รอง หน.ปชป. ชี้เหตุลอบกัด กปปส.-ศาลอาญา ส่อแนวโน้มรุนแรงขึ้น ล็อกเป้าแกนนำ ข้องใจป่วนกลางวันยังลอยนวล คาดเอี่ยวผู้มีอำนาจ นายกฯไม่จริงจังจัดการ ตอกหรือเป็นนายกฯ สปป.ล้านนา “ชวนนท์” จี้เลิกทำมึนแดงคิดแยกประเทศ แต่ดันจ้อให้ท้าย เชื่อแผนกดดัน ป.ป.ช.ห้ามเอาผิดโกงจำนำข้าว ย้อนก่อกบฏ ผิดซึ่งหน้าทำไหมไม่จัดการ เย้ยคงรอนั่งนายกฯ สปป.ล้านนา บี้ร่วม กกต.หาทางออกชาติ
วันนี้ (4 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุปาระเบิดใส่ขบวนรถ กปปส.และศาลอาญา รวมถึงการข่มขู่ผู้ที่มีความเห็นต่างเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 57 ว่ามีแนวโน้มจะขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเปลี่ยนเป้าหมายจากการก่อความรุนแรงกับคนระดับแกนนำมาเป็นการก่อเหตุรุนแรงกระจายไปในที่สาธารณะมากขึ้น จึงเป็นสัญญาณความรุนแรงที่พรรคตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดผู้ก่อการสามารถดำเนินการในเวลากลางวันโดยสามารถรอดสายตาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ แสดงว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่ธรรมดา เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจ ในขณะเดียวกัน ความรุนแรงที่เกิดขึ้นก็เกิดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการชุมนุมของ กปปส.แต่สถานการณ์ใช้ความรุนแรงกับองค์กรอิสระกลับเพิ่มมากขึ้น โดยที่ไม่เห็นความเอาจริงเอาจังในการดำเนินการเรื่องนี้จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อระงับความรุนแรงแต่อย่างใด
“ขอเรียกร้องให้นายกฯ เอาจริงเอาจังกับการป้องกันและปราบปรามการใชัอาวุธสงครามในที่สาธารณะต่อผู้ที่มีความเห็นต่างกับรัฐบาล หรือคิดว่าเป็นนายกฯ สปป.ล้านนาแล้วจึงปล่อยให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศไทย”
ส่วนนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคำสัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับความพยายามแบ่งแยกประเทศด้วยการสถาปนา สปป.ล้านนา ในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ว่าต้องตวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรม เพราะเป็นคำพูดเสมือนให้ท้ายคนเสื้อแดงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และมีพฤติกรรมพูดจากระทบกระเทียบกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ทั้งที่กลุ่มที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมคือฝั่งตรงข้ามรัฐบาล ที่โดนกลั่นแกล้งจากกระบวนการยุติธรรมตั้งต้นในการตั้งข้อกล่าวหาของดีเอสไอ การดำเนินการของตำรวจที่แบ่งสีเลือกข้างอย่างชัดเจน ไม่เคยจับตัวผู้ทำผิดต่อผู้ชุมนุมได้เลย แต่ตำรวจกลับจับผู้ร้ายที่ยิงนายขวัญชัย ไพรพนา ได้อย่างรวดเร็ว และยังมีการกราดยิงบ้านมารดาของนางทยา ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส.หลังเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งต้องถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมหรือไม่ เพราะความเป็นธรรมสำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นธรรมก็ต่อเมื่อตัวเองและครอบครัวไม่ผิดเท่านั้น
“ถ้านายกฯ จะยังปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น พรรคฯ ก็พร้อมที่จะส่งหลักฐานทั้งหมดให้เพื่อเปิดหูเปิดตา ที่เดินทางไปอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งกำลังถูกจุดประเด็นแบ่งแยกประเทศจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะพยานหลักฐานชัดเจนโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีก แต่กลับไม่ดำเนินการอะไรกับความผิดซึ่งหน้าปล่อยให้ทหารเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี จึงขอเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการจับกุมตัวผู้ที่คิดแบ่งแยกประเทศ ฐานก่อการกบฏทันที โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องตอบคำถามด้วยว่า มีความคิดที่จะใช้การแบ่งแยกประเทศกดดัน ป.ป.ช.ในการพิจารณาคดีทุจริตจำนำข้าวใช่หรือไม่ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าหากมีการสถาปนา สปป.ล้านนาได้จริง นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกคงจะชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
นายชวนนท์ยังแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับสุญญากาศทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ไม่สามารถ เปิดประชุมสภาได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 127 โดยเห็นว่า รัฐบาลและ กกต.ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะยิ่งเดินหน้าก็จะยิ่งสร้างปัญหาซับซ้อนในการกระทำผิดรัฐธรรมนูญขึ้น จึงอยากให้ กกต.ตั้งประเด็นคำถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่า การเลือกตั้งหลายวันขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงอำนาจของ ครม.รักษาการ เพราะเป็นหน้าที่ของนายกฯ และกกต.ต้องให้มีการวินิจฉัยเพื่อให้ได้ข้อสรุป ไม่เช่นนั้นประชาชนทั้งประเทศจะเป็นผู้รับกรรม เพราะในขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็อาจกำลังทำผิดรัฐธรรมนูญเพราะไม่สามารถออกพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาได้
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังตำหนิรัฐบาลที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหาจำนำข้าวจนไม่สามารถนำเงินมาจ่ายค่าข้าวให้ชาวนาได้ โดยมีความพยายามที่จะนำการเมืองมากลบปัญหาโครงการจำนำข้าวว่า ขณะนี้ รัฐบาลผลัดชาวนาเหมือนผัดก๋วยเตี๋ยว โดยที่ไม่เงินถึงมือชาวทั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับปากกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ว่าจะจ่ายเงินให้ชาวนาได้แต่ก็ไม่สามารถดำเนินได้ และพยายามที่จะไม่พูดถึงปัญหานี้โดยการเบี่ยงเบนประเด็นนำเรื่องอื่นมากลบความเดือดร้อนของชาวนา
“ผมตั้งข้อสังเกตว่า กองทุนบริจาคให้ขาดกับชาวนา 10 ล้านมาจาก ธ.ก.ส. แต่กลับไม่มีเงินบริจาคจากคนตระกูลชินวัตร และคนของพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หอบเงินไปฝากธนาคารออมสินแต่กลับไม่คิดบริจาคเงินเพื่อช่วยชาวนาแต่อย่างใด สะท้อนว่าที่ผ่านมาเป็นการสร้างภาพและมีความอำมหิตต่อชาวนาเนื่องจากไม่จริงใจที่จะช่วยเหลือ” นายชวนนท์กล่าว