“ปึ้ง” อ้าง “กลุ่มรัฐบุคคล-หม่อนอุ๋ย” พร้อมขบวนการตุลาการภิวัฒน์ จ้องล้ม “รัฐบาลปู” แทน กปปส.ที่อ่อนแรง หวังเสียบตำแหน่งนายกฯ แทน เตรียมแก้เกม เชิญทูตทุกประเทศเป่าหูสัปดาห์หน้า ท้า “สุเทพ” มาปิดสำนักปลัดกลาโหม จะจับกุมเอง ด้าน “พีรพันธุ์” ระบุหากมีนายกฯ คนนอกต้องฉีก รธน. ส่วนการเลือกตั้ง กกต.ประกาศวันหย่อนบัตรได้โดยไม่ต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาใหม่
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองานายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกล่มผู้ชุมนุม กปปส.ว่า ขณะนี้ม็อบมีความอ่อนแรงลง แต่ปรากฏว่ามีกระบวนการที่จ้องล้มรัฐบาล ซึ่งเป็นกระบวนการอื่นได้เริ่มต้นขึ้น เช่น กลุ่มรัฐบุคคล ที่มีการปล่อยคลิปอยากให้มีการปฏิวัติ และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หรือหม่อมอุ๋ย ที่ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมจึงไม่อยากได้นายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง
“ผมอยากถามหม่อมอุ๋ยว่า ท่านอยากเป็นนายกฯ เสียเองหรืออย่างไร สงสัยว่าถ้ามีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งคงจะมีการแย่งตำแหน่งนายกฯ และรัฐมนตรีกันวุ่นวายไปหมดเหมือนฝอยขัดหม้อ นอกจากนั้น ขบวนการตุลาการภิวัฒน์ก็ออกมาอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)”
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าตนจะสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด และจะเชิญทูตานุทูตจากทุกประเทศเข้ารับฟังสรุปเหตุการณ์ นับตั้งแต่เริ่มการชุมนุมการประท้วงจนถึงขบวนการขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งในที่สุดประชาชนสามารถออกมาเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ได้มีความพยายามที่จะให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ตนจะชี้แจงให้คณะทูตานุทูตทราบถึงความจำเป็นที่ต้องมีศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) จนกว่าการเลือกตั้งของประเทศไทยจะแล้เสร็จสมบูรณ์ และจะเล่าถึงขบวนการที่จ้องล้มรัฐบาลโดยวิถีทางที่เป็นไปในทางประชาธิปไตยให้สังคมโลกได้รับทราบไว้เป็นหลักฐาน ถึงเวลาแล้วที่ต้องชี้แจงให้สังคมโลกได้เข้าใจถึงขบวนการเหล่านี้ ซึ่งทำสำเร็จมาแล้วในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วันนี้ได้พยายามมาทำในสมัยรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งสังคมโลกได้รับทราบในข้อมูลเบื้องต้นแต่รายละเอียดทั้งหมดเขาไม่สามารถเข้าถึงได้เหมือนที่ตนได้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่กลุ่มรัฐบุคคล ส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมด นายสุรพงษ์กล่าวว่า ไม่ห่วง วันนี้ใครที่ทำนอกเหนือกฎหมายที่บัญญัติไว้คงไม่ได้ ทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญต้องเคารพยึดมั่นในกฎหมาย ใครที่ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองไม่มีใครยอมรับ วันนี้หมายจับที่ออกมา 19 คนต้องรีบดำเนินการ ซึ่งนายสุเทพ มี 2 หมายอาจะต้องจับ 2 ครั้ง คือจับแล้วแกล้งปล่อยแล้วก็จับอีก ส่วนคนอื่นก็จับตามหมายจับเพราะเป็นหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศรส.ได้รับรายงานข่าวหรือไม่ว่ากลุ่มที่เปิดหน้าล้มรัฐบาลนอกจากลุ่มรัฐบุคคล และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุลแล้ว ยังมีกลุ่มอื่นอีกหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ได้พยายามติดตามดูและขณะนี้ได้ทยอยเปิดตัว เพราะคนเหล่านี้ใจร้อนอยากจะเป็นนายกฯ กัน แย่งกันเป็น พอจะรู้หน้าตาแล้ว่าใครอยากจะเป็นบ้าง และดูจากพฤติกรรมทั้งหมดก็มีแต่หน้าเดิมๆ ทั้งนั้น
ต่อข้อถามว่าขณะนี้ยังเชื่อมั่นในกองทัพอยู่หรือไม่ว่าจะไม่มีการปฏิวัติ นายสุรพงษ์กล่าวว่า คิดว่าทหารไม่ทำอยู่แล้ว เพราะ ผบ.ทบ.บอกว่าท่านยึดมั่นในกระบวนการประชาธิปไตย สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง และตัวท่านก็ออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้ง มองว่า ผบ.ทบ.ยึดมั่นในประชาธิปไตยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พยายามปราศรัยดึง ผบ.ทบ.ลงมาซึ่งไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ทหารวันนี้อยู่ในระเบียบวินัยทำตัวได้เหมาะสม มีความหนักแน่นและอดทน
ส่วนที่นายสุเทพจะนำมวลชนมาปิดล้อมที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายสุรพงษ์กล่าวว่า “เชิญมาเลยไม่เป็นไร มาได้ ถ้านายสุเทพนำมาเองจะดีมาก จะได้จับกุม มาเลยจะไปรอทำไมให้นายสุเทพพามาเองเลย อย่าหาว่าท้า ในฐานะที่เป็นผู้นำม็อบ ถ้าพามาเองจะได้จับ มาเลยจะรอจับ เดี๋ยวจะจับให้ดู และถ้านายสุเทพมามือเปล่า ผมจะจับด้วยตัวเอง แน่จริงให้เดินมาเองไม่ต้องใช้ประชาชนล้อม”
ด้านนายพีรพันธุ์ พาลุสุข รักษาการ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จากข้อเรียกร้องของหลายคนที่ต้องการให้มีนายกฯ คนกลาง ล่าสุดการที่หม่อมอุ๋ย ได้เรียกร้องในทำนองเดียวกันนั้น ขอถามว่าหากจะอ้างมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญซึ่งยังไม่เคยปฏิบัติ และมักจะอ้างถึงสมัยนายสัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งครั้งนั้นเป็นธรรมนูญการปกครอง จะมาอ้างเป็นประเพณีการปกครองไม่ได้ ซึ่งมาตรา 7 ได้เขียนเพื่ออุดช่องว่างว่า ถ้าไม่มีมาตราใดกำหนดไว้ชัดเจนต้องอ้างประเพณีการปกครอง แต่จะต้องศึกษากฎหมายทั้งหมดก่อน
ฉะนั้น ขอถามกกลับไปว่านายกฯคนกลางเมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่านายกฯ ต้องเป็น ส.ส. ดังนั้นนายกฯ คนกลางที่ว่านี้ต้องเป็น ส.ส.ด้วยหรือไม่จึงจะถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นนายกฯคนกลางเมื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ถ้ายังใช้รัฐธรรมนูญปัจจุบันอยู่ใครก็ตามที่มาทำหน้าที่ในตอนนี้จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาก็ยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขของมาตรา 181 ทั้งสามวงเล็บอยู่ ซึ่งมีข้อจำกัดอยู่ ดังนั้นหลายคนเรียกร้องให้มีนายกฯคนกลางเข้ามาบริหารราชการได้อย่างเต็มที่เหมือนในภาวะปกติ มีทางเดียวที่จะทำได้คือต้องฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทิ้ง หรือเท่ากับให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร ดังนั้นจึงอยากจะฝากไปยังหม่อมอุ๋ย หากจะเสนอข้อเสนอใดๆกรุณาศึกษารัฐธรรมนูญให้ถ่องแท้ด้วย
นายพีรพันธุ์กล่าวว่า กรณีที่ กกต.มีการหารือเรื่อง 28 เขตเลือกตั้งที่ยังไม่มีผู้สมัคร มีข่าวว่า กกต.จะเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ ใน 28 เขตที่เหลือ เนื่องจากไม่มีผู้สมัคร ความจริงถ้า กกต.อย่างน้อย 3 คนมาจากศาลฎีกา หากมีการศึกษากฎหมาย พ.ร.บ.เลือกตั้งให้ดี จากประสบการณ์ของการจัดการเลือกตั้ง เคยมีการบอยคอตเลือกตั้งในสมัย กกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ที่ได้ทำไป ซึ่งมีการนำมาเขียนในกฎหมายเลือกตั้งฉบับปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ศาลฎีกาจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง กกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนาทั้งหมด แสดงว่าได้มีการเขียนข้อความที่ถูกต้องไว้แล้ว ก็มีหลายท่านเข้าใจว่าสำนักงาน กกต.และเจ้าหน้าที่ คงจะได้ให้คำแนะนำกับ กกต.ทั้ง 5 ท่านแล้ว
รวมทั้งอดีต กกต.ก็ให้คำแนะนำแล้วว่า ใน 28 เขตที่เหลือกต้องให้ กกต.ชุดนี้ไปกำหนดการประกาศรับสมัคร กำหนดวันลงคะแนนใหม่ แต่วันเลือกตั้งยังคงเป็นวันที่ 2 ก.พ.ตามเดิม หากจะไปออก พ.ร.ฎ.ฉบับใหม่เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งอีกวันหนึ่งที่ไม่ใช่วันที่ 2 ก.พ.ก็จะเป็นว่า สภาชุดนี้จะมีที่มาอยู่ 2 วัน ซึ่งจะเกิดเป็นปัญหาในรัฐธรรมนูญทันที และจะถูกอ้างว่าเป็นโมฆะ ตนไม่ทราบว่า กกต.ไม่อ่านกฎหมาย ไม่เข้าใจกฎหมาย หรือแกล้งไม่เข้าใจ
นายพีรพันธุ์กล่าวด้วยว่า กกต.สามารถออกประกาศเพื่อกำหนดวันรับสมัครและลงคะแนนใหม่ โดยประกาศในราชกิจานุเบกษา แต่ไม่ใช่ออกเป็น พ.ร.ฎ. และวันเลือกตั้งก็กำหนดเป็นวันที่ 2 ก.พ.ตามเดิม ก็เหมือนกับการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ทำไปแล้วและจะทำต่อไปในวันที่ 23 ก.พ. ซึ่งจะเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า วันเลือกตั้งต้องเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร เพราะเรื่องวันเลือกตั้งมีผลอยู่หลายครั้งถ้าอ่านกฎหมายให้ดี เช่นจะต้องมีการประชุมสภาฯ 30 วันหลังวันเลือกตั้ง สมาชิกภาพมีอายุมีอายุ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง แต่อีกคำหนึ่งคือการลงคะแนนซึ่งมีได้หลายวัน ทั้งก่อนและหลังวันเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ กกต.ทำอยู่แล้ว จึงฝากไปถึง กกต.อย่าได้พยายามเป็นอย่างอื่นเลย ไม่อย่างนั้น กกต.ต้องรับผิดชอบว่ากำลังดำเนินการที่ผิดไปจากที่กฎหมายกำหนด