“เด็จพี่” แนะองค์กรที่ค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดูการกระทำ กปปส.-คปท.ใช้กฎหมู่เหนือ กม.ละเมิดสิทธิ ใช้เพื่อลุยเลือกตั้ง กระทบแต่คนทำผิด กม.มีอำนาจใช้ พร้อมฟ้องกลับคนร้องศาลตีความ ไล่ทิ้งตำแหน่งร่วม กปปส.อ้างควรเห็นใจรัฐดูแล ปชช.โบ้ยผู้ชุมนุมชาติเสียหาย ทำคนเจ็บตาย เตือน ผบ.ทบ.ปฏิวัติเจอแดงพรึ่บ แนะเป็นคนกลาง “สุเทพ” เกรงใจ ให้เลือกตั้งก่อนปฏิรูป ย้อน กกต.เลื่อนเลือกตั้งใครรับผิดชอบงบที่ใช้ ค่าหาเสียง และความรู้สึกปชช.
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 7 องค์กร ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิประชาชน ในขณะที่ 4 องค์กรวิชาชีพสื่อ ได้ออกแถลงการณ์คัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่นกัน โดยบอกว่าการใช้อำนาจแบบนี้การลิดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า อยากให้ 7 องค์กรสิทธิฯ 4 องค์กรสื่อ ได้เห็นการกระทำของกลุ่ม กปปส.ที่ได้บุกสำนักงานปลัดประทรวงกลาโหม และกลุ่ม คปท.ที่ได้ไปบุกและได้ทำการรื้อป้ายที่เป็นสมบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการใช้กฎหมู่ที่เหนือกฎหมาย เป็นการกระทำที่เกินเลย ไม่ยึดหลักตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่ยึดหลักสงบ สันติ อหิงสา การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่ได้มีการชัตดาวน์กรุงเทพฯ 8 เวทีนั้น ได้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลประชาชนคนไทย สิทธิภาคเอกชน และได้ปิดล้อมกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ดังนั้น 7 องค์กรสิทธิฯ 4 องค์กรสื่อ ควรเห็นใจรัฐบาล ในช่วงเวลาขณะนี้นั้นประเทศไทยนั้นถือว่าไม่อยู่ในภาวะปกติ เป็นภาวะเลือกตั้ง การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น สามารถเป็นเครื่องมือที่สามารถดูแลความปลอดภัยของประชาชน และกลุ่มผู้ชุมนุม แต่จะเอาผิดกับบุคคลที่ละเมิด การบุกรุกหลายหน่วยงานที่ถูกคุกคาม จากการที่มีการชุมนุมเริ่มตั้งแต่ 31 ต.ค.56 - 23 ม.ค.57 รัฐบาลถือได้ว่าอะลุ่มอล่วยแล้ว แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้สร้างความเสียหายต่อประชาชนและประเทศ มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จะไปขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค.57 และการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ.57 ในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด 7 องค์กรสิทธิฯ 4 องค์กรสื่อจะให้รัฐบาลทำอย่างไร เพราะการที่ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย และจะมองว่ารัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นล้มเหลวได้ การที่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรักษาความสงบสุขของประเทศ จะได้มีการเลือกตั้งที่สุจริตโปร่งใส จะทำให้การเลือกตั้งพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้า จะได้ไม่กระทบทั้ง 7 องค์กรสิทธิฯ 4 องค์กรสื่อ และประชาชน แต่จะกระทบผู้ที่ทำผิดกฎหมายเท่านั้น
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ระบุว่าถ้ามีความรุนแรงเกิดขึ้น ทหารจำเป็นต้องออกมาแก้ไขนั้น อยากถามว่าจะแก้ไขอย่างไร ขอฝากท่านว่าในอดีตที่มีการแก้ไขโดยใช้กำลังปฏิวัตินั้น คนที่ปฏิวัติไม่เคยมีใครเป็นนายกฯ ส่วนใหญ่จะใช้คนกลาง และถ้าใช้กำลังเหมือนปี 2549 จะมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ คนที่รักประชาธิปไตย ต้องการเลือกตั้ง จะออกมามืดฟ้ามัวดิน การปฏิวัติจะเป็นการซ้ำเติมปัญหามากกว่าแก้ไข อาจเหมือนอดีตเมื่อปี 2549 ที่มี คมช.เข้ามา แต่ผ่านมาจนวันนี้ 8 ปี ก็ยังร้าวลึก ฉะนั้นอยากเสนอให้กองทัพมาเป็นคนกลางในการพูดคุย แต่การเลือกตั้งต้องเดินหน้าไปก่อน เชื่อว่านายสุเทพกับพวก เกรงใจทหาร การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น เสนอให้ใช้ค่ายทหารเป็นสถานที่ดำเนินการ การกดดันของนายสุเทพและพวก โดยไปทุกกระทรวง ทบวง กรม อย่าว่าแต่ 3 เดือน อีก 3 ปีก็ล้มรัฐบาลไม่ได้ จะล้มได้ต้องฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้น และคนที่จะฉีกได้คือกองทัพ
“ขอเสนอให้ทหารมาเป็นคนกลาง มาเป็นพระเอก หลังการเลือกตั้งมาตกลงร่วมกันทั้งหมด พรรคประชาธิปัตย์ 12 ล้านเสียง พรรคเพื่อไทย 15 ล้านเสียง กับพรรคการเมืองทั้งหมดในประเทศไทย ภาคส่วนวิชาชีพอื่นๆ องค์กรต่างๆ รวมทั้ง กปปส.มาหาทางออกวางกติการ่วมกัน ได้ข้อสรุปแล้ว 1 ปี ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ วันนี้ถ้าจะอ้างปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เหลือเวลาแค่ 9-10 วัน จะปฏิรูปอย่างไร วันนี้ต้องเลือกตั้งก่อนค่อยมาปฏิรูป” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า กรณีที่ กกต.ทำยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญประเด็นการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 214 ว่า จะมีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนเลือกตั้งได้หรือไม่ และอำนาจจัดการอยู่ที่ ครม.หรือ กกต.ว่า ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยมีความเห็นสอดคล้องกับนักกฎหมายหลายภาคส่วนว่าไม่เข้ารัฐธรรมนูญมาตรา 214 ตนอยากถาม กกต.3 ข้อ ว่า 1.ขณะนี้ทราบว่า กกต.ใช้งบเลือกตั้งไปแล้วกว่า 2 พันล้านจริงหรือไม่ ถ้าหากเลื่อนเลือกตั้งใครจะรับผิดชอบงบประมาณตรงนี้ 2.ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ 53 พรรคการเมืองที่ลงเลือกตั้ง ค่าใช้จ่ายที่หาเสียงไปเป็นเงินมหาศาลใครรับผิดชอบ 3.ความรู้สึกของประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในฐานะปวงชนชาวไทยใครจะรับผิดชอบ ขอเรียกร้องให้ สตง.ต้องออกมาตรวจสอบความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณในการเลือกตั้งของ กกต.ด้วย
นายพร้อมพงศ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาลว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 181(4) หรือไม่ พร้อมทั้งจะยื่นยุบพรรคเพื่อไทยด้วยนั้น ได้ตรวจสอบกับทีมกฎหมายของพรรคแล้ว เห็นว่ารัฐบาลมีอำนาจโดยชอบที่จะออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองประชาชน ประเด็นนี้ถือเป็นการเล่นเกมการเมืองเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ซึ่งเราจะยื่นเรื่องฟ้องกลับฐานร้องเท็จ โดยทั้ง 2 คน ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น และได้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการดำเนินการที่สอดประสานกับ กปปส.ฉะนั้นขอเรียกร้องให้ทั้งนายไพบูลย์ และนายวิรัตน์ ลาออกจาก ส.ว.และ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แล้วไปร่วมกับ กปปส.เต็มตัวไปเลย ซึ่งพรรคเพื่อไทยกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดฐานสมคบคิดกับม็อบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่โดนข้อหากบฏอยู่ด้วย
