“องอาจ” ชี้ 5 ข้อเลือกตั้งมีปัญหา หนุนแนวคิด กกต.เลื่อนโหวต “จุฤทธิ์” ให้กำลังใจทำหน้าที่ แนะ “ยิ่งลักษณ์” ดอดคุย ซัด “ทักษิณ” ทำทุกทางเพื่อสืบทอดอำนาจ
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 57 เป็นการเลือกตั้งที่ก่อให้เกิดปัญหา คือ 1. ในกรณี 28 เขตในจังหวัดภาคใต้ไม่มีผู้สมัคร มีปัญหาตามมาว่าจะเปิดรับสมัครใหม่ได้หรือไม่อย่างไร 2. การเลือกตั้งในเขตที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.เขตโดยเฉพาะใน 28 เขตดังกล่าวจะเลือกตั้งเฉพาะระบบบัญชีรายชื่อได้หรือไม่ 3. ไม่สามารถหากรรมการไปประจำหน่วยเลือกตั้งได้นับเป็นพันหน่วยทั่วประเทศไทย 4. ไม่สามารถที่จะใช้สิทธิลงคะแนนเสียงตามหน่วยเลือกตั้งได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งล่วงหน้า หรือเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 และ 5. แม้ว่าจะเลือกตั้งได้แต่จะเปิดประชุมสภาไม่ได้เพราะมี ส.ส.ไม่ครบ 95% ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
นายองอาจกล่าวว่า ดังนั้นปัญหาทั้งหมดไม่ใช่เรื่องกระบวนการเลือกตั้งที่จะทำให้ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ประชาชนคัดค้านการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป ทำให้ไม่ยอมรับกระบวนการเลือกตั้ง หลายพื้นที่การต่อต้านนำไปสู่การปะทะก่อให้เกิดความรุนแรงจนบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต จึงไม่มีหลักประกันว่าการเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งจะไม่มีการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่หรือกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลจนเกิดการบาดเจ็บล้มตายอีก ทั้งนี้ กกต.ได้พยายามเสนอให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งต่อไป และหาทางให้มีการพบปะพูดคุยของฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นที่ยอมรับกับทุกฝ่าย และทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
“นับตั้งแต่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ มีการกระทำผิดกฎหมายในหลายกรณี และจะมีปมปัญหาที่เกิดในอนาคตอีกหลายเงื่อนไขที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จึงขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์หารือกับ กกต.เพื่อแสวงหาข้อยุติร่วมกันให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์สุขของประเทศและบ้านเมือง เพราะหากไม่ทำการเลือกตั้งจะก่อให้เกิดปัญหามากขึ้น” นายองอาจกล่าว
ด้านนายจุฤทธิ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนให้กำลังใจ กกต.ทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง บริสุทธิ์ ยุติธรรม หลังจากที่ถูกพรรคเพื่อไทยใส่ร้ายว่าถูกครอบงำ ได้รับใบสั่งจากพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่คนทั้งโลกรู้ว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 จะนำไปสู่ปัญหาก่อวิกฤตใหม่ให้ประเทศ ทำให้กกต.กับประชาธิปัตย์เห็นตรงกันว่าต้องปฏิรูปประเทศ มีการจัดกติกาให้เรียบร้อยก่อนค่อยนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งหลายฝ่ายก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน มีแต่รัฐบาลที่พยายามผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งให้ได้และมองว่าการกระทำทุกอย่างของ กกต.ผิดไปหมด แม้กระทั่งการนัดพบนายกรัฐมนตรีเพื่อหารือในการร่วมกันหาทางออก ทั้งนี้ ตนเห็นว่ามีความจำเป็นที่กกต.จะต้องพบกับนายกรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะไม่ใช่เป็นการชุมนุมวงใหญ่ที่คนส่วนมากเป็นผู้ที่สนับสนุนรัฐบาล เนื่องจากในขณะนี้มีปัญหาว่าอาจนับคะแนนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไม่ได้ รวมถึงการลงคะแนนนอกประเทศด้วย
นายจุฤทธิ์กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น คือ ต้นเหตุวิกฤตการเมืองในประเทศไทยเกิดจากการหาทางเข้าประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี จนพยายามแก้รัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายนิรโทษกรรม จนนำไปสู่การชุมนุมการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมีการรักษาผลประโยชน์ของเครือข่ายวงศ์ตระกูลชินวัตรให้อยู่ในมือยาวนานที่สุด รัฐบาลจึงพยายามทำทุกวิถีทางตั้ง ศอ.รส.โจมตีฝ่ายตรงข้าม ไม่สนประชาชนบาดเจ็บล้่มตาย บิดเบือนข้อเท็จจริงใส่ร้ายประชาชน ทำให้ความวุ่นวายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับจากนี้ไปจะเป็น 13 วันอันตรายก่อนการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 เพราะรัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณกับสมุนจะพยายามให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นให้ได้โดยไม่สนใจว่าประชาชนจะเสียชีวิตหรือไม่ และจะทำทุกวิถีทางทั้งบนดินและใต้ดิน เพราะรัฐบาลไม่สนใจว่าจะเกิดปัญหาประชุมสภาไม่ได้ ทำให้ไม่มีรัฐบาลใหม่เพราะรัฐบาลนี้จะรักษาการต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่คำนึงว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ เป็นขบวนการพยายามรักษาและสืบทอดอำนาจ