ทีมโฆษก ปชป.หักคอ “เด็จพี่” ชี้ ป.ป.ช.เคยขยายเวลาแจงแก้ที่มา ส.ว.แล้ว แถมศาล รธน.วินิจฉัยขัด รธน.อ้างติดหาเสียงฟังไม่ขึ้น เทียบคุณสมบัติ ส.ส.“มาร์ค” ไม่ได้ ยุพรรคร่วมเลิกเป็นม้ารับใช้ พท.บี้ถาม “ขี้ข้าปึ้ง-ธาริต” ดำเนินการขอตัว “นช.แม้ว” หรือไม่ หลังโผล่แก้กรรมพม่า จี้ ฝ่ายมั่นคงดูคดีลอบกัดม็อบ-ไฟใต้ อย่าดูแต่คดี “ขวัญชัย” ตอกจับ “สนธิญาณ” แต่โกตี๋ไม่จับ ถาม ผบ.ทบ.เอาไง คน พท.ลอบใช้ต่างด้าวป่วน
วันนี้ (11 ก.พ.) นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ขอขยายเวลาที่จะชี้แจงข้อกล่าวหากรณีแก้รัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.โดยอ้างว่าติดหาเสียงว่า ความจริง ป.ป.ช.ได้เคยขยายเวลาให้ไปแล้ว และเป็นข้อกล่าวหาที่รับทราบมานานแล้ว อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสมาชิกรัฐสภา 308 คนที่ถูกกล่าวหาทราบดีอยู่แล้ว การอ้างว่าติดภารกิจหาเสียงจึงฟังไม่ขึ้น และไม่สามารถนำมาเทียบกับกรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับคุณสมบัติในเรื่องการเกณฑ์ทหาร ทั้งที่เป็นคนละประเด็นกันไม่สามารถหยิบยกมาเปรียบเทียบได้ เพราะสมาชิกรัฐสภาเหล่านี้ทำขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังเรียกร้องถึงพรรคร่วมรัฐบาลให้มาร่วมหาทางออกให้กับประเทศไทย ออกมาตั้งหลักเลิกเป็นม้ารับใช้ทรราช เลิกเป็นบันไดให้ผู้นำไร้ความสามารถ ไร้ความรับผิดชอบได้แล้ว เพราะขณะนี้มีแกนนำเพื่อไทยออกมาดูถูกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เพราะพยายามที่จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว มองว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีราคา แต่ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นม้ารับใช้ให้พรรคเพื่อไทยอยู่ ประเทศก็จะไม่มีทางออก
นายจุฤทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีทำพิธีแก้กรรมที่ประเทศพม่า โดยตั้งคำถามถึงนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ว่าได้ทำหนังสือขอตัวนักโทษรายนี้มาดำเนินคดีหรือไม่ เพราะขณะที่ตระกูลนี้สะเดาะเคราะห์แก้กรรมกลับสร้างกรรมให้ชาวนาทั้งประเทศ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยพูดว่าจะเอาเงินที่ไหนให้ชาวนา นอกจากพยายามที่จะรักษาอำนาจของตัวเอง และฝากไปถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ว่า ได้ทำหนังสือถึง นายสุรพงษ์ เพื่อนำนักโทษคดีก่อการร้ายมาดำเนินคดีหรือยัง เมื่อมีการจับกุมตัวนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำ กปปส.ได้ ก็น่าจะจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ เพราะวันนี้เข้ามาอยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด และขอให้ ศรส.เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพม่าเพื่อบัญชาการในการจัดการกับผู้ชุมนุมจริงหรือไม่
ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.ให้ติดตามความคืบหน้าคดีที่มีการก่อความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมและประชาชน ไม่ใช่ใส่ใจเพียงแค่การดำเนินคดีกับผู้ที่ยิงนายขวัญชัย ไพรพนา เท่านั้น และขอให้ฝ่ายความมั่นคงหันไปสนใจปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ด้วย เพราะหากไม่ทำหน้าที่ก็ควรลาออกไปเหมือนกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่เชื่อว่ากำลังจะลาออกเร็วๆ นี้ เนื่องจากไม่สามารถบริหารประเทศได้ ทำให้ประชาชนอยู่ในภาวะไม่ปลอดภัยพึ่งพาเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ โดยทุกคดีที่มีกระทำต่อผู้ที่เห็นต่างจากรัฐบาลไม่เคยมีความคืบหน้า ทั้งที่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนี้ยังไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนกรณีที่มีตำรวจพร้อมอาวุธอยู่บนตึกสูงในวันที่มีการปะทะกันระหว่าง คปท.และตำรวจ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย รวมถึงกรณีที่ตำรวจทุบรถอาสาพยาบาลด้วย เหตุใดตำรวจจึงไม่มีความสามารถจับกุมคนร้ายได้เหมือนกรณีที่นายขวัญชัยถูกยิง จึงขอให้ตำรวจชี้แจงต่อประชาชนด้วย
น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นทั้งหมดจาก 2 พ.ย.56 จนถึง 1 ก.พ. 57 รวม 32 คดี ที่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ พร้อมกับตั้งคำถามถึงตำรวจที่จับกุมตัวนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำ กปปส.ในข้อหากระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วเหตุใดจึงไม่มีการจับกุมนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ และคนเสื้อแดงที่ก่อเหตุหลักสี่ เพราะมีการกระทำความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินเช่นเดียวกัน และตั้งคำถามถึงฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่ามีการจับกุมตัวชาวกัมพูชาที่สารภาพว่าได้รับการจ้างให้เข้ามาก่อกวนในพื้นที่หลักสี่ และหลายพื้นที่ แต่มีการตัดตอน จึงอยากถามถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ได้ดำเนินการอย่างไรกับชาวกัมพูชาเหล่านั้น มีความเกี่ยวพันใดๆ กับอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยในขณะนี้มีความพยายามของคนต่างด้าวเข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทยซึ่งเป็นการบั่นทอนต่อความมั่นคงของชาติ จึงอยากถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ว่า มีหลักการที่จะดำเนินการอย่างไรเพื่อรักษาความสงบในชาติ