รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ฝาก “ยิ่งลักษณ์” ปราม ศรส.ลุอำนาจ ด้านโฆษกพรรค ชี้รัฐไม่เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหวังได้เปรียบ จวก “สุรพงษ์” ไร้วุฒิภาวะ ถามพวกแบ่งแยกประเทศตามยุทธศาสตร์เพื่อไทยต่อรองศาล-องค์กรอิสระหรือไม่ ฉงน “ปู” ขอรื้อบังเกอร์เปิดทางชุดดำถล่มม็อบ จี้กองทัพสอบพวกซ่องสุมอาวุธ ท้าให้สัจจะยอมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. “จุฤทธิ์” เชื่อ “เฉลิม” ลั่นตั้งพรรคทักษิณเหมือนรู้ว่า พท.จะถูกยุบ เตือน “นิคม” ให้ใช้รัฐสภาส่อขัด รธน.
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาบ้านเมืองว่า เกิดจากการกระทำของรัฐบาลที่บริหารโดยไม่ยึดหลักธรรมาภิบาล ลุแก่อำนาจ ใช้เสียงข้างมากลากไป จนประชาชนออกมาชุมนุมคัดค้าน ดังนั้นการที่ ศรส.กล่าวหาว่าการชุมนุมก่อให้เกิดความเสียหายจึงไม่เป็นความจริง เพราะถ้ารัฐบาลไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ทุจริต การชุมนุมก็ไม่เกิดขึ้น ดังนั้น ผู้ที่สร้างความเสียหายคือรัฐบาล หากจะเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญาต้องเอาผิดต่อรัฐบาลเพราะเป็นความผิดตั้งแต่ต้นน้ำ พร้อมกันนี้ขอฝากไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มากำกับดูแล ศรส.ไม่ให้ลุแก่อำนาจใช้วิธีการโดยมิชอบ เพราะหากยังปล่อยไปเช่นนี้ ตนเชื่อว่าปัญหาจะเพิ่มมากขึ้นและเป็นผลร้ายต่อประเทศชาติและรัฐบาลมากกว่าจะเป็นผลดี
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ศรส.อ้างว่ายังไม่สามารถยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ เพราะยังมีเหตุปาระเบิดเกิดขึ้น ทั้งที่เป็นการกระทำความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม องค์กรอิสระ รวมทั้งศาล แสดงว่าต้องการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้เพื่อสร้างความได้เปรียบ ไม่ใช่เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้สงบสุขแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ออกมาระบุว่าการดำเนินคดีต่อผู้แบ่งแยกประเทศในข้อหากบฏ ให้จัดการกับกบฏในเมืองหลวงด้วยนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า สะท้อนความไร้วุฒิภาวะของนายสุรพงษ์ เพราะคดีของ กปปส.มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลไม่เคยดำเนินการใดๆ ต่อผู้ที่คิดแบ่งแยกประเทศจนกองทัพต้องไปแจ้งความ จึงฝากไปถึงนายสุรพงษ์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ให้ท้ายคนคิดแบ่งแยกประเทศโดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถามว่าเป็นยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยมาต่อรองกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้กบฏแบ่งแยกดินแดนมากดดัน ป.ป.ช.ใช่หรือไม่ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เรียกร้องให้ทหารรื้อบังเกอร์โดยอ้างว่าทำลายภาพลักษณ์ทั้งที่เป็นการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน จึงต้องตั้งคำถามว่า ต้องการเปิดทางให้ชายชุดดำมาทำร้ายประชาชนใช่หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการซ่องสุมกำลังอาวุธด้วยจึงขอให้กองทัพตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงประเด็นที่ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 3 ประเด็น เลือกตั้งใหม่ต้องเป็นกฤษฎีกาหรือไม่ ถ้าเป็นกฤษฎีกาต้องยกเลิกกฤษฎีกาวันเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 หรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามที่จะหาทางออกให้กับประเทศได้จึงขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัจจะต่อสังคมว่าจะยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย และรัฐบาลต้องรับผิดชอบหนี้ 2 หมื่นล้านบาทจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 ด้วย เพราะยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะระบายข้าวให้ได้เงินตามเป้าหมายมาคืนงบสำรองจ่ายอย่างไร จึงขอให้รัฐบาลทำความชัดเจนในเรื่องนี้ด้วย และเรียกร้องให้ตระกูลชินวัตรนำเงินแสนล้านมาบริจาคขาดให้ชาวนาผ่านกองทุนของ ธ.ก.ส.เพื่อไถ่บาปให้ชาวนาด้วย
ขณะที่นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ระบุว่าหากโดนยุบพรรคเพื่อไทยจะตั้งพรรคทักษิณมี ร.ต.อ.เฉลิม เป็นหัวหน้าพรรค แสดงว่า ร.ต.อ.เฉลิมมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบ และหาก ร.ต.อ.เฉลิมได้เป็นหัวหน้าพรรคจริงตนขอให้ชูนโยบายว่า “กู้ 2 ล้านล้านเพื่อทักษิณ ตั้ง สปป.ล้านนา เพื่อทักษิณ”
นายจุฤทธิ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีความพยายามจะประชุมสภาผู้แทนราษฏรในวันที่ 8 ต.ค. โดย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อ้างว่าจะเป็น ส.ส.โดยไม่รับเงินเดือนนั้น ขอให้ไปลาออกจากตำแหน่งรองเลขานายกฯ เพื่อไม่รับเงืนเดือนก่อน เช่นเดียวกับนายสุนัย จุลพงศธร ซึ่งยังอยู่ในระหว่างที่ ป.ป.ช.กำลังชี้มูลความผิดกรณีแก้รัฐธรรมนูญปมที่มา ส.ว.อยู่ ไม่แตกต่างจากนายนิคม ไวยรัชพานิช ที่ถูกกล่าวหาอยู่ใน ป.ป.ช.เช่นเดียวกัน รวมทั้งนายนิคมยังถือว่าสิ้นสภาพความเป็น ส.ว.แล้ว การจะอนุญาตให้มีการใช้ห้องประชุมสภาได้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงขอให้พิจารณาให้ดีอย่าทำผิดกฎหมายเพิ่มเติม