โฆษก กอ.รมน.เผยสอบกองกำลังบูรพา-สุรนารี ไม่มีกองกำลังติดอาวุธซุกชานเมือง แต่อาจมีลอบเข้าตามชายแดน ชี้ ผบ.ทบ.ฮึ่ม มีจลาจลทหารออกมาควบคุมเป็นการวิเคราะห์ แจงประเมินใช้ความเข้ม กม.ตามสถานการณ์ ไม่ฟันธงใครลอบกัดกลุ่มต้านรัฐ คาดเลือกตั้งเลือกขวางบางจุด ปิดถนนไร้ผลกระทบ-ผบ.นสร.ปัดจ้อการเมืองเหตุพูดแยะแล้ว ปัดอยู่ใต้เป็นหลาน “สุเทพ” เผยบ้านอยู่นนท์
วันนี้ (30 ม.ค.) พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่รายงานข่าวระบุว่ามีกองกำลังติดอาวุธจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาอาศัยบริเวณตลาดไท หนองจอก และมีนบุรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ตรวจสอบไปยังกองกำลังบูรพา และกองกำลังสุรนารีให้ตรวจสอบบริเวณชายแดน โดยเฉพาะด้านตะวันออกว่า ย้อนหลัง 3 เดือนจนถึงปัจจุบันว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมีกองกำลังต่างชาติติดอาวุธเข้ามาหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 กองกำลังชี้แจงว่ายังไม่ปรากฏการเข้ามาในลักษณะกองกำลังติดอาวุธ แต่อาจจะมีทยอยลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนได้ ส่วนพื้นที่บริเวณตลาดไท หนองจอก และมีนบุรีนั้น ทาง กอ.รมน.ได้ตรวจสอบและทราบว่า เป็นที่อยู่อาศัยของแรงงานต่างด้าวที่มาใช้แรงงานในประเทศไทย ซึ่งคล้ายกับ จ.สมุทรสาคร ที่มีแรงงานชาวพม่าเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นชุมชน
เมื่อถามถึงกรณีที่ ผบ.ทบ.ระบุว่าหากมีการจลาจลหรือกองกำลังต่างชาติเข้ามาก่อความไม่สงบ ทหารจะออกมาควบคุมสถานการณ์ พ.อ.บรรพตกล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์ตามหลักการของงานความมั่นคงที่ต้องตั้งสมมติฐานและประเมินเป็นภัยคุกคามสูงสุดเพื่อพิจารณาและเตรียมแผนการรับมือ ส่วนการก่อเหตุรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา เช่น การยิงแกนนำ กปปส. การปาระเบิด จนถึงการยิงเอ็ม 79 เข้าพื้นที่ชุมนุมนั้น คงไม่สามารถชี้ชัดให้เป็นไปในแนวทางใดแนวทางหนึ่งได้ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำของคนภายในหรือนอกประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ
“ปัจจุบันรัฐบาลมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งทางทหารสามารถออกมาปฏิบัติงานได้แต่หากเกิดจลาจลจนควบคุมไม่ได้ เราก็มีกฎหมายอยู่แล้วและมีหลายฉบับที่มีความเข้มข้นแตกต่างกันไป ตั้งแต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนถึงการประกาศกฎอัยการศึก แต่ต้องมีการประเมินตามสถานการณ์ว่า จะพัฒนาไปทิศทางใด ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ จะแตกต่างจากวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะหน่วยเลือกตั้งมีมากกว่า อาจทำให้การกระจายของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งไม่ทั่วถึง โดยอาจเลือกบางจุดเท่านั้น ซึ่ง ศรส.จะต้องวิเคราะห์ว่าหน่วยไหนมีความเสี่ยงและต้องจัดกำลังดูแล ส่วนกรณีที่ กปปส.จะปรับแผนการชุมนุม โดยจะไม่มีการปิดหน่วยเลือกตั้ง แต่จะไปกีดขวางเส้นทางจราจรแทนนั้นคงไม่มีผลกระทบ เพราะหน่วยเลือกตั้งส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนอยู่แล้ว
ด้าน พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) กล่าวถึงกรณีที่ระบุว่ามีกองกำลังจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาก่อเหตุรุนแรงในช่วงการชุมนุมของ กปปส.ว่า ตนไม่อยากแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาได้ออกมาแสดงความคิดเห็นพอสมควรแล้ว หากมีการแสดงความเห็นเพิ่มเติมออกไปอีกเกรงว่าจะทำให้สังคมมีความเข้าใจผิด ทั้งนี้ ตนขอปฏิเสธกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าตนเองเป็นหลานของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่ม กปปส. โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นหลานของนายสุเทพ และไม่ได้มีที่พำนักอยู่ในภาคใต้ แต่มีบ้านเกิดอยู่ที่ จ.นนทบุรี