หน.ปชป.ชี้คนรัฐเหิมหนัก ให้ฝ่ายบริหารขัดแย้งตุลาการอยู่ตลอด ข้องใจน่ามีบทลงโทษ ยันคืนเก้าอี้ “ถวิล” ไม่ซับซ้อน ฉะ “พงศ์เทพ” มีอำนาจเหนือศาล รับต้องจัดระเบียบ สมช. เหตุงานมั่นคงมีปัญหามาก ดักอย่าโยงขึ้นเวที กปปส. ชี้ ขรก.ต้องสนองรัฐ แต่ไม่ทำผิด กม. แนะทุกกลุ่มเร่งปฏิรูป นักการเมืองเลี่ยงประโยชน์ขัดกัน ยันปฏิรูปยั่งยืนต้องมีนักการเมือง จี้ รบ.เลิกขวาง รับหนีพ้นต้องปฏิรูปพร้อมเลือกตั้ง เชื่อหานายกฯ คนกลางได้
วันนี้ (10 มี.ค.) นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องรีบดำเนินการคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ภายใน 45 วัน ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งได้ เพราะไม่เรื่องซับซ้อน เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามศาลสั่ง ส่วนที่รัฐบาลบอกว่าต้องใช้มติคณะรัฐมนตรีในการแต่งตั้งนั้น รัฐบาลก็ดำเนินการได้ ภายในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้า โดยขออนุญาต กกต.ได้เลย แต่ ไม่เข้าใจว่าคนในรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบด้านกฎหมาย พยายามทำให้เกิดเงื่อนไข ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับตุลาการอยู่ตลอดเวลา ตนไม่แน่ใจว่ามีบทลงโทษหรือไม่ แต่ตนว่าหากเป็นเจตนาจงใจฝ่าฝืนก็น่าคิดเพราะมิเช่นนั้นต่อไปคนมีอำนาจในบ้านเมืองก็อยู่เหนือกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ ที่เคยเป็นอดีตผู้พิพากษามาก่อน ถึงขนาดบอกว่าศาลไม่มีอำนาจที่จะสั่งว่าต้องคืนตำแหน่งภายใน 45 วัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เหตุใดนายพงศ์เทพถึงมีอำนาจเหนือศาล ทำไมกลายเป็นว่าศาลมีอำนาจอะไรต้องไปถามนายพงศ์เทพเป็นไปไม่ได้
“ผมว่าขณะนี้เหิมเกริมกันมากสำหรับฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล เขาพยายามทำให้เกิดภาพว่าตุลาการกับรัฐบาลมีปัญหา ตุลาการให้รัฐบาลแพ้คดี แต่พอรัฐบาลชนะคดีก็เห็นเงียบหมด”
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีของนายถวิลนั้นเวลาล่วงเลยมามากแล้ว รัฐบาลก็ต้องดำเนินการไปเรื่องจะได้จบ จะไม่ดำเนินการก็ไม่ได้ เพราะทุกคนกำลังจับตาอยู่ โดยเฉพาะสภาวะที่มวลชนจำนวนมากไม่พอใจรัฐบาลอยู่แล้วเรื่องที่ไม่ยอมเคารพอำนาจศาล แต่ท่าทีรัฐบาลก็อ่อนลงแล้ว ความจริงไม่ควรออกมาค้านแต่ทีแรก แต่รัฐบาลไม่ยอมปล่อยตำแหน่งนี้ เพราะยังต้องการใช้ประโยชน์ในทางการเมือง ยื้อตำแหน่งให้คนของตนเองอยู่ให้ยาวนานที่สุดมิเช่นนั้นคงจะไม่จับวางคนในตำแหน่งเช่นนี้มาตั้งแต่ต้น แต่เชื่อว่านายถวิล เป็นข้าราชการมืออาชีพก็ต้องทำหน้าที่ ทำงานกับทุกรัฐบาลได้โดยไม่มีข้อขัดแย้ง
เมื่อถามต่อว่า หากมีการคืนตำแหน่งให้นายถวิล การจัดระเบียบในสมช.จะเหมือนเดิมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงมีหลายเรื่องที่ต้องทบทวน ตามที่นายถวิลให้สัมภาษณ์ ทั้งเรื่องภาคใต้ และเรื่องอื่นๆ ตนก็เคยเตือนมาหลายครั้งแล้ว ข้าราชการฝ่ายความมั่นคงทั้งหมด ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการตกไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะปัญหาความมั่นคง มีความละเอียดอ่อน และสำคัญกว่าที่จะมาตกอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง หรือฝักฝ่ายทางการเมือง ตนมองว่างานความมั่นคงในช่วงที่ผ่านมามีปัญหามาก เมื่อเดือนสองเดือนที่ผ่านมา เหตุการณ์ภาคใต้เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่การจัดการปัญหาปัจจุบันยังมีปัญหามาก
ส่วนที่รัฐบาลบอกว่านายถวิลขึ้นเวทีของ กปปส.เกรงว่าจะทำให้การทำงานมีปัญหา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายถวิลก็ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม ทำงานให้รัฐบาลไทย ไม่มองว่าเป็นฝ่ายไหนอย่างไร ยืนยันว่าเท่าที่รู้จักสัมผัส เขาตั้งใจทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าข้าราชการก็ต้องทำตัวให้เหมาะสม การสนองตอบนโยบายของรัฐบาล ก็เป็นเรื่องจำเป็น แต่ว่าต้องมีขอบเขตว่านโยบายนั้นต้องไม่สร้างเรื่องผิดกฎหมาย
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวสนับสนุนให้ทุกกลุ่มเร่งทำการปฏิรูปประเทศ ไม่เฉพาะ กปปส.ที่ผ่านมามีหลายองค์กรทำ สถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย ที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปร่วมทำงานด้วย ดำเนินการทำไปมากแล้ว แม้แต่รัฐบาลถ้าสนใจข้อเสนอเรื่องต่างๆ แล้วจะนำไปปฏิบัติก็ไม่ขัดข้อง
เมื่อถามว่า ประชาชนหวาดระแวงว่าหากการปฏิรูปทำโดยพรรคการเมืองจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการตัดผลประโยชน์ของตนเอง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนว่าต้องดู พรรคการเมือง นักการเมืองแต่ละคนไม่เหมือนกัน และข้อเสนอของทางพรรคเองก็ระมัดระวัง เรื่องไหนที่มองว่าจะเป็นผลประโยชน์ขัดกัน เราก็จะหลีกเลี่ยงในการเข้าไปแตะ เช่น ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เรื่อง ส.ส. เราก็พยายามไม่เข้าไปจับตรงนั้นก่อน แต่เรื่องอื่นๆ ตนคิดว่าขณะนี้เราชัดเจน หลายเรื่องเป็นนโยบายที่ประกาศมานานแล้ว เช่น เรื่องกระจายอำนาจ การศึกษา หรือการปฏิรูปอื่นๆ ที่ค้างมาจากสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์
“ยืนยันว่าไม่มีการปฏิรูปไหนที่ยั่งยืนได้ถ้าในที่สุดพรรคการเมืองและนักการเมืองไม่เข้ามาเดินหน้าสนับสนุน และประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะเป็นพรรคการเมืองที่สนุบสนุน ส่วนเนื้อหาสาระการปฏิรูปนั้นใครเตรียมความพร้อม หรืออยากผลักดันก็ทำไป แต่ขณะนี้ที่เริ่มไม่ได้ เพราะติดขัดที่รัฐบาลที่ยังยืนขวางอยู่ ตรงนี้เป็นปมที่ต้องแก้ ส่วนจะแก้โดยวิธีใดก็บอกไปแล้ว ถ้าต่างฝ่ายต่างมาลุ้นกันว่าจะสู้กันไปจนกระทั่งไปไม่ไหว ผมว่าจะเป็นการทำให้เสียโอกาสเดินหน้าประเทศ"
ส่วนการปฏิรูปจะเดินหน้าพร้อมการเลือกตั้งได้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนว่าในที่สุดก็หนีไม่พ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการปฏิรูปในทุกเรื่องที่พูดกัน และบอกว่าจะรอให้เสร็จสิ้นก่อนถึงจะไปเลือกตั้ง เพราะงานปฏิรูปต้องใช้เวลาด้วย และจะมีปัญหาเรื่องว่าใครจะมีอำนาจทางนิติบัญญัติที่จะผลักดันเรื่องนี้ด้วย
เมื่อถามอีกว่าควรจะมีคนกลางที่จะเข้ามาในช่วงเปลี่ยนผ่านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มองว่าคนกลางที่จะเข้ามา ที่จะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือตรงนี้ คงยากที่จะเป็นคนที่มีฝ่ายหรือพรรค แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ และคนที่เข้ามาต้องสร้างความมั่นใจว่า การปฏิรูปต้องเดินหน้าได้แน่ ไม่มีใครเบี้ยว และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นต่อไปจะต้องเป็นธรรม ตนเชื่อว่าประเทศไทยยังสามาถหาคนเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ คนกลางได้