โฆษก ปชป.ระบุ 3 เหตุผลที่ประชาชนร่วมใจตะเพิด “ยิ่งลักษณ์” ทั้งไม่เข้าใจระบอบ ปชต. ไร้วิสัยทัศน์ ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม และใช้แก๊งเสื้อแดงก่อความรุนแรง แนะเจรจา “สุเทพ” ผ่านจอทีวีพิสูจน์กึ๋น ขณะเดียวกันเตรียมส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช. ฟัน “จารุงพงศ์” ปลุกปั่น ทำให้แตกแยก
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคุณสมบัติ 3 ประการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ คือ 1. ไร้ความรู้ความสามารถ ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย วิสัยทัศน์ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ผ่านการถ่ายทอดโทรทัศน์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่นายกฯ หุ่นเชิดที่ไร้ความสามารถและยังได้แสดงวิสัยทัศน์ในฐานะนายกฯ ว่าจะทำให้ประเทศพบทางออกได้อย่างไร ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ควรปฏิเสธ เหมือนที่กำลังตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ยุติการชุมนุมก่อนเนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่มากเกินไป ต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับว่าประชาชนจะยอมเจรจากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ต่อเมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ จะยอมหรือไม่ ทั้งนี้ เห็นว่านายสุเทพเป็นเพียงร่างทรงของประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว แต่ควรเจรจาเพื่อหาทางออกให้ประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองด้วย
2. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ครอบครัวและพรรคเพื่อไทย มีพฤติกรรมปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้ความร่วมมือองค์กรอิสระในเรื่องการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันเมื่อถูกชี้ว่ามีความผิด โดยล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช.ในกรณีโกงจำนำข้าว และยังส่งลิ่วล้อไปเทปูนปิดล้อม ป.ป.ช.ด้วย สะท้อนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ปล่อยปละละเลยให้มีการกดดัน คุกคามองค์กรอิสระ เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการตรวจสอบ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยุติพฤติกรรมเหล่านี้ได้ก็จะพิสูจน์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์สมควรเป็นนายกฯ หรือไม่ หรือว่าสมควรจะถูกขับไล่เพราะไม่ให้ความร่วมมือกับกระบวนการตรวจสอบ จึงขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ด้วยตัวเอง
3. การใช้คนเสื้อแดงและความรุนแรง ทำให้ประชาชนคับแค้นใจจนออกมาต่อต้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์จำนวนมาก เพื่อรักษาสิทธิความเป็นเจ้าของประเทศ แต่พฤติกรรมความรุนแรงยังไม่หมดไป ล่าสุดการเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ของนายณัฏฐพล และนางทยา ทีปสุวรรณ ไม่ได้เป็นการใช้ความรุนแรงแต่กลับถูกกระทำด้วยการปาระเบิดใส่บ้าน และการรุมประนามของคนในพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นสังคมวิปริตมุ่งรับใช้ผู้มีอำนาจสร้างความเสียหายให้ประเทศ ตนอยากถามว่าถ้าไม่ใช่คุณหญิงพจมาน พรรคเพื่อไทยจะออกอาการอย่างนี้หรือไม่ เพราะแม้แต่เด็กเสียชีวิตพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยออกมาประณาม แต่กลับทำตัวเป็นขี้ข้าคอยปกป้องคนในตระกูลชินวัตร ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง การแบ่งแยกประเทศ ด้วยการดำเนินคดีต่อคนเหล่านี้ ไม่เว้นแม้แต่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ที่ขู่ให้ประชาชนที่มีปืน 10 ล้านกระบอกขึ้นมาสู้
นายชวนนท์กล่าวว่า น่าเสียดายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เคยใช้บทเรียนที่เกิดขึ้นมาใช้ในการแก้ปัญหา หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ปรับปรุงพฤติกรรมสามด้านที่กล่าวไว้ไม่ได้ก็ไม่สมควร รักษาการนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป
ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดีที่ค้างอยู่ใน ป.ป.ช.ว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่ทุจริตจำนำข้าวเท่านั้น แต่ยังมีกรณีการยื่นถอดถอนและดำเนินคดีอาญาต่อสมาชิกรัฐสภาที่กระทำความผิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญด้วย และพรรคประชาธิปัตย์ จะรวบรวมหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่านายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการ รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกระทำความผิด ทั้งการปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง และการรับตั๋วเครื่องบินจากบริษัท อีสต์วอเตอร์ ในการเดินทางไปต่างประเทศราวกว่า 2 หมื่นบาทด้วย เพื่อมอบต่อ ป.ป.ช.เพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะติดตาตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดต่อไป