xs
xsm
sm
md
lg

เสวนาใครแยกดินแดน ปชป.อัด พท.หนุน จ่อแพร่ให้ ปชช.ทราบ ชี้ “แม้ว” ไม่มีชาติใดเอา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปชป.จัดเสวนาใครแยกดินแดน “คุณหญิงกัลยา” ลั่นแยกเจอประหาร ฉะ พท.คอยหนุน ขอบคุณกองทัพปราม “นันทเดช” ชี้รัฐผุดปมร้อนเบี่ยงความสนใจ เอื้อยื้ออำนาจถึงเลือก ส.ว. หวังนำเสียง ปชช.อ้างประโยชน์ “ไทกร” ปูดระบอบแม้วสะสมกำลังรับสงครามกลางเมือง หวังลอบกัดจนทนไม่ไหว แนะอภัยแดง “กษิต” จี้ฝ่ายมั่นคงจัดการ เผยแจง ตปท.โต้ “แม้ว” เชื่อไม่มีชาติใดเอา “มาร์ค” แนะแพร่ข้อมูล ปชช.ให้ทราบ เหตุ รบ.ลุยเพิ่มขัดแย้ง



วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ลานพแม่พระธรณีบีบมวยผม พรรคประชาธิปัตย์ มีการจัดเสนาเรื่อง ใคร? แบ่งแยกดินแดนขวานทอง “รัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งเดียว จะแบ่งแยกมิได้” โดยมีวิทยากรเข้าร่วมคือ นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ และทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี แกนนำ กปปส.โคราช

ทั้งนี้ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคอีสาน กล่าวเปิดการเสวนาว่า ใครบังอาจแบ่งแยกดินแดนต้องได้รับโทษประหารชีวิต ปัจจุบันเกิดเหตุการณ์อุกอาจน่ากลัว มีการขึ้นป้ายแยกประเทศ มีแกนนำพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงให้สัมภาษณ์สนับสนุน ยุยงปลุกปั่นประชาชน มีการยอมรับว่ามีการฝึกอบรมกองกำลังให้ต่อสู้ในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เราจึงควรหยุดยั้งกระบวนการนี้ ก่อนที่จะสายเกินแก้และขอบคุณกองทัพบกที่ออกมาดำเนินการอย่างจริงจัง

พล.ท.นันทเดชกล่าวว่า คนที่พูดว่าจะแยกภาคเหนือและอีสานออกไปเพราะปัจจุบันรัฐบาลอยู่ในสภาพทรุดโทรมต้องยืนพิงรั้วอยู่ แต่ที่อยู่ได้เพราะพึ่งพาตำรวจ ข้าราชการประจำ คนเสื้อแดง กติกาสากลของชาติตะวันตกและใช้เงินขับเคลื่อนเพื่อยืดเวลารัฐบาลออกไปไม่ให้ล้มก่อนวันที่ 30 มี.ค. โดยให้การเลือกตั้ง ส.ว.ผ่านไปก่อนเพื่อหวังว่ารัฐบาลจะได้ ส.ว.เต็มสภา เพื่อถามกลับไปยัง กปปส.ว่าสภาประชาชนมาจากไหน และจะใช้เสียงข้างมากในวุฒิสภาป้องกันเรื่องคดีต่างๆ และจะบอกว่าได้ยอมเสียสละการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ที่ส่อเป็นโมฆะ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งครั้งใหม่ เพื่อบีบ กปปส. รัฐบาลและผู้สนับสนุนรัฐบาลจึงพยายามดำเนินการเรื่องการแบ่งแยกดินแดนเป็น สปป.ล้านนา เพื่อให้ กปปส.และทหาร หันมาสนใจประเด็นนี้ แทนที่จะกดดันรัฐบาล เพื่อยืดเวลาของรัฐบาลออกไป

ด้านนายไทกรกล่าวว่า ระบอบทักษิณมีเป้าหมายเพื่อเข้าสู่การยึดครองประเทศไทยให้ได้บางส่วน โดยเมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพลี่ยงพล้ำ มีการวางแผนเป็นระบบ ระดมชายชุดดำและการ์ด นปช. ที่เคยใช้งานในปี 53 ให้เข้าร่วมทางยุทธวิธีเป็นกลุ่มติดอาวุธ มีพื้นที่ฝึก จ.ชลบุรี และจ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นจะให้มาประจำในเขตคลองเตย ที่มีบุรีและดอนเมืองใน กทม. และใน จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี ใช้เป็นที่พักพิงของกองกำลังติดอาวุธ ขณะที่ภาคเหนือมีการจัดซื้ออาวุธสงครามเถื่อนทั้งปืน ระเบิดสะสมไว้ที่ข้าง อ.เมือง จ.เชียงใหม่เพื่อคอยโอกาส และมีการวางแผนให้เกิดสงครามกลางเมือง โดยให้กลุ่มเหล่านี้เข้าโจมตีผู้ชุมนุมให้โกรธแค้นจนยกพวกไปปะทะกัน ทำให้ทหารยึดอำนาจ เป็นเงื่อนไขเข้าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเตรียมประกาศแบ่งแยกประเทศ แต่ไม่สำเร็จเพราะประชาชนและทหารไม่เดินตามแผนที่เขาวางไว้ ขณะนี้ที่ภาคอีสานมีการระดมอาสาสมัครตั้งกองกำลัง และประสานให้กลุ่มคนเสื้อแดงอิมพีเรียลปลุกระดมมวลชนให้คลุ้มคลั่งเพื่อเคลื่อนเข้า กทม. และให้กองกำลังติดอาวุธเร่งโจมตีแกนนำและผู้ชุมนุม วันเวลาที่เขาจะลงมือ จะถือวันที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ล่มสลายจากการตรวจสอบขององค์กรอิสระ จะมีการสร้างหตุการณ์ปะทะขึ้น เพื่อสร้างหัวเชื้อให้เกิดสงครามกลางเมือง

“ขอย้ำว่าเขาจะถือเอาวันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สิ้นสภาพเป็นวันคิกออฟ ในอีสานมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มนครพนม กลุ่มสุภรณ์ โคราช และพทค.444 จะมีหน่วยในการนำคนเสื้อแดงเข้ายึดสถานที่ราชการทั้งศาลากลาง และที่สำคัญในภาคอีสาน ส่วนแกนนำแดงที่ปลุกระดมเก่งจะใช้สื่อเคลื่อนขบวนรถเข้า กทม.มีอย่างน้อย 2 หมื่นคน พร้อมใช้กองกำลังชุดดำก่อวินาศกรรมในพื้นที่ กทม.เพื่อจุดสถานการณ์ให้ประชาชนกลัว เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณถือความได้เปรียบในการเจรจาต่อรอง โดยใช้ศูนย์ประสานงานรัฐไทยใหม่ที่ฝรั่งเศสและอังกฤษพร้อมการล็อบบี้ของเครือข่าย ที่สำคัญคือคนไทยต้องให้อภัยเปิดใจรับคนเสื้อแดงที่เคยหลงผิดให้กลับมาในฝ่ายที่ถูกต้องจะช่วยลดการแบ่งแยกครั้งนี้ได้”

ด้าน ทพ.ศุภผล กล่าวว่า ถ้าไม่มีสุญญากาศเกิดขึ้นกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และการเปิดยุทธการใหญ่คัดค้านการทำผิดของรัฐบาลของกลุ่ม กปปส. ยุทธการที่กำลังแบ่งแยกประเทศเป็น สปป.ล้านนาคงไม่เกิดและไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นความต่อเนื่องของการพยายามสร้างรัฐไทยใหม่ที่เขาประกาศมาตลอด เป็นสงครามที่ช่วงชิงอำนาจรัฐให้กลับมาอยู่ในมือของ พ.ต.ท.ทักษิณแม้จะชนะเลือกตั้งในปี 54 แต่ไม่เบ็ดเสร็จ ซึ่งสอดรับกับการขึ้นเชียงใหม่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์และการตั้งกองกำลังแดงในอีสานและเหนือของบรรดาแกนนำ นปช.และส.ส.พรรคเพื่อไทย

นายกษิตกล่าวว่า คนที่มีแนวคิดแบ่งแยกประเทศถือเป็นกบฏทันที และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผู้ให้ความเห็นชอบก็ถือเป็นกบฏด้วย ที่ผ่านมาบรรพบุรุษต่อสู้ให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวจึงเป็นภาระหน้าที่ของปวงชนชาวไทยในการร่วมกันแก้ปัญหา สร้างชาติ ลดความเหลื่อมล้ำ แนวคิดแบ่งแยกประเทศ เป็นการหาที่ลงของระบอบทักษิณ ที่แพ้แล้วยังแสวงหาอำนาจต่อไปมีเป้าหมายเพื่อหาผลประโยชน์ เราจึงควรต้องล้มล้างรัฐบาล พรรคการเมือง เสื้อแดงและกระบวนการที่เป็นกบฏ จึงต้องเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงออกมาจับกุมพวกนี้ดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ ในพรรคประชาธิปัตย์ทั้งนายเกียรติ สิทธีอมร และนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรค ได้ประสานติดต่อกับตัวแทนสหประชาชาติตลอดไม่ให้มีการแทรกแซงกิจการภายในไทย แม้เครือข่ายทักษิณจะครองสื่อต่างประเทศบิดเบือน แต่เราก็ทำหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริงให้สื่อต่างชาติรับทราบเช่น กรณีรัฐบาลจะเชิญนายบันคีมูน เลขาฯยูเอ็นก็เข้าใจสถานการณ์นี้ที่โลกไม่เล่นด้วยกับการแบ่งแยกตัวเองไม่ว่าจะเป็นชาติใดๆ เพราะมองถึงภาพรวมของความสำคัญมากกว่า และยินดีให้ไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ กล้าพนันว่าสุดท้ายจะไม่มีชาติใดรับรองสถานภาพและขอให้ กอ.รมน.ปลดตัวประธาน คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นตำแหน่งประธาน กอ.รมน.ก่อน เพราะเป็นกบฏต่อชาติ

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหลังการสัมมนาว่า ตนคงไม่แสดงความเห็นเพราะวิทยากรได้ให้ข้อมูลไปแล้ว แต่ขอย้ำว่าเราทุกคนที่มีจิตใจ แนวคิด อุดมการณ์เดียวกันในการรักษาความถูกต้องและผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก จะได้เผยแพร่ข้อมูลนี้ให้พี่น้องคนไทยได้ร่วมรับรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือ เราต้องรักษาแนวทางการต่อสู้ที่ถูกต้อง คือแม้เขาจะหวังผลมากน้อยอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เขาพยายามทำต่อจากนี้คือ การเพิ่มความขัดแย้ง เพิ่มความแตกแยก เพิ่มความรุนแรงดังนั่นในการต่อสู้ของเราขอให้ยึดมั่นแนวทางการต่อสู้ที่ถูกต้อง ชอบธรรม อย่าไปใช้วิธีการเดียวกับที่เขากำลังใช้ซึ่งจะทำให้เราสูญเสียความชอบธรรมในการต่อสู้ และขอย้ำว่าแนวร่วมของเราสามารถขยายเพิ่มขึ้นได้อีกจากคนที่เคยไม่เข้าใจทั้งคนไทยและต่างชาติ แม้แต่คนที่เคยฝักใฝ่รัฐบาลหรือพรรครัฐบาล ที่ไม่เคยรู้ถึงแนวคิดอันตรายนี้ที่กระทบความมั่นคงของชาติ หน้าที่เราคือการเชิญชวนให้คนเหล่านี้มาร่วมกับเราในแนวทางที่ถูกต้อง เป็นธรรม ซึ่งคนมาถามตนว่าเราจะชนะไหม ตนตอบไปว่า เราชนะแน่ แต่จะเมื่อไหร่ และอย่างไรนั้นไม่ทราบ แต่ขอให้ยึดมั่นรักษาแนวทางที่ถูกต้องนี้ต่อไปชนะแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น