xs
xsm
sm
md
lg

ครม.รับทราบทบทวนกฎหมายสมัย สนช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
ผลประชุม ครม.รับทราบข้อเสนอแนะ คปก. ทบทวนกฎหมายที่ตราโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปรับปรุงแก้ไขเนื้อหากฎหมาย ในสาระสำคัญ 34 ฉบับ เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหาร 8 ฉบับ ยกเลิกกฎหมาย 1 ฉบับ และให้คงกฎหมายไว้เช่นเดิมแต่สามารถทบทวนแก้ไขได้ภายหลัง 75 ฉบับ

วันนี้ (20 ส.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย หรือ คปก. ซึ่งมี ดร.คณิต ณ นคร เป็นประธาน เกี่ยวกับการทบทวนกฎหมาย 221 ฉบับที่ตราโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 2550 ภายหลังเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ถึง 23 ธ.ค. 2550 เนื่องจากพบว่ากระบวนการออกกฎหมายของ สนช. ดังกล่าว มีปัญหาเรื่องความชอบธรรมหลายประการ เช่น ปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ และไม่มีตัวแทนของประชาชนร่วมพิจารณา เนื่องจากเป็นช่วงเวลาภายหลังการปฏิวัติรัฐประหาร ทำให้การเมืองไทยไม่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

โดย คปก.ได้เสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายที่ตราโดย สนช. แบ่งเป็น 3 แนวทาง คือ 1. ให้ปรับปรุงแก้ไขเนื้อหากฎหมาย ในสาระสำคัญ จำนวน 34 ฉบับ 2. ให้ยกเลิกกฎหมาย 1 ฉบับ และ 3. ให้คงกฎหมายไว้เช่นเดิมแต่สามารถทบทวนแก้ไขได้ภายหลัง 75 ฉบับ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ในจำนวนกฎหมายที่ คปก. เสนอให้ปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาจำนวน 8 ฉบับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารนั้น เห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการปรับปรุงแก้ไข กม.ตามข้อเสนอของ คปก.ได้ทันที และให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการฯ รัฐสภา ที่เกี่ยวข้องในการให้ความคิดเห็นประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ตราโดย สนช. ดังกล่าว ส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอิสระ ศาล หรือฝ่ายตุลาการนั้น ครม.เห็นว่าควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ คปก.ในการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการศึกษาทบทวนว่าควรจะต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่อย่างไร เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าฝ่ายบริหารไม่ได้มีความประสงค์ที่จะ เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซง อำนาจตุลาการ หรือ องค์กรอิสระ

สำหรับ กฎหมาย 8 ฉบับที่ คปก.เห็นควรให้ปรับปรุงแก้ไขในสาระสำคัญ ประกอบด้วย 1. พ.ร.ก. แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ซึ่ง คปก.เห็นว่าการกำหนดสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ ยังไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในการถ่ายโอนภารกิจ 2. พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 คปก.เห็นควรให้พิจารณาบทบาทและอำนาจหน้าที่ของกำนันและผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง กระบวนการเข้าสู่ตำแหน่ง ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และบทบาทหน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้าน 3. พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551 คปก.เห็นควรให้พิจารณาประเด็นเกี่ยวกับการสนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งบทบาทและอำนาจหน้าที่ของสภาองค์กรชุมชนในภาพรวม 4. พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 คปก. เห็นว่าเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความมั่นคง และมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก จึงควรมีการพิจารณาบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการรับผิด ซึ่งมีเนื้อหากว้างและไม่มีความชัดเจน ประเด็นเกี่ยวกับความรับผิดของ server หรือผู้ให้บริการ และความผิดซ้ำซ้อนกับประมวลกฎหมายอาญา

5. พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 (คปก. ไม่ได้ระบุเหตุผลที่เสนอให้แก้ไข) 6. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 (คปก. ไม่ได้ระบุเหตุผลที่เสนอให้แก้ไข) 7. พ.ร.บ.พัฒนาที่ดิน พ.ศ. 2551 คปก.เห็นควรให้แก้ไขเพิ่มเติมนิยามเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดิน รวมทั้งปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน และปรับปรุงอำนาจหน้าที่ให้มากขึ้น และ 8. พ.ร.บ. ส่งเสริมการจัดสวันสดิการสังคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 คปก.เห็นว่าควรแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและที่มาของคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้รวมถึงองค์กรสวัสดิการชุมชน ส่วนกฎหมายที่ คปก. เห็นควรให้ยกเลิก คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยความเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 และได้สิ้นสุดไปแล้ว จึงทำให้ พ.ร.บ.ดังกล่าวหมดอายุตามไปด้วยโดยปริยาย


กำลังโหลดความคิดเห็น