xs
xsm
sm
md
lg

ศาล ปค.ยกเลิกคำสั่งปลด “พัชรวาท” เหตุ 7 ตุลา ชี้ “มาร์ค” ล่าช้าไม่ทำตามมติ ก.ตร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(แฟ้มภาพ)
ศาล ปค.กลาง สั่งนายกฯ ยกเลิกคำสั่งปลด “พัชรวาท” จากเหตุสลายพธม.7 ตุลา ชี้ “อภิสิทธิ์” ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า ยันนายกฯต้องทำตามมติ ก.ตร.โดยเร็ว ทนายพอใจคำพิพากษา อ้างเรื่องศักดิ์ศรีราชการ ไม่ได้ทำผิดวินัยรุนแรง ขอคืนสิทธิบำเหน็จ หวังไม่อุทธรณ์ ถกเจ้าตัวฟ้องนายกฯหรือไม่

วันนี้ (28 ก.พ.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่านายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรในกรณีที่ไม่ยอมปฏิบัติตามมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ที่ให้ยกเลิกคำสั่งปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกจากราชการ โดยให้นายกรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามมติ ก.ตร.ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับวันที่คำพิพากษาถึงที่สุด

ทั้งนี้คำพิพากษาดังกล่าวสืบเนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองกลางฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายจากกรณีที่หลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 228/2552 ลงวันที่ 19 ต.ค. 52 ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากราชการ เนื่องจากคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีมติว่า พล.ต.อ.พัชรวาท กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจากกรณีสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมติรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51 ที่บริเวณหน้ารัฐสภา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จากนั้น พล.ต.พัชรวาท ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ตร.ซึ่ง ก.ตร.มีมติพล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ได้กระทำผิดวินัยร้ายแรง และให้สั่งยกโทษให้โดยมีหนังสือแจ้งให้นายกรัฐมนตรียกเลิกคำสั่งลงโทษปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากราชการ แต่นายกรัฐมนตรีกลับไม่ดำเนินการ ทั้งที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอให้ดำเนินการตามมติ ก.ตร.ถึง 7 ฉบับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ปฏิบัติตามจึงต้องยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง

ส่วนที่ศาลปกครองเห็นว่า นายกฯปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร เนื่องจากเห็นว่านายกรัฐมนตรีก็ได้มีการหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยกฤษฎีกามีความเห็นนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ จะต้องปฏิบัติตามมติ ก.ตร.ไม่อาจเป็นอย่างอื่นได้ ซึ่งแม้ว่ากฎหมายในเรื่องการพิจารณาอุทธรณ์จะไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมติ ก.ตร.เมื่อใด แต่ก็ได้กำหนดไว้ว่ากระบวนการดำเนินการในเรื่องนี้ต้องดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งไม่จำเป็นที่ พล.ต.อ.พัชรวาท จะต้องมีหนังสือร้องขอ ดังนั้นกรณีนี้เมื่อ ก.ตร.มีมติและแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 53 และนายกฯได้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกา จนได้รับแจ้งผลครั้งหลังสุดในวันที่ 18 พ.ย. 53 ก็เป็นระยะเวลาพอสมควรที่นายกฯจะต้องพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีกลับมีคำสั่งให้สอบถามไปยังคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.อีกทั้งที่ไม่มีความจำเป็น เพราะเป็นผู้ที่ชี้มูล พล.ต.อ.พัชรวาท จึงย่อมคาดหมายผลการตอบข้อหารือที่ร้องขอได้อยู่แล้ว การที่นายกฯไม่ดำเนินการตามมติ ก.ตร.ที่ให้ยกเลิกปลด พล.ต.อ.พัชรวาท จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร

ด้าน นายสมบูรณ์ บุญญาภิรมย์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจของ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า พอใจกับผลคำพิพากษา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องศักดิ์ศรี เกียรติประวัติในการรับราชการ พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ได้กระทำทุจริตต่อหน้าที่ จนขนาด ป.ป.ช.ต้องมาชี้มูลว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ก็คงไม่ยื่นอุทธรณ์แล้ว เพราะการที่ฟ้องคดีนี้นอกจากไม่ต้องการให้เสียประวัติแล้ว ก็อยากได้ในเรื่องสิทธิบำเหน็จบำนาญที่ควรได้ หลังจากที่เกษียณราชการเมื่อปี 53 และหวังว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ แต่ในส่วนที่นายกรัฐมนตรีทำให้เสียหาย ตนก็จะหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท ว่ามีคำประสงค์ที่จะยื่นฟ้องหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น