xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ปูด DSI ไล่สอบข้าวยุคมาร์คสนอง พท. สับ “ปู” พล่าม ปชต.แต่ไม่เคารพการตรวจสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นพ.วรงค์ เดชวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์
“จอมแฉจำนำข้าว” แขวะเพื่อไทยไม่ทำการบ้าน ยันทุจริตยุค “มาร์ค” ในระดับล่างไม่ใช่นโยบาย โชว์เอกสารดีเอสไอเรียกเกษตรอำเภอสอบโครงการสมัย ปชป.สอดรับคำสั่งรัฐแก้แค้น “ชวนนท์” จี้ “ยิ่งลักษณ์” สารภาพความจริงต่อชาวนา ไปรับทราบข้อกล่าวหา ป.ป.ช.ด้วยตัวเอง สับไม่เคารพการตรวจสอบ พล่ามเพื่อประชาธิปไตยแต่ไม่เคยทำ “จุฤทธิ์” แนะเบรกสาวกกดดัน ป.ป.ช. ย้อน “ปู” ยันคนโกงต้องไม่มีที่ยืนในสังคม



วันนี้ (26 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปยื่นหนังสือกดดัน ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบโครงการการระบายข้าวและประกันรายได้ในยุคอภิสิทธิ์ว่า เป็นความจงใจที่จะกดดันให้ ป.ป.ช.ชี้มูลโครงการในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ควรจะทำการบ้านเก็บข้อมูลหลักฐานก่อนยื่นต่อ ป.ป.ช. ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อมูลมีแค่การกล่าวหาว่าปล่อยให้ชาวนาลงทะเบียนมากกว่าที่มีที่นาจริงโดยไม่มีหลักฐานว่าชาวนาคนใดที่ไม่ลงทะเบียนตามความจริง อีกทั้งยังเป็นความผิดในระดับชาวนาไม่ใช่การทุจริตของระดับนโยบาย จึงขอสอนมวยให้อดีต ส.ส.เพื่อไทยทำการบ้านมากกว่านี้ อย่าหวังผลเพียงแค่เป็นประเด็นทางการเมืองเท่านั้น

นพ.วรงค์ยังได้นำเอกสารที่ดีเอสไอทำถึงเกษตรอำเภอ และเกษตรตำบล ตรวจสอบโครงการประกันรายได้ในรัฐบาลอภิสิทธิ์มีการทุจริตหรือไม่ ในวันที่ 27 ก.พ. 57 ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง โดยพนักงานของดีเอสไอเพิ่งลงพื้นที่ไปตรวจสอบ เป็นขบวนการทำงานสอดรับกันกับสิ่งที่อดีต ส.ส.เพื่อไทยไปร้องต่อ ป.ป.ช. ตนจึงขอเรียกร้องไปยังดีเอสไอให้ไปทำคดีอื่น ไม่ใช่ไปกดดันเกษตรอำเภอ เกษตรตำบล และชาวนา ดังนั้น หากถูกดีเอสไอเรียกไปให้ข้อมูลขอให้มั่นใจและให้ข้อมูลไปตามความเป็นจริง เพราะเรื่องนี้เป็นการพยายามแก้แค้นนายอภิสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ครม.มีมติอนุมัติเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาทจ่ายหนี้ให้ชาวนานั้น เป็นมติที่นับไม่ถ้วนในความพยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็นและซื้อเวลาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยยืนยันว่ามีเงินกู้เรียบร้อยแล้วจ่ายเงินให้ชาวนาได้วันละ 4 พันล้านบาทแต่กลับไม่มีการจ่ายเงินจริง มีแต่ขบวนการหาข้อแก้ตัวรายวัน ตั้งแต่ความพยายามจะออกพันธบัตร การกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ รวมทั้งการระบายข้าวหนึ่งล้านตันต่อเดือนคืนคลังได้ 8 พันล้านบาท ซึ่งหาเป็นเช่นนั้นจะต้องใช้เวลาถึงปี 2558 จึงจะจ่ายชาวนาได้หมด และยังดิ้นรนให้การประปานครหลวงมาซื้อพันธบัตร เป็นการบริหารแบบเลอะเทอะชาวนาไม่ได้รับความช่วยเหลือและซ้ำเติมให้ปัญหายุ่งยากมากขึ้น จึงขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์สารภาพผิดพูดความจริงกับชาวนาว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร โดยเริ่มต้นจากการรับทราบข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช.ด้วยตัวเอง เพราะหากไม่ไปตามนัดจะไม่สามารถมอบอำนาจให้ใครคัดลอกสำเนาข้อกล่าวหาได้ เท่ากับยอมรับว่ามีส่วนรู้เห็นในการทุจริตจนชาวนาไม่ได้รับเงินมาจนถึงทุกวัน

สำหรับกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามที่ ป.ป.ช.นัดหมายกรณีทุจริตจำนำข้าว โดยจะส่งตัวแทนไปขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาออกไป 15 วันนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า เป็นการไม่เคารพการตรวจสอบและการถ่วงดุลขององค์กรอิสระตามระบอบประชาธิปไตย การพร่ำพูดถึงการรักษาประชาธิปไตยแต่มีพฤติกรรมไม่เป็นประชาธิปไตยแม้แต่นิดเดียว หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ไม่ให้ความร่วมมือกับองค์กรที่ตรวจสอบต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ถือเป็นกระบวนการทำลายประชาธิปไตยอย่างรุนแรง เพราะนายกฯ ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมหากตัดสินเป็นโทษ จะยอมรับก็ต่อเมื่อตัดสินเป็นคุณเท่านั้น

นายชวนนท์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีความพยายามบิดเบือนประเด็นโดยการระบายข้าวในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มากล่าวหาว่ามีความล่าช้า ทั้งๆ ที่ การระบายข้าวเป็นการตรวจสอบการทุจริตที่ต่างจากโครงการจำนำข้าวเพราะถูกกล่าวหาว่ามีการฮั้วประมูล ไม่ใช่เป็นการทุจริตของฝ่ายบริหาร ดังนั้น การรวบรวมเอกสารหลักฐานจึงมีความแตกต่างกัน แต่รัฐบาลพยายามที่จะสร้างความเข้าใจผิดว่า ป.ป.ช.ไม่เร่งรัดคดีที่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่ความจริงหน่วยงานรัฐภายใต้กำกับดูแลของรัฐบาลไม่ยอมส่งหลักฐานให้กับ ป.ป.ช.จึงต้องถามว่าทำอะไรอยู่ หรือตรวจสอบแล้วพบว่านายอภิสิทธิ์ ไม่มีความผิด จึงไม่ยอมส่งเอกสารเพื่อไม่ให้ได้ข้อยุติ หรือพบว่าคนทำผิดคือพวกเดียวกันที่ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย

“เลิกเบี่ยงเบนประเด็น ให้ว่าตามข้อเท็จจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับทราบข้อกล่าวหา และชี้แจง หากมั่นใจว่าสุจริตจะปฏิเสธการตรวจสอบทำไม ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยหนีกระบวนการตรวจสอบแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำลายประเทศไทยด้วยการไม่ยอมรับการตรวจสอบมาโดยตลอด และจุดเริ่มต้นความขัดแย้งในประเทศไทยก็เกิดจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายนายกรัฐมนตรีไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย” นายชวนนท์กล่าว

ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำภาพการจัดงานปราบการทุจริตคอร์รัปชันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ในหลายวาระมาทวงถามความจริงจังในการปราบปรามการทุจริต หลังจากที่พยายามหนีการไปรับทราบข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช.ด้วยการเดินทางไปภาคเหนือ แสดงให้เห็นว่าไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องการปราบปรามการทุจริตที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรุนแรงจนกำลังจะเป็นประเทศที่มีการทุจริตมากที่สุดในเอเชียด้วย นอกจากนี้ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระงับการส่งสมุนไปกดดัน ป.ป.ช. จัดการกับคนที่ทำผิดตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูล หากมีหลักฐานใครทำผิดก็ขอให้ส่งหลักฐานให้ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นบทบาทผู้นำที่สมควรทำในขณะนี้ การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โอดครวญว่าจะไม่ให้มีที่ยืนเลยหรือนั้น ตนขอเรียนว่าใช่ เพราะโฆษณาก็ระบุว่า อย่าให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม เพราะเป็นผลกรรมจากการกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เอง
กำลังโหลดความคิดเห็น