xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” แนะ “สุเทพ-ปู” เจรจาออกทีวี พร้อมเสนอทำประชามติปฏิรูปก่อนหรือหลังเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” ชี้การเลือกตั้งไม่ได้อยู่ที่ ปชป. แต่อยู่ที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมอย่างไร แนะ “สุเทพ-ยิ่งลักษณ์” เจรจาออกทีวีสร้างความเชื่อมั่น หยุดตั้งเงื่อนไข ระบุจุดยากที่สุดของการปฏิรูปคือการหาจุดเริ่มต้น เหตุสองฝ่ายต่างเถียงกันจะปฏิรูปก่อนหรือหลังเลือกตั้ง แนะทำประชามติฟังเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน

การประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายอนุรักษ์ นิยมเวช สว.สรรหา เป็นประธาน ได้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฎิรูปการเมือง โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กระบวนการทางการเมืองหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะต้องเชิญรัฐบาลและตัวแทนพรรคการเมืองมาหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ โดยการกลับไปเลือกตั้งอีกรอบต้องมีเป้าหมาย คือการเลือกตั้งที่เรียบร้อยและได้รับการยอมรับ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ แต่อยู่ที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมอย่างไรในการเลือกตั้งหรือไม่

สำหรับแนวทางการปฎิรูปประเทศนั้น นายอภิสิทธิ์เสนอว่า การปฏิรูปประเทศมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น 7 ด้าน ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน กระบวนการเลือกตั้ง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การปฏิรูปโครงสร้างของรัฐเพื่อนำไปสู่การกระจายอำนาจ กระบวนการยุติธรรม และการปฏิรูปสื่อ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยากที่สุดของการปฎิรูปประเทศ คือ การหาจุดเริ่มต้น เนื่องจากปัจจุบันเกิดการถกเถียงกันว่าการปฏิรูปควรทำก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง

“แต่ละฝ่ายไม่ยอมรับเหตุและผลของกันและกัน ดังนั้นคิดว่าควรอยู่ตรงกลางๆ คือ ต้องเอาเรื่องด่วนๆ มาดำเนินการก่อน เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำทุกเรื่องเสร็จภายในเวลาที่รวดเร็ว อย่างการกระจายอำนาจไม่มีทางเป็นไปได้ภายใน 1-2 ปีอย่างแน่นอน และวันนี้ถ้าเลือกตั้งผมยืนยันได้เลยว่าจะไม่มีใครเชื่อว่าจะนำไปสู่การปฏิรูปได้”

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขณะเดียวกันมีบางส่วนที่เห็นว่าหากไม่มีการเลือกตั้งแล้วจะสามารถปฏิรูปการเมืองได้อย่างไร เพราะการปฏิรูปประเทศในบางเรื่องจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการตรากฎหมายฉบับใหม่ผ่านกระบวนการทางนิติบัญญัติ ซึ่งในประเด็นนี้คิดว่ามีทางออก คือ การใช้กระบวนการประชามติเพื่อสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนออกมาและสร้างความผูกมัดให้กับทุกฝ่ายว่าจะต้องดำเนินการปฏิรูปการเมืองให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวสนับสนุนให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มาเจรจาเพื่อหาทางร่วมกันผ่านการถ่ายทอดสด ซึ่งการถ่ายทอดสดจะช่วยให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และประชาชนจะได้เห็นถึงเนื้อหาสาระของการเจรจาว่าฝ่ายใดคิดอย่างไร ในทางกลับกันถ้าไปเจรจากันอย่างในทางลับจะส่งผลให้เกิดขบวนการปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือ

“วันนี้ผมเห็นว่าคุณยิ่งลักษณ์ไม่ควรนำเงื่อนไขเรื่องการเลือกตั้ง และการยุติการชุมนุม มาเป็นข้ออ้างไม่เจรจากับคุณสุเทพ เพราะเวลานี้เงื่อนไขดังกล่าวได้หมดลงไปแล้ว หลังจากการเลือกตั้งได้เสร็จสิ้นแล้วและคุณสุเทพก็นำมวลชนเข้าไปอยู่ไปอยู่ในสวนลุมพินีและไม่ได้ปิดถนนแล้ว”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาของระบบการเมืองที่สำคัญ คือ วัฒนธรรมทางการเมือง ประเทศไทยลองระบบการเมืองมาหลายระบบ เช่น กระบวนการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. แต่หลายครั้งกลับไม่ได้คำตอบตามที่ประชาชนคาดหวัง รวมไปถึงการไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองในบางประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของประชาชน

“ปัญหาของระบบการเมืองสำคัญ คือ วัฒนธรรมทางการเมือง ที่ผ่านมาแม้ประเทศไทยจะทดลองระบบเลือกตั้งมาหลายรูปแบบ แต่ยังไม่ได้คำตอบอย่างที่คาดหวัง ระบบรัฐสภาของต่างประเทศที่นำมาเป็นแบบอย่าง คือ เสียงข้างมากต้องควบคุมสภาได้ แต่จะมีระดับการควบคุมแค่ไหน และ ส.ส.ต้องมีความเป็นอิสระ ดังนั้นวัฒนธรรมทางการเมืองต้องแก้ให้ได้ ด้วยการวางความสมดุลว่าเรื่องไหน ตัดสินอย่างไร กลไกการเมืองต้องมีความรับผิดชอบและตอบสนอง ไม่ใช่ท่องคาถายึดแต่ตัวบท สำหรับปัญหาที่ยืดเยื้อร่วมสิบปี เชื่อว่าจะไม่จบง่ายๆ”


















กำลังโหลดความคิดเห็น