xs
xsm
sm
md
lg

พท.ใส่ร้ายองค์กรอิสระขบวนการล้มรัฐบาล ฟันธง ป.ป.ช.ชี้มูล “ปู” โกงจำนำข้าวแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (แฟ้มภาพ)
คน พท.เรียงหน้าอัดองค์กรอิสระ อ้างเป็นขบวนการล้มรัฐบาล “เรืองไกร” ฟันธง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด “ยิ่งลักษณ์” โกงจำนำข้าวแน่ ด้าน “คณิต” กังขาศาลรัฐธรรมนูญ เรียกร้องแจง 6 ข้อตัดสินเลือกตั้งโมฆะ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการติดตามการทำงานและศึกษาแนวทางการใช้อำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ในชุดปัจจุบัน เห็นความผิดปกติ เกิดเป็นคำครหาต่อความเป็นกลางของ ป.ป.ช.ชุดนี้มาโดยตลอด การที่ ป.ป.ช.เร่งพิจารณากรณีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเร่งรีบ ลุกลี้ลุกลนจนผิดสังเกต ก็ไม่เหนือความคาดหมายของพี่น้องประชาชนทั่วไปที่ติดตามเรื่องนี้มาอย่างใกล้ชิด

“ขอฟันธงว่า นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งของประชาชน จะถูกชี้มูลความผิดแบบผิดๆ จาก ป.ป.ช.ชุดนี้ ทั้งที่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวมาไม่ถึง 2 เดือน อย่างแน่นอน พฤติกรรมที่เกิดขึ้นของ ป.ป.ช.สอดรับกับเป้าหมายสำคัญที่พี่น้องประชาชนเชื่อว่า ถูกสั่งการโดยมือที่มองไม่เห็น ที่ใช้ผ่านองค์กรอิสระ โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ 3 ขั้นตอน คือ 1.สร้างเรื่องให้ร้อง 2.วางแผนให้ฆ่า และ 3.สั่งการฆ่า หากยังพยายามเดินหน้าชี้มูลความผิดแบบมีธง ขาดความโปร่งใส เชื่อว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวจะถาโถมโหมกลับไปยัง ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน เหมือนบูมเมอแรง ยิ่งกว่าคลื่นสึนามิ ในระยะเวลาไม่นานอย่างแน่นอน”

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ความผิดปกติของ ป.ป.ช.คือ 1.คำร้องของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำรายชื่อ ส.ส.ที่ลาออกไปร่วมกับ กปปส.แล้ว 6 คน ทำให้คำร้องดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย 2.คำร้องของนายอภิสิทธิ์ ผิดกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 61

3.หลักฐานกล่าวหานายกฯ มีเพียง 49 แผ่น และไม่สมบูรณ์ มีข้อพิรุธมาก 4.เอกสารตัวเลขปิดบัญชีของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ที่พยายามนำเอามาเป็นหลักฐานเด็ดในการฆ่าปิดปาก แต่ตรวจสอบพบว่ารายงานทางราชการที่ออกมา 2 ครั้ง มีตัวเลขที่เป็นสาระสำคัญไม่ตรงกัน แต่ ป.ป.ช.ก็ยังพยายามใช้พยานหลักฐานดังกล่าวมาใช้ประกอบการพิจารณา จึงอาจถูกตั้งข้อสังเกตได้ว่าใช้เอกสารหลักฐานที่เป็นเท็จ

5.เกิดการเปรียบเทียบอย่างชัดเจน ระหว่างคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับนายอภิสิทธิ์ เรื่องความมีอคติและสองมาตรฐาน 6.ป.ป.ช.เพิ่งส่งเอกสารให้กับทนายของผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มอีก 280 หน้า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.คำถามที่ ป.ป.ช.ควรตอบต่อสังคม คือ ก่อนหน้านี้ เอกสารเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน และข้อกล่าวหาส่วนใหญ่เกิดก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะรับตำแหน่งนายกฯ

นอกจากนี้ ต้นทางของเรื่องต่างๆ ก็ไม่โปร่งใส่ ไม่สามารถตอบคำถามสังคมได้ในหลายเรื่อง 1.เหตุใดกรรมการ ป.ป.ช.ปัจจุบัน 6 คน ถึงไม่ได้เข้ารับการโปรดเกล้าฯ 2.มีหลักฐานสำคัญที่ตรวจสอบแล้วพบว่า นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.เคยโดนลงโทษจากคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ให้งดบำเหน็จความชอบติดตัว เป็นความผิดพลาดของคณะปฏิวัติรัฐประหาร ปี 49 ใช่หรือไม่ ที่บังอาจคัดเลือกคนที่มีตำหนิและด่างพร้อยให้เข้ามารับตำแหน่ง ป.ป.ช.และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นายวิชา ไม่สามารถได้รับโปรดเกล้าฯ ใช่หรือไม่ ขณะที่ นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.ก็ปรากฏหลักฐานชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าขาดคุณสมบัติในการเป็นกรรมการ ป.ป.ช.เพราะไม่ลาออกจากองค์การเภสัชกรรม ที่ค้าขายหากำไร แต่ก็ยังกล้าที่จะปฏิบัติหน้าที่อยู่ รับใบสั่งมือที่มองไม่เห็น ลงดาบเลือดเย็น

“การกระทำดังกล่าวสอดคล้องกับความเชื่อที่ว่า ป.ป.ช.มีธงให้ฟันมาตั้งแต่แรกใช่หรือไม่ ถือว่า ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน เสี่ยงตายทำเรื่องผิดๆ อย่างนี้แทนใครหรือไม่ อย่างไร อยากให้ดูกรณีของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แกนนำการปฏิวัติรัฐประหารในปี 49 ให้ดีว่าผลสุดท้ายเป็นอย่างไร อยากให้ท่องคำว่า เสร็จนาฆ่าโค ถึงเสร็จศึกฆ่าขุนพล เพราะผู้อยู่เบื้องหลังทำมาโดยตลอด และเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.กล้าลงดาบอย่างเลือดเย็น ก็ย่อมต้องพร้อมที่จะรอดาบนั้นคืนสนอง เพราะพี่น้องประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของอธิปไตย ย่อมไม่ยอมให้เกิดเรื่องที่อยุติธรรมบนแผ่นดินนี้อย่างแน่นอน ถึงวันนั้นมือมองไม่เห็นก็ไม่สามารถช่วยอะไรใครได้ ต้องบอกว่าตัวใครตัวมัน”

ด้าน นายคณิน บุญสุวรรณ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 ขัดรัฐธรรมนูญนั้น มีคำถามที่ต้องตอบว่า 1.เหตุใดศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นผู้มาตัดสินเรื่องนี้ ทั้งที่เป็นอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง 2.เหตุใดเรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่ขึ้นนั่งบัลลังก์ แต่กลับให้โฆษกศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้แถลง

3.เหตุใดคำวินิฉัยกลางจึงมีข้อความไม่เหมือนกับการแถลงของโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ และคำวินิจฉัยกลางที่จะปรากฏในราชกิจจานุเบกษาจะออกมาเมื่อไร และเหมือนกันหรือไม่ 4.ทำไมไม่มีการเปิดเผยคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการ ทั้งที่รัฐธรรมนูญระบุชัดว่าต้องออกก่อนลงมติ จึงเกิดข้อสงสัยว่ามีหรือไม่ หรือว่าประชุมเสร็จแล้วแถลงเลย

5.เหตุใดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยว่า พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ที่ไม่มีเป็นการเลือกตั้งในวันเดียวขัดรัฐธรรมนูญ เพราะความจริงการเลือกตั้งต้องขัดต่อ พ.ร.ฎ.ต่างหาก ถามว่าใช้รัฐธรรมนูญมาตราใดมาวินิจฉัย 6.คำวินิจฉัยที่ออกมาจนนาทีนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะมีต่อไปหรือไม่อย่างไร และเมื่อใด ถ้า พ.ร.ฎ.ยังมีผลบังคับใช้อยู่ จะเลือกตั้งเฉพาะใน 28 เขตที่ค้างอยู่ หรือเลือกใหม่ทั้งหมด และการตรา พ.ร.ฎ.ต่อไปจะทำอย่างไร

นายคณิน กล่าวว่า ขณะนี้มีขบวนการล้มรัฐบาลโดยองค์กรอิสระ เพื่อนำไปสู่ภาวะสุญญากาศตั้งนายกฯ มาตรา 7 ล่าสุด มีความพยายามจาก ส.ว.สรรหากลุ่มหนึ่ง ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสถานภาพนายกฯ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากกรณีการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.โดยหวังให้นายกฯ สิ้นสภาพ และ ครม.ทั้งคณะสิ้นสภาพไปด้วย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็รับเรื่องไว้วินิจฉัย

อย่างไรก็ตาม ขอเรียนว่า เป็นการตีความบทบัญญัติกฎหมายเอาเอง พูดกันเป็นตุเป็นตะ แสดงให้เห็นธาตุแท้ของกลุ่มที่ต้องการโค่นล้ม เพราะความเป็นจริง ครม.ได้พ้นจากตำแหน่งไปตั้งแต่ยุบสภาฯ แล้ว แต่ยังปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่

ดังนั้น จึงไม่มีวันที่จะพ้นจากตำแหน่งไปอีกครั้ง เรื่องนี้ผู้ร้องไม่เข้าใจรัฐธรรมนูญ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญก็รับไว้ง่ายๆ สะท้อนเจตนาอะไรหรือไม่ ส่วนที่พูดกันมากว่าหาก ป.ป.ช.ชี้มูลนายกฯ คดีโครงการรับจำนำข้าว จะทำให้เกิดสุญญากาศนั้น ถึงแม้จะชี้มูลจริงๆ นายกฯ ก็ยังเป็นนายกฯ อยู่ เพียงแต่หยุดการปฏิบัติหน้าที่ รองนายกฯ ลำดับถัดๆ ไป ก็ปฏิบัติหน้าที่แทน ฉะนั้น ภาวะสุญญากาศไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน สรุปคือ แม้จะมีความพยายามล้มล้างรัฐบาล นำไปสู่การตั้งนายกฯ มาตรา 7 แต่ไม่มีทางทำได้ นอกจากต้องฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งเท่านั้น

“ถ้ามีการตั้งนายกฯ คนกลาง นายกฯ มาตรา 7 ถือเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ประชาชนมีสิทธิร้องแจ้งความ และต่อต้านโดยสันติวิธี จึงอยากฝากเตือนให้ทำอะไรระวังรอบคอบ อย่าคิดทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย สร้างความระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท สถาปนาการเมืองรูปแบบอื่นขึ้นมา”


กำลังโหลดความคิดเห็น