตามคำร้องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง เป็นเพียงประเด็นการหาเสียงโดยใช้คำพูดไม่สุภาพ ส่วนอีก 8 เรื่องได้ทำการสรุปสำนวนเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะรับคำร้องหรือไม่

ส่วนบุคคลที่ได้รับคะแนนสูงสุดและไม่มีคำร้องคัดค้านนั้นมั่นใจว่ากกต.จะสามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ภายใน 7 วัน ส่วนบุคคลที่มีคำร้องพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดงนั้น กกต.จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 เม.ย. ก่อนที่จะให้กฤษฎีกาพิจารณาภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตาม ส่วนสาเหตุของการเลือกตั้งส.ว.ที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยนั้น มองว่าส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยและสถานการณ์การเมืองรวมทั้งความไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะหรือไม่ เลือกตั้งไปแล้วจะได้อะไร

นายบุญส่งกล่าวด้วยว่า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญนั้น แต่คำวินิจฉัยศาลก็ไม่ได้ชี้แนะแนวทางชัดเจนว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งแตกต่างจากคำวินิจฉัยเมื่อปี 49 ที่กำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการอย่างชัดเจน โดยในวันที่ 1 เม.ย. กกต.จะมีการหารือในที่ประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในเวลา 14.00 น. แต่ในหลักการแล้ว หาก กกต.ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรนั้น กกต.ก็ต้องไปหารือกับพรรคการเมืองทั้ง 73 พรรค เพื่อกำหนดแนวทางต่อไป แต่ทั้งนี้มองว่าการที่มีรัฐบาลรักษาการอยู่นานเกินไปก็ไม่เป็นผลดีเพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ได้วางข้อจำกัดไว้มากทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ต่างจากรัฐธรรมนูญปี 40 ที่มีข้อห้ามเพียงการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงเท่านั้น

“ตั้งแต่ กกต.ชุดนี้เข้ามารับตำแหน่ง ก็ได้มีมติร่วมกันว่า การที่ กกต.ทั้ง 5 คนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนั้นถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัวไม่ผูกพันกับ กกต. และยังมีมติว่าเวลาจะให้สัมภาษณ์อะไรอย่าล้ำเส้นฝ่ายการเมืองเพราะจะถูกมองว่าไม่เป็นกลาง ส่วนการเปิดเผยมติที่ประชุม กกต.นั้นได้มอบหมายให้กับนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. ในฐานะโฆษกสำนักงาน กกต.เป็นผู้แถลง และจะมีผลผูกพันกับ กกต. นอกจากนี้ยังได้มีการคุยกันว่าอยากให้มติของ กกต.ออกมาในรูปแบบเอกฉันท์จะได้ไม่เป็นข้อครหา อีกทั้งยังมีข้อตกลงว่าในการประชุมจะไม่ให้นำโทรศัพท์เข้าที่ประชุมเพราะเกรงว่าจะไม่เป็นความลับ แต่ก็ห้ามกันไม่ได้ และการที่ให้เลขาธิการ กกต.เป็นผู้แถลงมตินั้นถือเป็นการบังคับกรายๆ ไม่ให้มีการเผยแพร่มติออกมา” นายบุญส่งกล่าว

นายบุญส่งกล่าวต่อว่า แม้จะมีมติอะไรออกมาแล้วหากประธาน กกต.เป็นผู้แถลงก็ยังถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวไม่มีผลผูกพัน กกต. ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนไม่รู้เห็นในเรื่องมติที่ประชุมไม่เคยถามกกต.ท่านอื่นแม้กระทั้งในชั้นการสืบสวน ตนก็ไม่เคยเข้าไปล้วงลูก แต่ถ้าที่ประชุก กกต.มีเพียง 4 คนก็จะมีการขานมติออกมาเพราะหากมีเสียงเท่ากันประธาน กกต.ต้องเป็นผู้ชี้ขาด

ด้านนายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้มีเรื่องเข้ามาทั้งหมด 36 เรื่อง ซึ่งมีการรวมคำร้องและแยกคำร้องในกรณีเดียวกันทำให้ขณะนี้มีคำร้องทั้งหมด 32 คำร้อง ซึ่ง กกต.รับไว้เป็นสำนวน 21 คำร้องและอยู่ระหว่างที่ กกต.จะพิจารณาไม่รับคำร้อง 6 คำร้อง ส่วนอีก 5 คำร้องที่เหลืออยู่ในชั้นสอบสวนข้อเท็จจริง และแม้จะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญชีว่าการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ทุกคดีทุกคำร้องจะต้องเสนอให้ กกต.พิจารณาทุกเรื่อง เนื่องจากคดีเลือกตั้ง มี 3 ประเด็นที่จะต้องพิจารณา คือ เรื่องการเพิกถอนสิทธิ สั่งเลือกตั้งใหม่ และดำเนินคดีทางอาญากับผู้ที่กระทำผิด ส่วนคำร้องที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กกต.จังหวัดนั้นก็อยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม

เมื่อถามถึงกรณีคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างที่ เขต 3 เชียงใหม่ ที่นางเยาวภา วงสวัสดิ์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้ง นายบุญส่งกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้เข้าสู่ที่ประชุม 2 รอบแล้วแต่ กกต.บางท่านได้ขอพิจารณาหลักฐานเพิ่มเติม จึงยังไม่มีมติออกมาต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กกต.อีกครั้ง คาดว่าในเร็ววันนี้น่าจะได้ข้อสรุป ส่วนคำร้องที่ขอให้ตรวจสอบกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ใช้ทรัพยากรของรัฐลงพื้นที่ภาคเหนือและอีสานนั้น เรื่องดังกล่าวทางสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงบประมาณ ได้ขอขยายเวลาในการจัดส่งเอกสารเพิ่มเติม เนื่องจากอ้างว่าหน่วยงานราชการไม่สามารถส่งเอกสารมาได้ ซึ่งประเด็นนี้ กกต.ก็ได้ขยายเวลาให้แล้ว แต่หากยังไม่มีการส่งหลักฐานหรือชี้แจงเข้ามาก็จะเป็นโทษกับผู้ถูกร้องเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น