“เด็จพี่” เหน็บ “เทือก” แค่อยากออกทีวีดีเบต “ปู”-หนุน “ปึ้ง” ลากยูเอ็นจุ้นประเทศชาติ

โฆษกเพื่อไทยตั้งแง่ “สุเทพ” ไม่จริงใจคุย “ยิ่งลักษณ์” แค่หวังด่าออกทีวี ยันไม่ร่วมสัมมนา กกต.ที่หาดใหญ่ ชี้มีนัยพิเศษ ฉะ “ชวนนท์” มองโลกในแง่ร้าย-ใจแคบ หนุน “ปึ้ง” ดึงยูเอ็นมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหาในไทย

วันนี้ (27 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศจะเจรจากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ต้องเป็นการเจรจาตัวต่อตัวและมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่า การเสนอให้มีการเจรจาเป็นสิ่งที่ดี แต่ข้อเสนอของนายสุเทพ มีนัยทางการเมือง เพราะต้องการให้มีการถ่ายทอดสด ทั้งที่โดยหลักการแล้วการเจรจาทางการเมืองทั่วโลกเขาจะเจรจากันในทางลับ ดังนั้นข้อเสนอของนายสุเทพจึงเหมือนเป็นการดีเบตแสดงวาทกรรมออกทีวี และต้องการโจมตีนายกฯเท่านั้น ข้อเสนอของนายสุเทพจึงไม่จริงใจที่จะแก้ปัญหา ซึ่งแกนนำ กปปส.ทุกคนหากต้องการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประเทศจริงๆ ก็ควรมาเจรจาหารือกันในทางลับ และจะมีการเจรจาหลายครั้ง และเมื่อมีความคืบหน้าในการเจรจาจึงนำผลมาแถลงข่าวให้สังคมรับทราบ เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เอง ก็มีวุฒิภาวะพร้อมที่จะเจรจา หากไม่มีนัยการเมืองใดๆ แต่ถ้าเป็นข้อเสนออย่างที่นายสุเทพบอก นายกฯจะตอบรับได้อย่างไร เหมือนเป็นการมาเถียงทางการเมือง ชวนทะเลาะออกทีวีมากกว่า เป็นการเจรจาสร้างปัญหามากกว่า ไม่ใช่ทางออก

นายพร้อมพงศ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนสถานที่จัดสัมมนาเพื่อหาทางออกการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้งจาก ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ได้เสนอให้มาจัดที่กรุงเทพฯ เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่นายสมชัยก็ยังไม่ยอม ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล่วว่าในพื้นที่ภาคใต้มีกระบวนการขัดขวางการเลือกตั้งอยู่ ถ้า กกต.ยังยืนยันที่จะไปจัดที่นั่น ทางพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันว่าจะไม่ไปร่วม การสัมมนาที่กรุงทพฯก็สามารถแก้ปัญหาการเลือกตั้งใน 28 เขตได้เหมือนกัน การดึงดันไปที่นั่นมีนัยอะไรพิเศษหรือไม่ หรือเพื่อต้องการให้มีมวลชนมาปิดล้อมสถานที่สัมมนา ทำให้เกิดภาพความรุนแรงและเข้าแผนบันได 4 ขั้นที่ต้องการยื้อการเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 3 วัน จะต้องมีการเปิดสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 อยากเตือนไปยังนายสมชัย และ กกต.อีก 4 คน หากเปิดสภาไม่ได้แล้วมีคนไปร้องศาลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ กกต.ทั้ง 5 คนจะต้องรับผิดชอบ อย่าโยนภาระไปให้ผู้อื่น

โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตำหนิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ที่มีความคิดจะให้สหประชาชาติเข้ามาจัดการเลือกตั้งในประเทศไทยนับเป็นอันตรายต่อชาติที่จะเปิดทางให้ชาติมหาอำนาจเข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากประเทศไทยผ่านกระบวนการจัดการเลือกตั้งว่า ไม่เป็นความจริง นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้แถลงการณ์ออกมาตลอดว่ารู้สึกกังวลกับปัญหาความขัดแย้งของประเทศไทย เป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยที่มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การออกมาตำหนิของนายชวนนท์ เหมือนกับการมองโลกในแง่ร้าย ใจแคบ เอามาเป็นประเด็นการเมืองโจมตีรัฐบาล

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า หากมีตัวแทนจากสหประชาชาติมาก็เพื่อสังเกตการณ์และเสนอแนะหาทางออกให้กับประเทศไทยเท่านั้น ความคิดของนายสุรพงษ์ เสนอทางออกที่ให้ทุกฝ่ายหันมาเจรจากันได้เป็นประโยชน์กับสังคมไทย และประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่เข้มแข็งอยู่แล้ว ไม่มีใครมาก้าวล่วงตักตวงผลประโยชน์ของประเทศไทยได้ สิ่งที่นายชวนนท์แสดงออกมาเป็นเหมือนโฆษก กปปส.มากกว่าโฆษกพรรคประชาธิปัตย์เสียอีก ทำเหมือนเดินคู่ขนานกัน ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง