“ชวนนท์” สับ “ยิ่งลักษณ์” ตะลอนทัวร์หาเสียงล้วนๆ จ่อฟ้อง กกต.ฟัน แฉจำนำข้าวชาวนายังไม่ได้ตังค์ แถมเบิกเกินบัญชีไปเกือบ 3 แสนล้าน ชี้ถ้าปิดบัญชีไม่ได้ต้องรับผิดชอบ “มัลลิกา” เชื่อ “ปู” อยู่ต่อเหตุกลัวไม่ได้ประโยชน์จากบอร์ดรัฐวิสาหกิจ หลังส่งคนใกล้ชิดนั่ง ปธ.แทบทุกเก้าอี้
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเดินสายในภาคอีสานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าหลายคนไม่สบายใจที่เห็นพฤติกรรมดังกล่าวเพราะเป็นการเดินสายหาเสียงตามสถานที่ท่องเที่ยว อากาศดี ชีวิตน่าอิจฉา โดยเห็นได้ชัดว่าภาพบนหน้าหนังสือพิมพ์ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานเลย ตนตามเรื่องนี้มาตลอด 7 วัน ไม่เห็นว่าการเดินสายครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ถือเป็นการหาเสียงโดยใช้ทรัพยากรของประเทศมาสร้างความได้เปรียบทางการเมือง และขณะนี้มีผู้เตรียมการที่จะร้องเรียนเอาผิดกับนายกรัฐมนตรีในการหาเสียงให้กับพรรคตนเอง และยังเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย
“นายกฯ ไม่สำนึกว่าขณะนี้ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะตัวเอง วิกฤตของบ้านเมืองกลางเมืองหลวงยังคงอยู่แต่กลับใช้เวลาราชการไปทัวร์พื้นที่อีกสาน ดังนั้น ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์จะรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อร้องเอาผิดกับสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งในประเด็นนี้” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังคิดที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ จะต้องเอาเวลาไปทำประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่าเดินสายหาเสียง โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่ชาวนาพิษณุโลกออกมาเดินขบวนเรียกร้องเงินจำนำข้าวที่ยังค้างอยู่ ซึ่งขณะนี้เงินในการจำนำข้าวที่ยังไม่ถึงมือชาวนาที่ได้รับใบประทวนมีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท ต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า บัญชีจำนำข้าวจะต้องปิดตัวลงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ และจะต้องใช้เงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาทตามมติ ครม. แต่ตอนนี้ใช้เงินไปแล้ว 6.9 แสนล้านบาท เท่ากับเบิกเกินบัญชีไป 1.9 แสนล้านบาท และบวกกับอีก 1 แสนล้านที่ต้องจ่ายให้ชาวนาภายในสิ้นปีนี้ เท่ากับว่าขณะนี้ประเทศติดลบ 2.9 แสนล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์มีเวลา 4 วันที่จะต้องหาเงินจำนวนนี้เพื่อแก้ไขปัญหามิเช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายชาวนาและทำผิดมติ ครม. แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไม่สามารถกู้ได้ มีทางเดียวต้องระบายข้าวให้ทัน
“แต่ผมธงว่าเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นหากสิ้นเดือนนี้ชาวนาไม่ได้รับเงินและรัฐบาลปิดบัญชีไม่ได้นายกฯต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งตอกย้ำความล้มเหลวสะเพร่าในการคิดนโยบายประชานิยม ละเลยปัญหาของประชาชน ไม่ทราบว่าหัวใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำด้วยอะไร ทัวร์ภาคอีสานอย่างมีความสุข ขณะที่กรุงเทพร้อนเป็นไฟ ท่านนั่งรถไฟหนีปัญหาไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง ปัญหาอยู่ที่ไหน ยิ่งลักษณ์ไม่อยู่ที่นั่น วันนี้ยังกล้ามาเสนอตัวเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยอีกหรือ” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์ยังวิจารณ์รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทยว่า เห็นชัดว่าเป็นการผสมผสานระหว่างคนในตระกูลชินวัตร วงศ์สวัสดิ์ รวมกับขี้ข้าของทักษิณ บวกกับแกนนำคนเสื้อแดง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น ล้านเป็นทาสรับใช้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น และตนย้ำว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ อาจจะได้คะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ แต่ที่ตัดสินใจไม่ลงเพราะไม่เอาความลำบาก และการต่อสู้ของประชาชนความลำบากเพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐ ผิดกับแกนนำเสื้อแดงที่เอาเลือดเนื้อของคนเสื้อแดงก้าวเข้าสู่อำนาจ
ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุผลหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ให้ออกนั้น แท้จริงคือนั่งทับผลประโยชน์มหาศาล ทั้งหมดกระทำภายใต้อำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองโดยตรง ในฐานะ ประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) และล่าสุดประธานคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ แม้จะมอบให้ใครดูแลแต่ด้วยตามกฎหมายกำกับรัฐวิสาหกิจทุกฉบับ ก็ต้องมารับรองใน ครม.โดยมีนางสาวยิ่งลักษณ์ นั่งอนุมัติ
รองโฆษกกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีผลประโยชน์ทับซ้อนในรัฐวิสาหกิจต่างๆ และมีแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกแห่งก่อนเช่นเดียวกับที่ทำกับปตท.และเกือบจะทำได้กับ กฟผ.สมัยรัฐบาลทักษิณ และขณะนี้มีสัญญาณอันตรายต่อทรัพย์สมบัติชาติเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งคนใกล้ชิด สนิท บริวารหว่านเครือนั่งบริหารทุกรัฐวิสาหกิจมูลค่า
น.ส.มัลลิกาเปิดเผยว่า นายกฯ มีคำสั่งให้มีการเอาที่ดินรัฐวิสาหกิจ 8 แห่งมาจัดสรรประโยชน์ใหม่ โดยของการท่าเรือแห่งประเทศไทย บริเวณท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย 1 แปลง 2,353 ไร่ มี พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ เป็นกรรมการ ซึ่งเป็นพี่ชายต่างมารดาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานกรรมการ การบริหารจัดการทรัพย์สินของการท่าเรือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริเวณพระราม 9 ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แปลง 999 ไร่ มูลค่า 8,000 ล้านบาท ราคาประเมินกรมที่ดิน มีนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล กรรมการ ซึ่งมาจากรองกก.ผู้อำนวยการบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และ นายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล กรรมการ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ เกี่ยวกับผลประโยชน์ไทยคม มี ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ เป็นประธานกรรมการ รายนี้มาจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการตลาด บมจ.ไทยคม ธุรกิจครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์
นอกจากนี้ ในส่วนของ ปตท. กิจการพลังงานที่มีทรัพย์สินรวม 1.69 ล้านล้านบาท ส่งนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ เป็นกรรมการอิสระและประธานกรรมการตรวจสอบ โดยรายนี้มาจากอัยการสูงสุด (ลาออกจากอัยการสูงสุด โดยมีผล ตั้งแต่ 18 พ.ย. 2556) ผลงานในเครือชินวัตรของอัยการรายนี้คือ คดีสั่งไม่อุทธรณ์ภาษี การไม่ต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาเมื่อปี 2554 ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องคุณพจมาน จากเดิมศาลชั้นต้นมีความเห็นว่าการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์คอมมิวนิเคชั่น มูลค่า 546 ล้านบาท มีลักษณะเลี่ยงภาษี, คดีไม่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อศาลในข้อหาเป็นผู้ก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา โดยเหตุผลของอัยการสูงสุดรายนี้ที่ให้อดีตนายกฯ ทักษิณไม่ต้องขึ้นศาล คือ การโฟนอินเข้ามาของ พ.ต.ท.ทักษิณ มายังที่ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถือเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักรไทย กฎหมายของไทยเอาผิดไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีนายวรุณเทพ วัชราภรณ์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ฯ จำกัด (มหาชน) และนายอินสอน บัวเขียว เป็นกรรมการ คนนี้คือเพื่อน พ.ต.ท.ทักษิณ, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นกรรมการ คนนี้เป็นผู้เร่งดำเนินการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
“ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เคลือบแฝงอยู่เบื้องหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสมือนวัวสันหลังหวะ การทำท่าทีไม่รู้ไม่ชี้ไร้ความรับผิดชอบของคนเป็นผู้นำแท้จริงแล้วเป็นการนั่งทับผลประโยชน์ชาติที่ตักตวงเพื่อตัวเองและพวกพ้อง จะเห็นได้ว่าที่สุดแล้วระบอบทักษิณก็ไม่แคล้วแสวงหาเอากับที่ดินอีกแล้ว และต่อจากวันนี้จะนำเรื่องขุมทรัพย์ของชาติที่ชินตักตวงมาแฉรายวันให้ครบทุกรัฐวิสาหกิจ โดยพรุ่งนี้จะเปิดองค์กรที่เหลือ ดังนั้นพนักงาน ข้าราชการใดที่มีเอกสาร หลักฐาน ให้เก็บมาส่งให้ที่สำนักโฆษกพรรค” น.ส.มัลลิกากล่าว