xs
xsm
sm
md
lg

“สมชัย” คาดยังไม่ฟัน 16 พท.จ้อช่อง 11 ย้ำเดินหน้าองค์กรอิสระตัวกลางเจรจา มีเท่าไหร่เอาเท่านั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (แฟ้มภาพ)
กกต.คาด 27 มี.ค.มีมติกรณี 16 ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย จ้อช่อง 11 แนะขอเรียกหลักฐานเพิ่มจาก ผอ.ช่อง แต่คงยังไม่ฟัน คาดคงต้องใช้เวลา เข้าใจบางองค์กรอิสระถอนแถลงหมู่ เผยทาบสภาพัฒนาการเมือง-คปก.เพิ่ม ยันเหลือเท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น ไม่คิดจะสำเร็จหรือไม่ ยอมรับเป็นคนกลางทำเกินหน้าที่ แต่ถามอยากเห็นบรรยากาศบ้านเมืองแบบนี้หรือไม่ ถ้าอยากก็ต้องมาช่วยกัน ยกเว้นคนที่ไม่ต้องการจบที่เจรจา

วันนี้ (16 มี.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่ กกต.สอบ 16 ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ไปออกรายการทางข่อง 11 ในช่วงมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งว่า เรื่องนี้ยังไม่มีมติใดๆ ต้องรอวันที่ 27 มี.ค.นี้ เนื่องจากได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม กกต.ที่ผ่านมาแล้ว แต่ กกต.ไม่ครบองค์ประชุม เพราะฉะนั้นจะรอให้ครบองค์ประชุมอีกครั้งในวันที่ 27 มี.ค. อาจจะมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ตนคิดว่าหากจะให้เกิดความเป็นธรรมต้องให้มีการหาหลักฐานเพิ่มเติม หรือขอเรียกหลักฐานเพิ่มเติมจากผู้อำนวยการสถานีช่อง 11 มาชี้แจงต่อ กกต. เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรีบตัดสิน เพราะถ้าหากเป็นการกระทำผิดของตัวบุคคลที่เป็นผู้สมัครพรรคการเมือง กระทำผิดด้วยตนเอง คือ การให้ใบแดง ที่สามารถให้ได้ทั้งก่อนและหลังประกาศผลการเลือกตั้ง ดังนั้นเราก็จะต้องดูจากหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จึงต้องใช้เวลา และให้โอกาสผู้ที่ถูกกล่าวหามาชี้แจงและสืบสวนสอบสวน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการประชุม ในวันที่ 27 มี.ค. ยังคงไม่มีข้อสรุปของมติที่จะเป็นผลกระทบต่อทั้ง 16 ผู้สมัคร ส.ส.นี้คงจะเป็นมติที่ให้ไปหาหลักฐานเพิ่มเติมเท่านั้น

นายสมชัยยังกล่าวถึงความคืบหน้าของการร่วมมือระหว่าง 7 องค์กรตามรัฐธรรมนูญเพื่อเสนอทางออกของความขัดแย้งภายในประเทศ ที่มีการทยอยกันออกมาถอนตัวว่า อย่างองค์กรอัยการเราก็เข้าใจเหตุผลเพราะมีความเป็นห่วงของความเป็นวิชาชีพ เนื่องจากอัยการจะต้องเป็นผู้ที่ดำเนินคดีฟ้องร้องต่อผู้กระทำความผิด ถ้ามาทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจา จะเหมือนว่าไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่ จึงเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ ส่วนศาลปกครองนั้นไม่ได้อยู่ในกลุ่มองค์กรตามรัฐธรรมนูญตั้งแต่เริ่มต้น เข้าใจว่าอาจจะเข้าใจผิด เพราะในกลุ่มที่ประชุมกันไม่เคยมีศาลปกครองอยู่ด้วย ขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) การประชุมที่ผ่านมาก็มี กสม.อยู่ท่านหนึ่งได้เข้าร่วมประชุม แล้วก็ให้การสนับสนุนการเจรจา และให้แง่คิดที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบและแนวทางในการเจรจา ส่วนความเป็นเอกภาพใน กสม.เป็นอย่างไรคงไม่สามารถไปรับทราบได้

นายสมชัยกล่าวถึงการทาบทามอีก 2 องค์กร คือ สภาพัฒนาการเมือง และคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) เข้าร่วมประชุมว่า อยู่ระหว่างการทาบทาม ซึ่งยอมรับว่ามีการพูดคุยกัน เพียงแต่การตัดสินใจเข้าร่วมของ 2 องค์กรนั้นไม่ได้อยู่ในฐานะของ 7 องค์กรตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการทาบทามก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้ง 2 องค์กร ไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะต้องนำเข้าที่ประชุมขององค์กรนั้นๆ หรือไม่ ดังนั้นก็ต้องรอดูอีกครั้งว่าจะสามารถเข้าร่วมได้ทันในวันที่ 17 มี.ค.นี้หรือไม่ ถ้าไม่ทันก็คงต้องเข้าร่วมภายหลัง อย่างไรก็ตาม องค์กรใดที่ถอนตัวจากการเข้าร่วมครั้งนี้ ก็คงไม่เป็นปัญหาในการประชุม เหลือองค์กรเท่าไหนก็ประชุมเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเรื่องไม่ต้องมาคำนึงว่าการเข้าร่วมครั้งนี้จะดำเนินการสำเร็จหรือไม่ ตนคิดว่าสิ่งสำคัญ คือ การเริ่มต้นได้ลงมือทำ โดยกลุ่มคนที่เห็นปัญหาของบ้านเมือง และอยากจะเห็นบ้านเมืองมีทางออก

“อาจจะมีคนบางคนออกมาบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ก็ยอมรับ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญ มาตราใดที่จะบอกว่า หากมีความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชนแล้วจะต้องมีคนกลางขึ้นมา เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรบอกว่าใครจะเป็นทำ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะเห็นปัญหาบ้านเมืองยังคงความขัดแย้งและอยู่ในบรรยากาศเช่นนี้อยู่ต่อไปหรือไม่ ถ้าเราไม่อยากเห็น แล้วใครบ้างสามารถที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ก็ควรเข้ามา การพูดว่าไม่ใช่หน้าที่ดูเหมือนไม่ใช่คนไทยที่รักประเทศ ผมคิดว่าใครก็ตามที่เป็นคนไทย และอยากเห็นประเทศเดินหน้าไปได้ หากทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้ ก็ต้องลงมาช่วยทำ เริ่มทำ ก็ไม่ได้แปลว่าจะสำเร็จ จะสำเร็จหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยกเว้นคนที่ไม่อยากให้เรื่องนี้จบด้วยการเจรจา ซึ่งต้องไปคิดว่าจะจบด้วยวิธีการอะไร” นายสมชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น