กกต.จี้รัฐบาลแจงรายละเอียดจ่ายจำนำข้าว 20,000 ล้าน ให้ชัด 3 ประเด็น ใช้งบกลางจ่ายส่วนไหน มีผลต่อรัฐบาลชุดต่อไปหรือไม่ พร้อมข้อมูลขายข้าวปี 57 และอนุมัติแล้วขัดกฎหมายสร้างคะแนนเสียงหรือไม่ ลั่นจัดสัมมนา 28 เขตที่หาดใหญ่เหมือนเดิม หวังให้รู้ปัญหาจริง คาดสัปดาห์หน้าเพิ่มวงคุยอีกฝั่งละคน เชื่อเป็นประโยชน์ต่อชาติไม่เช่นนั้นจะไม่จุ้น ยังอุบใครบ้าง
วันนี้ (27 ก.พ.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวกรณีรัฐบาลเตรียมส่งหนังสือขอความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลางเพื่อชำระหนี้ชาวนา ในโครงการรับจำนำข้าว จำนวน 20,000 ล้านบาท ว่าส่วนตัวแนะนำให้รัฐบาลชี้แจงรายละเอียดต่างๆ มาให้ชัดเจน ใน3 ประเด็นสำคัญ คือ ควรชี้แจงรายละเอียดสัดส่วนงบกลางฉุกเฉินของ ปี 2557 ทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 72,000 ล้านบาท ว่ามีการกำหนดไว้ใช้จ่ายในส่วนใดบ้าง เนื่องจากในงบกลางปี2557 ดังกล่าวนั้น เป็นอำนาจของ กกต.ที่จะพิจารณาโดยตรงที่จะสามารถอนุมัติได้ และขอให้ชี้แจงว่า การขอยืมงบกลางมาหมุนเวียนครั้งนี้จะมีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 (3) หรือไม่อย่างไร รวมถึงข้อมูลในการขายข้าวของปี 2557 ทั้งหมดด้วย และขอให้มีการชี้แจงรายละเอียดว่าการอนุมัติงบประมาณครั้งนี้จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 (4) มีผลได้เปรียบเสียเปรียบต่อการเลือกตั้ง ส่งผลให้รัฐบาลได้รับคะแนนนิยมในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่
นายสมชัยกล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เสนอให้ กกต.เปลี่ยนสถานที่จัดสัมมนาเพื่อหาทางออกการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้งจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อป้องกันปัญหาความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ว่า ยืนยันว่า กกต.จะไม่เปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงานสัมมนาตามข้อเสนอ เนื่องจากทาง กกต.อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ทำหนังสือเชิญไปนั้นได้ลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะ 4 พรรคการเมืองใหญ่ที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เพราะจะได้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งด้วย อีกทั้งผลจากการหารือทั้งหมด กกต.จะได้ตัดสินใจว่าจะมีจังหวัดใดในภาคใต้สามารถจัดการเลือกตั้งได้ในลำดับต่อไป เพราะเท่าที่ประเมินจากสถานการณ์คาดว่าน่าจะมี 3 จังหวัดที่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยขอให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงของบ้านเมืองที่จะต้องดูแลและควบคุมสถานการณ์
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาเพื่อหาทางออกของความขัดแย้งทางการเมืองที่ตนเองเป็นคนกลางนั้น นายสมชัยกล่าวว่า คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการประสานเชิญตัวแทนของสองซีกการเมืองมาเจรจาเพิ่มเติมอีก 2 คน จากเดิมที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และหลวงปู่พุทธะอิสระ เท่ากับว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 คน ส่วน 2 คนใหม่จะเป็นบุคคลใดนั้นขอให้ติดตาม แต่ยืนยันว่าจะเป็นบุคคลที่มีความสำคัญและมีบทบาทในการตัดสินใจเกี่ยวกับการหาทางออกของประเทศ ส่วนก่อนหน้านี้ระบุว่าการเจรจาครั้งต่อไปจะไม่เกิดขึ้นหากเกิดเหตุความรุนแรง ขอทำความเข้าใจว่าขณะนี้ความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นจึงอยากสื่อสารไปยังตัวแทนของสองซีกฝ่ายการเมืองที่จะเข้าร่วมเจรจา อยากให้มองว่าแม้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะไม่ลดลงและอาจจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจำเป็นต้องเร่งให้เกิดการเจรจาเพื่อหาทางออกโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่ายเริ่มมีความพร้อมที่จะเริ่มหันมาเจรจาต่อกันมากขึ้น
“ยืนยันว่าการเจรจาเป็นการหาทางออกของประเทศ ไม่ใช่เป็นการตกลงเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายการเมือง เพราะถ้าเป็นการเจรจาเพื่อตกลงผลประโยชน์ของฝ่ายการเมือง กกต.ก็จะไม่ทำหน้าที่เป็นคนกลางเพื่อเจรจาแน่นอน” นายสมชัยกล่าว
เมื่อถามว่าบุคคลที่จะเชิญมาเจรจาด้วยนั้นคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ขอไม่ระบุตัวบุคคลว่าเป็นใคร ขอให้รอดูในช่วงสัปดาห์หน้า