เลขาฯ ปชป.จัดแถลงเปิดผนึกนายกฯ เย้ยสภาปฏิรูปเกินความสามารถ ไม่น่าเชื่อถือ ไม่รักษาสัญญา จี้สร้างความโปร่งใสจริงใจปฏิรูปง่ายๆ ด้วยการเผยบัญชีจำนำข้าว ตัวเลขส่งออกข้าว-สต๊อกข้าว เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ปชช. “จุรินทร์” ฉะนายกฯ โหนปฏิรูปแท็กติกหวังยื้ออำนาจต่อ ฉะมีแต่ลูกน้องร่วมวง ย้อนสภาปฏิรูปทำได้ แต่ที่ “เทือก” กลับโวย
วันนี้ (25 ธ.ค.) นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนแถลงการณ์เปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่แถลงเสนอตั้งสภาปฏิรูปประเทศ ว่าเรื่องนี้เกินความสามารถของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะที่ผ่านมาประชาชนได้เห็นถึงการขาดความจริงใจ ไม่มีความน่าเชื่อถือเหลืออยู่เลย นายกฯมีพฤติกรรมสะสมมาตลอด 2 ปี พิสูจน์แล้วว่าไม่เคยรักษาคำมั่นสัญญาได้ วันนี้ประเทศชาติมีวิกฤติ หากจะให้เชื่อต่อไปอีก หรือต้องการโอกาสจากประชาชนอีกครั้ง นายกฯ ควรพิสูจน์ให้ได้ว่ามีความจริงใจ โดยลงมือทำในสิ่งที่ง่ายและมีอำนาจที่จะตัดสินใจดำเนินการเองได้ และจะเป็นก้าวแรกในการปฏิรูปประเทศบริหารด้วยการสร้างความโปร่งใสมีธรรมาภิบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ
1. ให้เปิดเผยบัญชีกำไรขาดทุนโครงการจำนำข้าวที่แท้จริง เพราะได้ใช้เงินภาษีประชาชน 7 แสนล้านบาท 2. เปิดเผยตัวเลขการส่งออกข้าวที่แท้จริงให้ประชาชนทราบ และ 3. เปิดเผยตัวเลขสต๊อกข้าวในแต่ละโกดังทั่วทุกแห่ง และจำนวนข้าวสารที่นำไปจำหน่ายเป็นข้าวถุงด้วยการตรวจสอบได้
“ข้อเรียกร้องทั้งหมดนี้เพื่อที่จะได้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนและเริ่มการมีธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้น โดยนี่คือสิ่งที่ง่ายที่สุดของนายกฯยิ่งลักษณ์ ส่วนการปฏิรูปนั้นยากกว่ามากมาย ดังนั้นถ้าเรื่องง่ายๆแบบนี้ไม่ทำหรือทำไม่ได้ สิ่งยากๆ ก็จะทำไม่ได้เช่นกัน”
ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ว่าที่รองหัวหน้าพรรค ได้เขียนบทความลงบนเฟซบุ๊กของตัวเองตอนหนึ่งว่า คำแถลงตั้งสภาปฏิรูปประเทศของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นแค่คำประกาศยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากนายกรักษาการ บวกกับจะเดินหน้าไม่เลื่อนการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งหากได้เป็นรัฐบาลตนเองหรือคนในตระกูลก็จะเข้ามาครองอำนาจต่อไปอีกนั่นเอง ดูได้จากการจัดลำดับผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับ 1 กับ 2 ของพรรค
“ส่วนการเตรียมออกคำสั่งตั้งสภาปฏิรูปนั้น เป็นแค่ “แท็กติก” ยื้อเวลารักษาการโหนกระแสปฏิรูปหาเสียงเท่านั้น เพราะไม่ได้จริงใจเรื่องการปฏิรูปมาก่อน ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายบังคับให้สภาปฏิรูปไปหาคำตอบ 1ใน 5 ข้อ คือเรื่องการแก้ไข รธน. ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของรัฐบาลคู่กับการออก กม.นิรโทษกรรมตลอด 2 ปีที่ผ่านมาอีกจนได้”
ส่วนการปฏิรูปกฎหมายและการแก้ปัญหาการทุจริตนั้น รัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิงแล้วเพราะตลอด2 ปี รัฐบาลกระทำการทุจริตและกระทำผิดกฎหมายซํ้าซากมาตลอด ที่สำคัญเมื่อสภาปฏิรูปได้คำตอบแล้วต้องเสนอกลับไปที่นายกฯ คำถามคือ ถ้ายิ่งลักษณ์ยังเป็นนายกฯ หากคำตอบของสภาปฏิรูปไม่ตรงกับที่ต้องการจะถูกเก็บเข้าลิ้นชักเหมือน คอป. สถาบันพระปกเกล้า หรือ108 เวทีหาแนวทางปรองดองประเทศอีกหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เวทีนี้สุดท้ายก็จะเป็นแค่เวทีหาเสียงของรัฐบาล โดยรัฐบาลและเพื่อรัฐบาล ที่นับหนึ่งตั้งแต่การกำหนดตัวคนเขียนกติกาก็ล้วนแล้วแต่มาจากลูกน้องยิ่งลักษณ์ ทั้งในฐานะนายกฯ และรมว.กห.เกือบทั้งสิ้น และที่สำคัญก็คือ ก่อนหน้านี้รัฐบาลอ้างว่าสภาปฏิรูปของประชาชนตั้งไม่ได้ ไม่มีกฎหมายรองรับ แล้วทำไมทีสภาปฏิรูปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงตั้งได้