คปท.เลิกปิดวิภาฯ ถอนกลับเวที! ตร.ระห่ำยิงไล่ทุบม็อบยับ นักข่าวไทยรัฐถูกกระสุนสอยอกขวา

คืบหน้าเหตุการณ์ ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม คปท.หลังพยายามบุกเข้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อขวางจับสลากเลือกตั้ง ล่าสุด ตำรวจในศูนย์ไทย-ญี่ปุ่นดินแดงคลั่ง ใช้กระสุนจริง-แก๊สน้ำตาเปิดพื้นที่ฝ่าวงล้อม มวลชน คปท.และสื่อมวลชนแตกกระเจิง บางคนหนีไม่ทันถูกตำรวจใช้กระบองตีกระหน่ำ พร้อมทั้งใช้กระบองทุบตีรถมวลชนทั้งมอเตอร์ไชค์ รถยนต์ นักข่าวไทยรัฐถูกกระสุนลูกหลงยิงหน้าอกขวาบาดเจ็บสาหัส รถกู้ภัยนำส่ง รพ.แล้ว





วันนี้ (26 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้าไปข้างในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อขวางการจับสลากเลือกตั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม ผู้ชุมนุมจึงพยายามปีนบันไดบุกเข้าไป จากนั้นตำรวจได้ระดมยิงแก๊สน้ำตาสวนออกมาประมาณ 10 ลูก ทำให้ผู้ชุมนุมกระจายตัวถอยออกมาเพื่อตั้งหลักบริเวณกระทรวงแรงงาน จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนทัพเข้ามาอีก แต่ไม่สามารถฝ่าด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปได้ โดยตำรวจได้วางกำลังอย่างแน่นหนาพร้อมแนวแบริเออร์ป้องกันในทุกประตูทางเข้า

ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า เวลา 07.45 น. ผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยกระสุนยาง เวลา 08.14 น. ตร.ยังคงระดมยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่องรวมแล้วประมาณ 40 ลูก ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องถอยร่นออกมาตั้งหลักอีกครั้งบริเวณกระทรวงแรงงานอีกครั้ง ขณะนี้เหตุการณ์ยังคงตึงเครียด มีการยิงแก๊สน้ำตาออกมาเป็นระยะๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ตึงเครียด หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม คปท.หลายสิบนัดทั้งที่ไม่มีการแจ้งเตือนตามหลักสากล ล่าสุดมวลชนได้ถอยห่างทางเข้าหน้าประตู 1 และ 2 สนามกีฬาศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อไปรวมตัวกันหลังรถที่ใช้เป็นเวทีเคลื่อนที่ ขณะที่แกนนำ คปท.ได้หารือกันอย่างตึงเครียดเพื่อประเมินสถานการณ์ ขณะที่มวลชนต่างทยอยเข้าสมทบบริเวณดังกล่าว

ล่าสุด จนถึงขณะนี้เวลา 08.47 น. ตร.ยังคงระดมยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมหลายรายได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา ต้องช่วยกันใช้น้ำล้างตา

เวลา 09.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามใช้รถน้ำของ กทม.พังประตูเข้าจน ขณะที่ตำรวจยังคงระดมยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง หลายร้อยลูกแล้ว ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าเข้าไปไม่ได้ ขณะเดียวกันแก๊สน้ำตาจนบางลูกได้เลยตกเข้าไปในแฟลตดินแดงซึ่งมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ได้รับผลกระทบจาการยิงแก๊สน้ำตาของตำรวจ

ขณะเดียวกัน ตำรวจยังได้ฉีดน้ำที่มีส่วนผสมสารเคมีสีม่วงออกมาด้วย สลับกับการยิงแก๊สน้ำตา

ล่าสุดมีรายงานว่า ระหว่างช่วงชุลมุนที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำได้ยิงกระสุนจริงออกมาด้วย ทำให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นผู้ชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจนล้มลง ขณะนี้ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว

เวลา 10.30 น. ตำรวจยังระดมยิงแก๊สน้ำตาไม่หยุด มีการปะทะกันอย่างดุเดือด สถานการณ์ยังตึงเครียดตลอดเวลา แม้กระบวนการการดำเนินการจับสลากของ กกต.และพรรคการเมืองได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วก็ตาม ขณะที่ กกต.ทั้ง 4 คนได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกจากสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กลับสำนักงาน กกต.แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 5 ได้เดินทางมาถึงศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม คปท. นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.กล่าวว่า เมื่อคืนตนเองนอนดึกเพราะมีหลายเรื่องให้คิด ซึ่งเป็นธรรมดาของสถานการณ์ขณะนี้ ยืนยันว่าการปฏิบัตหน้าที่ของ กกต.ในวันนี้เป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรม ซึ่ง กกต.ทั้งหมดเพิ่งเข้ามารับหน้าที่ไม่นาน แต่ยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างถึงที่สุด ที่สำคัญจะต้องมีความหนักแน่นตรงไปตรงมา เพราะถ้ามาทำงานนี้แล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ ส่วนสถานการณ์ที่ตึงเครียดด้านนอกสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ก็ต้องมีการประเมินสถานการณ์นาทีต่อนาที

ส่วนบรรยากาศภายในห้องจับสลากหมายเลขเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีผู้แทนพรรคการเมืองกว่า 30 พรรคได้เดินทางมาถึงแล้ว ซึ่งนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ชี้แจง รายละเอียดขั้นตอนการจับฉลาก ล่าสุดการจับหมายเลขว่าพรรคใดจะจับสลากหมายเลขประจำพรรคได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่ากระบวนการดำเนินการของกกต.ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว

เวลา 10.41 น. มีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเผยยอดผู้บาดเจ็บเหตุการณ์ปะทะที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทั้งหมด 15 ราย ส่ง รพ.ราชวิถี 13 ราย โดยในจำนวนนี้มีถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 ราย ที่ รพ. รามาธิบดี 1 ราย และที่ รพ.พระมงกุฎ 1

เวลา 10.43 น. มีรายงานว่า นายวิเชียร หลงละเลิง ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ได้ถูกกระสุนยางยิงเข้าที่ปลายคางบาดเจ็บด้วย

เวลา 10.49 น. นายอมร อมรรัตนานนท์ โฆษก คปท.ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ว่า ขณะนี้ได้สั่งให้มวลชนถอยออกจากกำแพงของอาคารศูนย์กีฬาเวสน์ 2 มาบนถนนใหญ่แล้ว หลังถูกยิงกระหน่ำแก๊สน้ำตาจากตำรวจภายใน โดยตนมีรายงานว่าตำรวจได้ออกทางด้านหลังเพื่อหวังจะเผาอาคารใส่ร้ายผู้ชุมนุม ตนจึงต้องนำมวลชนออกมา ทั้งนี้พบว่ามีกระสุนจริงยิงปะปนใส่ผู้ชุมนุมด้วย มีรถพยาบาลวิ่งเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งตนเห็นว่าตำรวจ รัฐบาลต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วน กกต.ก็ต้องทบทวนตัวเอง ที่ควรจะประเมินสถานการณ์และชะลอการจับสลาก แต่กลับดึงดันให้มีการดำเนินการต่อ วันนี้ไม่ว่า กกต.จะมีประวัติดีงามยังไง แต่ในวันนี้พี่น้องบาดเจ็บก็เพราะหน่วยงานเหล่านี้ ถ้าจะมาแถลงข่าวว่าเสียใจก็ไม่พอ

นายอมรยังกล่าวว่า การที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ผอ.ศอ.รส.อ้างว่าการสลายการชุมนุมทำตามหลักสากลนั้น เสียงเจรจาจากตำรวจสักคำก็ไม่มี ตนพูดบนรถปราศรัยอยู่ดีๆ ก็โดนแก๊สน้ำตา นายสุรพงษ์จะมาอ้างว่าคุ้มครอง กกต.ไม่ได้ เพราะรัฐบาลไปบีบบังคับเขา กกต.เองก็ต้องตัดสินใจยุติการทำงาน แต่วันนี้กลับปล่อยให้กระบวนการเดินต่อ ถือเป็นการเด้งรับใช้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความรุนแรงชัด ส่วนรัฐบาลก็ถือเป็นการแสดงธาตุแท้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ

เวลา 10.50 น. มีรายงานว่า การ์ด คปท.ได้วิ่งไล่จับกุมชายฉกรรจ์สวมเสื้อคลุมสีดำ แต่งตัวคล้ายการ์ด สวมหน้ากากกันแก๊ส ผ้าพันคอสีเขียว ซึ่งการ์ดอ้างว่าชายคนดังกล่าวก่อเหตุยิงปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมมาจากฝั่งแฟลตดินแดง ตรงข้ามกระทรวงแรงงาน แล้ววิ่งหลบหนีไปทางถนนวิภาวดี และมีการทำกุญแจมือตกหล่นไว้ด้วย

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าตำรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมขว้างแก๊สน้ำตากลับเข้าไปในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงด้วย คือ 1. จ.ส.ต.ทวี วงษ์จันทร์ ผบ.หมู่ ป สภ.บางม่วง จ.นครสวรรค์ 2. ส.ต.ต.ธนพล โนเปลือย ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กก.คฝ.2 บก.อคฝ. 3. ด.ต.ปรีชา ทองเยี่ยม ผบ.หมู่ ขร.สภ.บางม่วง จ.นครสวรรค์

เวลา 11.01 น. มีรายงานภายในศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ข้าราชการกระทรวงแรงงานและสื่อมวลชนใช้บันไดพาดกำแพงโรงเรียนพิบูลประชาสรรค์ เพื่อปีนออกไปภายนอกพื้นที่ เช่นเดียวกับทาง กกต.ทั้ง 4 คนที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกไปจากพื้นที่เมื่อชั่วโมงที่แล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ กกต.ยังคงอยู่ด้านใน ล่าสุดสื่อมวลชนได้ออกมาจนหมดแล้วโดยมุ่งหน้าไปยังสำนักงานกกต.เพื่อรอแถลงข่าวในเวลา 14.00 น. ทางด้านแกนนำ คปท.ได้ประกาศให้มวลชนทยอยกลับที่ตั้งเวทีทำเนียบรัฐบาล

เวลา 13.00 น. นายอมร อมรรัตนานนท์ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ได้ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการยิงแก๊สน้ำตาของตร.ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม และการทำหน้าที่ของกกต.ซึ่งหมดความชอบธรรม ต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะรู้เห็นรับใช้รัฐบาลในการจัดการเลือกตั้งให้ได้ พร้อมทั้งได้ขอกำลังกลุ่มผู้ชุมนุมคปท.ไปที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นอีกรอบ

ล่าสุดเวลา 13.45 กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันอีกครั้ง ตร.ก็ยังคงระดมยิงแก๊สน้ำตาออกมาเป้นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง

เวลา 14.00 น.มีรายงานจาก ฝั่งประตู 1 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น แกนนำ คปท.ได้เริ่มเจรจากับ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เพื่อให้หยุดตอบโต้กันระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุม พร้อมประสานขอให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกจับไป โดยฝ่าย ตร.แจ้งว่า บางส่วนถูกนำตัวขึ้น เฮลิคอปเตอร์ออกพื้นที่ไปแล้ว ขณะที่ฝั่งกระทรวงแรงงานยังมีเสียงระเบิดประปราย

เวลา 14.30 น. แกนนำ คปท.ประกาศบนรถขยายเสียงว่า กกต.เสนอรัฐบาลเลื่อนตั้ง ทำให้ผู้ชุมนุมส่งเสียงโห่ร้องดีใจอย่างมาก ก่อนกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ถือว่า ภารกิจของ คปท.สำเร็จแล้ว ส่วนผู้ชุมนุมที่ถูกจับตัวไป ขณะนี้ทราบว่าถูกส่งตัวไปอยู่ที่ กองบังคับการตำรวจตระเวณชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี โดยได้ให้ทีมทนายไปขอปล่อยตัวแบบไร้เงื่อนไข แต่ล่าสุดยังเกิดเหตุวุ่นวายต่อเนื่อง ที่ประตู 3 และรั้วของกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้ยินทั้งเสียงระเบิด และปืน ดังต่อเนื่อง โดยมีรายงานตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ขณะที่มวลชนบางส่วนได้เข้าไปภายในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น และกระทรวงแรงงาน ด้วย โดยแกนนำ ได้ประกาศถอนกำลังออกจากพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถควบคุมได้

ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย โดย 1 ในนั้นถูกยิงเข้าที่บริเวณยอดหน้าอกสาหัส 1 นาย ถูกขึ้นเฮลิคอปเตอร์นำส่งโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บมีผู้ป่วยนำส่งโรงพยาบาลทั้งหมด 61 ราย แบ่งเป็น รพ.ราชวิถี 35 ราย รพ.พระมงกุฏเกล้า 3 ราย รพ.รามาธิบดี 10 ราย รพ.พญาไท 1 ราย รพ.เปาโล 2 ราย รพ.ทหารผ่านศึก 3 ราย หนึ่งในนั้นมีรายงานว่าเป็นนักข่าวชายจากนสพ.ไทยรัฐ เข้ารักษาตัวด้วยจากการถูกแก๊สน้ำตา และ รพ.ตำรวจ 7 ราย

เวลา 15.50 น. ภายหลังจากที่ตำรวจได้ทยอยออกจากศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง มวลชน คปท.ได้เข้าตรวจค้นรถควบคุมผู้ต้องขังที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวจำนวนหลายคัน โดยพบอาวุธแก๊สน้ำตาหลายชนิด รวมทั้งแม๊กกาซีนบรรจุกระสุนสำหรับปืน เฮชเค แต่ไม่มีกระสุนภายใน ปืนลูกซอง 2 กระบอก ปืนเอ็ม 79 หลายสิบกระบอก และอื่นๆ ทั้งนี้การ์ดผู้ชุมนุมได้นำมามอบให้ สารวัตรทหารดูแลทั้งหมด โดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และนายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการอิสระ รับหน้าที่ประสานให้ทหารรับช่วงต่อดูแลอาวุธดังกล่าว

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายนิติธร ได้นำมวลชน คปท.ออกจากพื้นที่ ไปยังบริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต แล้ว

เวลา 16.00 น.แกนนำ คปท.ได้ประกาศเคลื่อนขบวนมาปิดถนนวิภาวดี บริเวณหน้าสโมสรทหารบกเพื่อกดดันให้ตำรวจปล่อยตัวผู้ชุมนุมทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข โดยเมื่อขบวนเคลื่อนถึงสโมสรทหารบก กลุ่ม คปท.ได้กระจายตัวปิดถนนทุกช่องทางทันที และจอดรถเครื่องขยายเสียงขวางในช่องทางด่วน ถ.วิภาวดี ขาออก เพื่อเป็นเวทีชั่วคราว พร้อมกับปราศัยโจมตีรัฐบาล ทำให้การจราจรถ.วิภาวดีติดขัดอย่างหนักทั้ง 2 ฝั่ง

เวลา 16.32 น. เกิดเหตุการณ์ ตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ใช้กระสุนจริง และแก๊สน้ำตาเปิดพื้นที่ฝ่าวงล้อมออกมาถึงถนนมิตรไมตรี ทำให้มวลชน คปท.และสื่อมวลชนที่ยังอยู่แตกกระเจิง บางคนหนีไม่ทันถูกตำรวจใช้กระบองตีกระหน่ำ มีผู้ห้ามขออย่าทำร้ายแล้วก็ไม่ฟัง พร้อมทั้งใช้กระบองทุบตีรถมวลชนทั้งมอเตอร์ไชค์ รถยนต์ พังหมด

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวไทยรัฐถูกกระสุนลูกหลงยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกขวาบาดเจ็บสาหัส รถกู้ภัยนำส่ง รพ.แล้ว ทราบชื่อนายสรวิทย์ จำนงฤทธิ์ ถูกนำตัวส่ง รพ.พญาไท 1

เวลา 17.43 น. ล่าสุดมีรายงานว่า แกนนำ คปท.ได้ประกาศให้มวลชนที่ปิด ถ.วิภาวดีรังสิต ถอนกำลังกลับที่เวทีหน้าทำเนียบรัฐบาลแล้ว ขณะที่มวลชนบางส่วนยังคงปักหลักอยู่ที่หน้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อไม่ให้ตำรวจออกมาจากพื้นที่











































ภาพจากเฟซบุ๊ก @สาโรจน์ ขอเป็นข้ารองพระบาท ทุกชาติไป







วีรชาติ เปรมกมล หรือ ฮีโร่กบกางเกงใน ล่าสุด ถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว หลังจากที่ ถูกยิงด้วยกระสุนยางหลายนัดที่ลำตัว




ภาพจากเฟซบุ๊ก @ "นาคราช รักในหลวง หวงแผ่นดิน"









นายวิเชียร หลงละเลิง ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ ASTV ถูกยิงด้วยกระสุนยางจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าบริเวณปลายคางได้รับบาดเจ็บในการชุมนุมของกลุ่ม คปท. ที่ดินแดง