วานนี้ (31มี.ค.) นายสมศักดิ์ สุริยมงคล รองเลขาธิการ กกต. แถลงสรุปข้อมูลการเลือกตั้งส.ว.อย่างเป็นทางการ ว่า การเลือกตั้งส.ว. เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา เขตเลือกตั้งมี 77 เขต 93,597 หน่วยเลือกตั้ง โดยการใข้สิทธิเลือกตั้งนั้น จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมี 48,787,153 คน ผู้มาใช้สิทธิ 20,873,423 คน คิดเป็นร้อยละ 42.78 บัตรเสีย 1,086,184 บัตร คิดเป็นร้อยละ 5.20 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 2,496,341 บัตร คิดเป็นร้อยละ 11.96 ซึ่งจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิ เลือกตั้งมากที่สุดได้แก่ จ.ลำพูน ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 68.39 จ.แม่ฮ่องสอน ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 67.54 และ จ.ปราจีนบุรี ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 61.10 ส่วนจังหวัดที่ผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุดได้แก่ กทม. ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 28.61 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 27.03 และ จ.ชลบุรี ผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 24.99
นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน เปิดเผยถึงคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ว. ว่า มีการร้องเรียนเข้ามาแล้วทั้งหมด 9 เรื่อง โดยเป็นเรื่องของ กทม. 2 เรื่อง เกี่ยวกับประเด็นการติดป้ายแนะนำตัวผู้สมัครในที่ห้ามติด และ อีกประเด็นเกี่ยวกับกรณีการช่วยเหลืผู้สมัครในการหาเสียงบนเวที เป็นการหาเสียงกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวนลุมพีนี แต่เป็นการกระทำของบุคคลอื่นไม่ใช่ตัวผู้สมัคร ส่วนอีก 7 เรื่อง ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ นครปฐม เลย ศรีสะเกษ สมุทรสาคร สิงห์บุรี และหนองบัวลำภู จังหวัดละ 1 เรื่อง โดยมี 3 จังหวัด ที่เป็นเรื่องร้องเรียนผู้ที่ไม่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง ประกอบด้วย เชียงใหม่ นครปฐม และ เลย ส่วนอีก 6 จังหวัด เป็นเรื่องร้องเรียนผู้ที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องคัดค้านของ จ.อำนาจเจริญที่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่ โดยทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหาเสียงเกินอำนาจหน้าที่ และการกล่าวปราศรัย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีที่ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าที่ ส.ว.กทม. เคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเห็นชอบให้ชี้มูลความผิด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อปี 2554 นั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลการเลือกตั้ง เพราะยังไม่มีคำร้องคัดค้านในประเด็นดังกล่าวส่งมายังกกต. ซึ่งขณะนี้คำร้องที่คัดค้านคุณหญิงจารุวรรณ มีเพียงกรณีที่ นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ร้องว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มกปปส.ในลักษณะปราศรัยชี้นำ และยกตัวอย่างให้เลือกคุณหญิงจารุวรรณ โดยคำร้องนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดว่าจะรับหรือไม่รับเป็นคำร้อง
ด้านคุณหญิงจารุวรรณ กล่าวถึงเรื่องที่ถูกร้องเรียนกรณีนายไพบูลย์ ขึ้นเวทีกปปส.ที่สวนลุมพินี ปราศรัยจูงใจให้ประชาชนเลือกตนเอง เพื่อโค่นระบอบทักษิณว่า ให้ไปถามนายไพบูลย์เอง สำหรับตนจะทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณ ซึ่งเคยทำมาสมัยเป็นผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ส่วนกรณีเรียกรับผลประโยชน์สมัยเป็นผู้ว่าฯสตง. ขณะนี้อยู่ในชั้นอัยการ ซึ่งตนไม่หนักใจ ยืนยันทำตามหน้าที่มาตลอด
นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับการรายงานตัวของส.ว.ชุดใหม่แล้ว หากกกต. สามารถประกาศรับรอง ส.ว.ใหม่ได้ภายใน 7 วัน ก็สามารถมารายงานตัวได้ ในวันที่ 8-11 เม.ย. และจะเปิดให้พิเศษในวันที่ 12 เม.ย.ด้วย และหากมีการรับรองครบ 95 เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถปฏิญาณตนต่อที่ประชุม และปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่หากไม่ครบตามจำนวนดังกล่าว ก็จะได้ให้สถาบันพระปกเกล้าฯ จัดสัมมนาอบรมสมาชิกวุฒสภาชุดใหม่ไปก่อน
ส่วนรายงานตรวจสอบของป.ปช.ที่ชี้มูลความผิดของนายนิคม ไวรัชพานิช อาจจะส่งมายังวุฒิสภาในวันนี้ และจะมีการหารือกับ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาอีกครั้ง ส่วนการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ ยังต้องดูรายละเอียดก่อน เพราะไม่เคยมีระเบียบปฏิบัติ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเป็นห่วงต่อการทำหน้าที่ของส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งชุดใหม่ว่า จะเป็นไปด้วยความเที่ยงตรงหรือไม่ เพราะวิเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลายคนล้วนเป็นทายาทของกลุ่มการเมือง และระบอบทักษิณ
ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่ได้ พิสูจน์ตนเองด้วยการปฎิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการทำหน้าที่พิจารณาถอดถอนบุคคลสำคัญ ที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะกรณีของ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีแนวโน้มสูงว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติป.ป.ช.จะ วินิจฉัยว่ามีความผิดในโครงการทุจริตจำนำข้าว ซึ่งส.ว.ต้องคำนึวถึงข้อเท็จจริง กฎหมาย และยึด ประโยชน์ชาติเป็นหลักมากกว่า ตนไม่อยากเห็นส.ว.ทำหน้าที่ขี้ข้านักการเมือง หรือทำตามคำสั่งใครบางคน มิเช่นนั้น ส.ว.คงไปไม่รอด แทนที่สังคมเรียกร้องให้ปฏิรูป แต่ส.ส. ก็จะหันมาเรียกร้องให้ปฏิรูปส.ว.ด้วยเช่นกัน ก็จะทำให้การเมืองล้มทั้งกระดาน ด้วยประโยชน์ส่วนตน มิเช่นนั้นอาจนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฎิรูปสมาชิกวุฒิสภา เพิ่มขึ้นก็เป็นได้
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งส.ว.ที่ผู้ได้รับเลือกตั้งมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองในฝ่ายรัฐบาลว่า ตรงนี้สะท้อนว่า ประชาชนที่ตั้งใจจะกวาดล้างระบอบทักษิณ ยังคงต้องใช้เวลา เพราะยังมีคนที่ยังได้ประโยชน์จากระบอบดังกล่าว ดังนั้น จำเป็นที่ให้ประชาชนที่รักชาติ เผยแพร่ความจริงให้คนไทยได้รับทราบถึงพิษภัยจากระบอบทักษิณ ส่วน ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่ ที่ประชาชนมีความเป็นห่วงว่า จะมุ่งรับใช้การเมือง มากกว่าประชาชนนั้น นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า ตนขอให้ดู ส.ว. เลือกตั้งชุดที่แล้วเป็นตัวอย่าง เพราะถ้ามุ่งแต่รับใช้ทางการเมือง ก็จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย และถูกถอดถอน ดังเช่น นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นตัวอย่าง
นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน เปิดเผยถึงคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ว. ว่า มีการร้องเรียนเข้ามาแล้วทั้งหมด 9 เรื่อง โดยเป็นเรื่องของ กทม. 2 เรื่อง เกี่ยวกับประเด็นการติดป้ายแนะนำตัวผู้สมัครในที่ห้ามติด และ อีกประเด็นเกี่ยวกับกรณีการช่วยเหลืผู้สมัครในการหาเสียงบนเวที เป็นการหาเสียงกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวนลุมพีนี แต่เป็นการกระทำของบุคคลอื่นไม่ใช่ตัวผู้สมัคร ส่วนอีก 7 เรื่อง ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ นครปฐม เลย ศรีสะเกษ สมุทรสาคร สิงห์บุรี และหนองบัวลำภู จังหวัดละ 1 เรื่อง โดยมี 3 จังหวัด ที่เป็นเรื่องร้องเรียนผู้ที่ไม่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง ประกอบด้วย เชียงใหม่ นครปฐม และ เลย ส่วนอีก 6 จังหวัด เป็นเรื่องร้องเรียนผู้ที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องคัดค้านของ จ.อำนาจเจริญที่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่ โดยทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหาเสียงเกินอำนาจหน้าที่ และการกล่าวปราศรัย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีที่ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าที่ ส.ว.กทม. เคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเห็นชอบให้ชี้มูลความผิด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อปี 2554 นั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลการเลือกตั้ง เพราะยังไม่มีคำร้องคัดค้านในประเด็นดังกล่าวส่งมายังกกต. ซึ่งขณะนี้คำร้องที่คัดค้านคุณหญิงจารุวรรณ มีเพียงกรณีที่ นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ร้องว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มกปปส.ในลักษณะปราศรัยชี้นำ และยกตัวอย่างให้เลือกคุณหญิงจารุวรรณ โดยคำร้องนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดว่าจะรับหรือไม่รับเป็นคำร้อง
ด้านคุณหญิงจารุวรรณ กล่าวถึงเรื่องที่ถูกร้องเรียนกรณีนายไพบูลย์ ขึ้นเวทีกปปส.ที่สวนลุมพินี ปราศรัยจูงใจให้ประชาชนเลือกตนเอง เพื่อโค่นระบอบทักษิณว่า ให้ไปถามนายไพบูลย์เอง สำหรับตนจะทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณ ซึ่งเคยทำมาสมัยเป็นผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ส่วนกรณีเรียกรับผลประโยชน์สมัยเป็นผู้ว่าฯสตง. ขณะนี้อยู่ในชั้นอัยการ ซึ่งตนไม่หนักใจ ยืนยันทำตามหน้าที่มาตลอด
นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับการรายงานตัวของส.ว.ชุดใหม่แล้ว หากกกต. สามารถประกาศรับรอง ส.ว.ใหม่ได้ภายใน 7 วัน ก็สามารถมารายงานตัวได้ ในวันที่ 8-11 เม.ย. และจะเปิดให้พิเศษในวันที่ 12 เม.ย.ด้วย และหากมีการรับรองครบ 95 เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถปฏิญาณตนต่อที่ประชุม และปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่หากไม่ครบตามจำนวนดังกล่าว ก็จะได้ให้สถาบันพระปกเกล้าฯ จัดสัมมนาอบรมสมาชิกวุฒสภาชุดใหม่ไปก่อน
ส่วนรายงานตรวจสอบของป.ปช.ที่ชี้มูลความผิดของนายนิคม ไวรัชพานิช อาจจะส่งมายังวุฒิสภาในวันนี้ และจะมีการหารือกับ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาอีกครั้ง ส่วนการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ ยังต้องดูรายละเอียดก่อน เพราะไม่เคยมีระเบียบปฏิบัติ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเป็นห่วงต่อการทำหน้าที่ของส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งชุดใหม่ว่า จะเป็นไปด้วยความเที่ยงตรงหรือไม่ เพราะวิเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลายคนล้วนเป็นทายาทของกลุ่มการเมือง และระบอบทักษิณ
ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่ได้ พิสูจน์ตนเองด้วยการปฎิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการทำหน้าที่พิจารณาถอดถอนบุคคลสำคัญ ที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะกรณีของ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีแนวโน้มสูงว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติป.ป.ช.จะ วินิจฉัยว่ามีความผิดในโครงการทุจริตจำนำข้าว ซึ่งส.ว.ต้องคำนึวถึงข้อเท็จจริง กฎหมาย และยึด ประโยชน์ชาติเป็นหลักมากกว่า ตนไม่อยากเห็นส.ว.ทำหน้าที่ขี้ข้านักการเมือง หรือทำตามคำสั่งใครบางคน มิเช่นนั้น ส.ว.คงไปไม่รอด แทนที่สังคมเรียกร้องให้ปฏิรูป แต่ส.ส. ก็จะหันมาเรียกร้องให้ปฏิรูปส.ว.ด้วยเช่นกัน ก็จะทำให้การเมืองล้มทั้งกระดาน ด้วยประโยชน์ส่วนตน มิเช่นนั้นอาจนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฎิรูปสมาชิกวุฒิสภา เพิ่มขึ้นก็เป็นได้
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งส.ว.ที่ผู้ได้รับเลือกตั้งมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองในฝ่ายรัฐบาลว่า ตรงนี้สะท้อนว่า ประชาชนที่ตั้งใจจะกวาดล้างระบอบทักษิณ ยังคงต้องใช้เวลา เพราะยังมีคนที่ยังได้ประโยชน์จากระบอบดังกล่าว ดังนั้น จำเป็นที่ให้ประชาชนที่รักชาติ เผยแพร่ความจริงให้คนไทยได้รับทราบถึงพิษภัยจากระบอบทักษิณ ส่วน ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่ ที่ประชาชนมีความเป็นห่วงว่า จะมุ่งรับใช้การเมือง มากกว่าประชาชนนั้น นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า ตนขอให้ดู ส.ว. เลือกตั้งชุดที่แล้วเป็นตัวอย่าง เพราะถ้ามุ่งแต่รับใช้ทางการเมือง ก็จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย และถูกถอดถอน ดังเช่น นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นตัวอย่าง