xs
xsm
sm
md
lg

“ปึ้ง” เสียว! เตือน “ถวิล” คัมแบ็กต้องซื่อสัตย์เก็บความลับ จี้กองทัพสั่งทหารอย่าพกอาวุธเข้าม็อบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (แฟ้มภาพ)
“สุรพงษ์” พร้อมสนับสนุนกู้ภัยเหตุบินมาเลย์ล่องหน เตรียมชง “อดุลย์” สั่งตำรวจทำฐานข้อมูลพาสปอร์ตให้ตำรวจสากลใช้ ขอสอบก่อนโยงก่อการร้ายหรือไม่ เชื่อไม่เสียชื่อประเทศ โยน สตช.ดูถึงเวลาเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือยัง โวยการ์ดม็อบยิงใส่แท็กซี่ จี้บิ๊กทหารสั่งกำลังพลอย่าขนอาวุธเข้ากรุง เตือน “ถวิล” กลับมาทำงานต้องซื่อสัตย์รักษาความลับ



วันนี้ (10 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเวลา 09.45 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส (เอ็มเอเอส) เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 สูญหายว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ตนได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ รมว.ต่างประเทศของมาเลเซีย โดยได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทำให้ประชาชนหลายประเทศเสียชีวิต และยังบอกไปว่าหากต้องการความช่วยเหลือด้านใดทางการไทยพร้อมจะให้การสนับสนุน ทั้งการค้นหาซากเครื่องบินหรือการค้นหาผู้ประสบภัย

นายสุรพงษ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนกำลังคิดขณะนี้คือ หากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทำพาสปอร์ตสูญหาย ตำรวจไทยจะต้องทำฐานข้อมูลเพื่อให้องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) เข้ามาตรวจสอบข้อมูลพาสปอร์ตที่สูญหายในเมืองไทยได้ และอาจจะเป็นไปได้ที่จะให้สายการบินต่างๆ เวลาออกตั๋วเครื่องบินควรจะเช็คกับข้อมูลดังกล่าวว่า มีพาสปอร์ตที่สูญหายไปตรงกับรายชื่อบุคคลเหล่านี้หรือไม่ ทั้งนี้ ในฐานะตนที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะนำแนวคิดนี้ไปเสนอกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อจัดทำฐานข้อมูลเรื่องนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือไม่ ขอให้รออีกสักระยะหนึ่งจนกว่าจะมีการสอบสวนหาความจริงก่อน และแม้จะมีการนำเงินบาทไปซื้อตั๋วเครื่องบิน และพาสปอร์ตที่หายในประเทศไทยไปใช้ แต่เรื่องดังกล่าวจะไม่เสียชื่อประเทศไทย

ประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวถึงการพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ได้มีการมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สรุปข้อมูลต่างๆ เป็นการเบื้องต้นก่อนว่า ถึงเวลาที่จะยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือยัง ซึ่งหากเหตุการณ์ยังรุนแรง มีการใช้อาวุธสงครามก็ไม่ควรจะยกเลิก อย่างกรณีการยิงใส่รถแท็กซี่บริเวณสวนลุมพินีที่คนขับแท็กซี่ระบุชัดเจนว่าเป็นการ์ด กปปส. และโดยเฉพาะการจับทหารจากสังกัดกรมทหารราบที่ 31 กองพันทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ หรือ ร.31 พัน.2 รอ. หรือหน่วยรบพิเศษ จ.ลพบุรี ที่มีอาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมกระสุนใกล้กับพื้นที่ชุมนุม กปปส. ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานได้ตรวจสอบกำลังพลของตนเอง อย่านำอาวุธสงครามเข้ามาในพื้นที่ เพราะปกติการเบิกจ่ายอาวุธจะต้องมีความรัดกุมรอบคอบ เรื่องนี้อาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ ทั้งนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะหมดอายุในวันที่ 22 มี.ค. ดังนั้นยังมีเวลาพิจารณาว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่จนถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 18 มี.ค.

นายสุรพงษ์กล่าวถึงการคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้กับนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำว่า การคืนตำแหน่งให้นายถวิลจะไม่กระทบต่อการทำงานของ ศรส. เพราะเลขาธิการ สมช.ที่เป็นเลขานุการ ศรส.โดยตำแหน่งนั้น ทำหน้าที่บันทึกรายงานการประชุม และทำเอกสารต่างๆ แต่การตัดสินใจเรื่องต่างๆ มาจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ดังนั้น หากเปลี่ยนตัวเลขานุการ ศรส.ใหม่ก็ต้องทำหน้าที่ตัวเอง ต้องรักษาความลับ เพราะบางเรื่องเป็นความลับ ซึ่งนายถวิลนั้นเคยขึ้นเวที กปปส. ฉะนั้น ความลับอาจจะไม่มี อาจจะไปนำไปพูดหรือเล่าอะไรก็ได้ จึงไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น หากกลับมาจะต้องหน้าที่ด้วยความซื่อตรง

“การที่นายถวิลขึ้นเวที กปปส. แสดงให้เห็นว่ามีความเชื่อมโยงกัน ก็ไม่รู้ว่าความลับจะเก็บไว้ได้มากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่นายถวิลว่าหากมาทำหน้าที่แล้วจะทำหน้าที่อย่างซื่อตรงและซื่อสัตย์หรือไม่” นายสุรพงษ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น