“จิตตนาถ” ย้ำ ปชป.ลาออกตัวแปรปิดเกม ชี้ช่วยทำ “ข้าราชการ-ทหาร” กล้าแข็งข้อรัฐบาลกบฏ

“จิตตนาถ” ชี้ “ประชาชน-ข้าราชการ-ทหาร” เป็นหัวใจสำคัญของชัยชนะศึกโค่น “แม้ว” ย้ำ “มาร์ค-กรณ์” ลาออก ประกาศไม่เอาเลือกตั้งก่อนปฏิรูปสำเร็จ จะช่วยให้ข้าราชการ-ทหารกล้าออกมาสู้ เพราะมั่นใจว่าไม่ถูกเช็กบิล เชื่อจะเป็นตัวแปรสำคัญ ปิดเกมได้ในไม่กี่วัน


วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 21.43 น. นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ กล่าวในรายการ “เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม” ทางเอเอสทีวี ว่าการเคลื่อนไหวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หัวใจสำคัญของชัยชนะอยู่ที่ 3 ด่าน คือ ประชาชน ข้าราชการ ทหาร ซึ่งประชาชนเยอะแน่นอนอยู่แล้ว แต่ข้าราชการกับทหารตอนนี้ไม่กล้าเคลื่อนไหว เนื่องจากประชาธิปัตย์ไปรองรับสถานภาพรัฐบาลแล้วผลักให้ประชาชนที่ออกมาต่อสู้มีสถานภาพเป็นกบฎแทน ทั้งๆที่โดยตรรกะแล้วรัฐบาลและสภาตอนนี้เป็นกบฏไปเรียบร้อยแล้วหลังไม่รับอำนาจศาล ประชาธิปัตย์ไม่ควรร่วมสังฆกรรมด้วย แต่นี่ยังประกาศว่าจะเป็น ส.ส.ต่อไป และพร้อมลงเลือกตั้งใหม่ด้วย แสดงว่ากำลังรับรองสถานภาพรัฐบาลว่าถูกต้องตามกฎหมาย อย่างนี้มวลชนที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไม่กลายเป็นกบฏหรือ ทำให้ข้าราชการที่จะออกมาสู้ไม่กล้าเผยตัว เพราะไม่มีใครการันตีว่าจะไม่เกิดการเลือกตั้งใหม่ ต่างก็กลัวว่าจะถูกลงโทษ พอข้าราชการไม่เอาด้วย ทหารก็ไม่เอาเช่นกัน

สาวกประชาธิปัตย์บอกว่าการไม่ลาออกเป็นแผนแยกกันตี แผนนั้นมันจบแล้ว ตอนนี้ต้องรวมกันตีเท่านั้น ตนมั่นใจว่าถ้าประชาธิปัตย์ออกมาแล้วประกาศว่าจะไม่ส่งลงเลือกตั้งจนกว่าจะปฏิรูปการเมืองสำเร็จ ข้าราชการออกมาแน่นอน เพราะมั่นใจว่าจะไม่มีเลือกตั้ง เขาจะไม่ถูกเช็กบิล แล้วจะได้รับการตอบรับจากข้าราชการโดยไม่ต้องยึดสถานที่อะไรเลย

ไม่ต้องลาออกทั้งพรรคก็ได้ เอาแค่คนสำคัญอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายกรณ์ จาติกวณิช เพราะสองคนนี้มีคนชื่นชอบจำนวนมากและมีภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ ประชาชนจะออกมาเพิ่มทวีคูณ แล้วจะสามารถปิดเกมได้ใน 3 วันนี้แน่

นายจิตตนาถกล่าวต่อว่า ประชาธิปัตย์คือตัวแปรที่จะช่วยให้มีพลานุภาพมหาศาล ไม่ใช่นายสนธิ เพราะเชื่อว่าตอนนี้มวลชนพันธมิตรฯ เข้าร่วมร่วมชุมนุมแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น นายสนธิออกมาไม่ได้ช่วยให้มวลชนเพิ่ม อีกทั้งในศึกสงครามแม่ทัพใหญ่มีได้คนเดียว ต้องยอมรับนายสนธิมีทั้งคนชอบแต่ที่ไม่ชอบก็เยอะเช่นกัน ฉะนั้นให้นายสุเทพนำจะเป็นผลดีมากกว่า

นายจิตตนาถกล่าวทิ้งท้ายว่า ใครเกลียดตนและนายสนธิ ตนไม่สน แต่ที่ต้องออกมาพูด ตนพูดเพื่อชาติ ไม่อยากให้ใครก็ตามชุบมือเปิบจากการต่อสู้ของประชาชน ตนเป็นห่วงนายสุเทพและประชาชนทุกคน อยากให้เรื่องจบโดยเร็ว แล้วมั่นใจว่าถ้าประชาธิปัตย์เสียสละลาออกแล้วชัดเจนเรื่องการปฏิรูป เลือกตั้งครั้งหน้าใครจะไม่เลือก

คำต่อคำ : “จิตตนาถ” ย้ำประชาธิปัตย์ลาออกตัวแปรสำคัญของชัยชนะโค่น “แม้ว”

กิตติชัย - สวัสดีครับสถานการณ์การชุมนุม มีเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้น คุณสุเทพนำแกนนำทุกกลุ่มขึ้นประกาศเจตนารมณ์ เหมือนจะเป็นการทำสงครามครั้งสุดท้ายแตกหักกันภายใน 3 วันนี้ คุณสุเทพนั้นประกาศว่า วันที่ 1 ธันวาคม จะเป็นวันประกาศชัยชนะในการขับไล่ระบอบทักษิณ พร้อมกันนี้ก็ประกาศชื่อกลุ่มร่วมกันออกมาแล้วนะครับ กปปส. “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ทิศทางการเมือง ทิศทางเคลื่อนไหวมวลชนหลังจากนี้ต่อไปจะเป็นอย่างไร วันนี้ผู้ที่จะมาวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกับเรานะครับ นั่งอยู่กับเราตรงนี้แล้ว คุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล สวัสดีครับ คุณจิตตนาถ

จิตตนาถ - สวัสดีครับ คุณโก้

กิตติชัย - มีหลายคนมองการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นว่า จริงๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันอาจจะไม่ควรมาไกลถึงขนาดนี้ ถ้าเกิดว่ามีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่เสียสละ เหตุผลที่ผมโปรยออกมาแบบนี้ เพราะคุณจิตตนาถเองได้มีการเขียนบทความชิ้นหนึ่งชิ้นมา ที่น่าจะกระตุกต่อมคิดหลายๆ คนว่า จริงๆ แล้วถ้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็เหมือนกับว่าจะเป็นขั้วเดียวกับคุณสุเทพ ออกมาร่วมเคลื่อนไหวให้มันชัดเจนตั้งแต่ต้น เหตุการณ์วันนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น ก่อนอื่นที่เราจะไปพูดคุยกันถึงเรื่องบทความที่คุณจิตตนาถเขียนในวันนี้นะครับ ผมขออนุญาตคุณผู้ชม หยิบยกบางช่วงบางตอนของบทความชิ้นนี้มาอ่าน ให้คุณผู้ชมรับฟังกันก่อน เพื่อจะได้ดูว่า ทิศทางหลังจากนี้ของมวลชนจะเป็นอย่างไรต่อไป และพรรคประชาธิปัตย์เองควรจะมาร่วมในการเดินทางของมวลชนครั้งสำคัญครั้งนี้หรือไม่ บทความที่คุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล เขียนออกมา เผยแพร่ผ่านทางเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์วันนี้ หัวข้อ “ถ้ามาร์ค-กรณ์ชัดเจน สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็จะปิดจ็อบได้ทันที” ในบทความชิ้นนี้ คุณจิตตนาถ เขียนว่า ปฏิบัติการขับไล่รัฐบาลกบฏ และปฏิรูปประเทศไทย ที่นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังอยู่ในจุดที่้ต้องการกำลังหนุน เพื่อนำไปสู่การประกาศชัยชนะที่เป็นรูปธรรมของการปฏิวัติโดยประชาชน อันมีด่านที่ต้องผ่านให้ได้ 3 ขั้น ในการทำให้รัฐบาลในมือทักษิณหมดอำนาจในการปกครองประเทศไทย ด่านแรกคือ มวลมหาชนลุกฮือ อารยะขัดขืน และขับไล่รัฐบาล ด่านที่ 2 คือ ข้าราชการพลเรือนปฏิเสธอำนาจการสั่งการของรัฐบาล ด่านที่ 3 คือ ข้าราชการตำรวจ ทหาร ถือว่ารัฐบาลเป็นกบฏ และเข้าร่วมกับการปฏิวัติประชาชน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้นั้น การเคลื่อนไหวของประชาชนยังติดอยู่ในด่านที่ 1 และยังไม่สามารถทะลวงด่าน 2 ได้ ถึงแม้จะมีข้าราชการบางส่วนทั่วประเทศตอบรับ แต่ยังไม่เพียงพอ อันที่จริงแล้วตอนนี้ ด่านที่สำคัญที่สุดในการยกระดับคือ ด่านที่ 2 ซึ่งก็คือด่านข้าราชการ เพราะหากด่าน 2 ผ่าน ด่าน 3 ก็เปิดโล่งอัตโนมัติ เราจะเห็นว่าหัวใจสำคัญการเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือข้าราชการพลเรือนที่จะเป็นสะพานเชื่อมต่อไปยังข้าราชการตำรวจ ทหาร ที่รอสัญญาณอยู่ การใช้ข้าราชการพลเรือนออกมาร่วมสู้ด้วยกัน กับการปฏิเสธอำนาจรัฐอย่างเต็มที่นั่น เราต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดของความเป็นข้าราชการก่อน ในเวลาที่ข้าราชการและสถานที่ราชการบุคคลเหล่านี้ ไม่สามารถเคลื่อนไหว ไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งจากรัฐบาลได้ เพราะจะมีโทษทางวินัยและสูญเสียต่อการโดนเช็กบิลย้อนหลังจากรัฐบาล กุญแจสำคัญที่จะทำให้ข้าราชการพลเรือน ซึ่งอาจลามไปตำรวจ ทหารลุกขึ้นมาเต็มตัวได้ก็คือการ สร้างความั่นใจและมีหลักประกันบางอย่างให้พวกเขาคุ้มค่าที่จะเสี่ยง

ดังนั้น ไม่ว่าจะมองมุมไหนทั้งมิติ มวลมหาประชาชนข้าราชการพลเรือน หรือตำรวจทหาร ตัวแปรสำคัญที่จะช่วยทวงจุดหยินโต๊ะของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ให้เปลี่ยนกล้ามเนื้อผัดกระดูก เป็นม็อบไร้ต้าน ม็อบไร้เทียมทาน ม็อบไร้พ่ายได้ รุนแรงและปิดเกมได้อย่างรวดเร็วคือ พรรคประชาธิปัตย์ สอบถามคุณจิตตนาถครับ มองความเคลื่อนไหวของคุณสุเทพ ณ วันนี้ กลับมองความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ดูเหมือนว่าเมื่อวานนี้คุณสุเทพเองก็จะก้าวข้ามพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว ด้วยการจวกคุณกรณ์บนเวทีด้วยซ้ำ แม้ว่าคุณสุเทพจะประกาศทิศทางความเคลื่อนไหวชัดเจนใน 3 วัน ต่อจากนี้ถ้ามวลชนมากพอ ก็สามารถนำไปสู่ชัยชนะ หัวใจสำคัญของชัยชนะยังอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์

จิตตนาถ - ถูกต้องครับ เพราะผมบอกแล้วว่า ในทั้ง 3 ด่าน ประชาชนถ้าประชาชนสุดทนจริงๆ เยอะแน่นอน แต่ว่าการยืนระยะผมไม่แน่ใจ เพราะว่าพันธมิตรฯ เองก็เคยทำอย่างนั้นมา ยึกสถานที่ราชการ ยึดยิ่งกว่าคุณสุเทพ ยึดทำเนียบศูนย์กลางเลย แต่จุดที่ทำให้รัฐบาลหมดอำนาจในการบริหารอย่างแท้จริง อำนาจในการสั่งการก็คือข้าราชการ ข้าราชการที่ไม่พอใจ อาจจะออกมาชุมนุมในนอกเวลางาน แต่ถ้าเราเห็นภาพข้าราชการทุกภาคส่วนทั่วประเทศเลย รัฐบาลสั่งการเอง ข้าราชการแต่งเครื่องแบบออกมาจากศาลากลาง มาบอกว่าเราไม่ขอรับอำนาจจากรัฐบาล ผมคิดว่าพอข้าราชการออกมา ประกาศตัวไม่รับอำนาจอย่างนี้ เท่ากับเขาหมดอำนาจแบบนี้ข้าราชการร่วมกับประชาชน ทหารเห็นแบบนี้ ทหารก็ต้องร่วมกับประชาชนโดยอัตโนมัติถูกไหม มันก็จะทำให้ เพราะอำนาจทหารเราปฏิเสธเขาไม่ได้ เราต้องใช้อำนาจของทหารในการที่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าทหารเปลี่ยนแปลงตามประชาชน และข้าราชการก็เท่ากับว่า ทหารทำตามมติของประชาชน

กิตติชัย - คือไม่ได้ให้ทหารเอารถถังออกมาปฏิวัติ

จิตตนาถ - ใช่ แบบนี้ภาพมุมมองจากต่างประเทศออกมา คือดูดีไม่ได้ดูว่า เป็นการเผด็จการทหาร ถูกไหมครับ แต่ย้อนกลับไปเรื่องพรรคประชาธิปัตย์นิดหนึ่ง แต่ข้าราชการยามนี้ หรือทหารยามนี้เขายังไม่กล้าเคลื่อนไหว เนื่องจากอะไร มาฟังตรรกะกันนิดหนึ่งก่อน เนื่องจากตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ผลักไปให้ประชาชนที่ออกมาร่วมต้านทานในครั้งนี้ มีสถานภาพเป็นกบฏ

กิตติชัย - เพราะว่าทำผิดกฎหมาย ยึดสถานที่ราชการ ล้มล้างการปกครองแบบนี้หรอครับ

จิตตนาถ - ใช่ แต่ทั้งๆ ที่ โดยตรรกะแล้วนะครับ รัฐบาลและสภาฯ ตอนนี้ถือว่า เป็นสภากบฏเรียบร้อยแล้ว

กิตติชัย - เขาไม่รับกฎหมายรัฐธรรมนูญ

จิตตนาถ - ตรรกะคืออะไร ตรรกะคือว่า การที่ศาลตัดสินใช่ไหมครับว่า รัฐบาลผิดรัฐธรรมนูญ รัฐบาลบอกเลยว่า ปฏิเสธอำนาจศาล ไม่รับอำนาจศาล การที่คุณไม่รับอำนาจศาลถือว่า คุณเป็นกบฏหรือเปล่า ศาลตัดสินภายใต้พระปรามาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คุณทักษิณเป็นนักโทษหนีคดีบอกว่า ไม่รับศาล ทักษิณก็คือกบฏ คราวนี้รัฐบาลก็เหมือนกัน ถึงแม้ว่า ศาลไม่ได้มีบทลงโทษรัฐบาลอย่างชัดเจนออกมา แต่การที่รัฐบาลปฏิเสธอำนาจของศาล คำตัดสินของศาลบอกว่า ไม่ใช่หน้าที่ของศาล เป็นหน้าที่ของสภาฯ และสภาฯ ก็ปฏิเสธ เท่ากับว่า ทั้งรัฐบาลและทั้งศาลก็เป็นกบฏต่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขมิใช่หรือ รัฐบาลและสภาฯ เป็นกบฏไปแล้ว ถ้าในเมื่อรัฐบาลและสภาเป็นกบฏไปเรียบร้อยแล้ว แล้วพรรคประชาธิปัตย์ ก็ควรที่จะออกมา ไม่ต้องสังฆกรรมกับกบฏ เราไม่สามารถที่จะสังฆกรรมกับระบอบการเมือง และรัฐสถาที่เป็นกบฏต่อระบบประชาธิปไตยที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันได้

สถานะของประชาชนก็คือกองทัพประชาชนที่ต้องการกำจัดรัฐบาลกบฏนั่นเอง แต่พรรคประชาธิปัตย์ พอพ้นเงื่อนไขของต่างๆ เช่นเรื่องของ ส.ว.เรื่อของศาล และเงื่อนไขของการอภิปราย การเงื่อนไขของอภิปรายก็ออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่ว่า คุณยิ่งลักษณ์จะมีความผิดเบ็ดเสร็จอย่างไร สภาฯ มีความผิดเบ็ดเสร็จอย่างไร แต่อย่างไรก็โหวตกันได้เองก็ผ่าน เป็นตัวแสดงให้เห็นแล้วว่า แบบนี้มันไปต่อไม่แล้ว ถ้าประชาธิปัตย์ก็ควรจะถือโอกาสออกมาเลยว่า เราให้โอกาสรัฐบาลและนายกฯ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็จะยิ่งตอกย้ำการเป็นกบฏของรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ฉะนั้นประชาธิปัตย์ออกมาอย่างนี้เลย แต่การที่ประชาธิปัตย์บอกว่า จะยังคงเป็น ส.ส.กันต่อไป ไม่ลาออกมายกพรรค ถ้าเกิดว่ามีการยุบสภาฯ ก็พร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ ก็แสดงว่าคุณกำลังรับรองสถานภาพของรัฐบาลไม่ใช่เหรอ การที่คุณรับรองสถานภาพของรัฐบาลว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วอย่างนี้ คำถามคือ การที่คุณสุเทพ และมวลมหาประชาชนที่เคลื่อนไหวอยู่ทั้งหมดแล้วเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ไปแต่ละที่ทุกคนไม่กลายเป็นกบฏหรือ พอทุกคนกลายเป็นกบฏ เกิออะไร ถ้าข้าราชการไปช่วยกบฏแล้วไม่มีการการันตีว่า เขาแสดงจุดยืนออกมาแล้วเขาจะได้การนิรโทษฯ หรือได้รับการเข้ารับราชการใหม่ เขาซวยไหม ตำรวจทหารก็ไม่กล้า เอาที่ไหนจะมากล้ากับเขา

กิตติชัย - คุณจิตตนาถจะบอกว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ลาออก ส.ส.ประชาธิปัตย์ลาออกจากสภาฯ จะเป็นเครื่องการันตีว่าข้าราชการหรือตำรวจทหาร หากอยากมาเข้าร่วมกับประชาชนสามารถทำได้อย่างสบายใจขึ้น

จิตตนาถ - เป็นการรับรองการต่อสู้ของประชาชนในการขับไล่รัฐบาลกบฏปฎิรูปการเมืองไทย ประชาชนต้องมีการรับรองอย่างถูกต้องไง ประชาธิปัตย์แทนที่จะไปรับรองประชาชนวันนี้ กลับกลายเป็นการรับรองรัฐบาลไง เลยเป็นที่มาของด่านทั้ง 3 ด่าน แทนที่จะผ่านอย่างสะดวกโล่งสบาย ถ้าประชาธิปัตย์ตัดสินใจออกมาประชาชนจะมีแนวคิดเป็นแนวคิดเดียวกันเลย คือแนวคิดของการล้มรัฐบาลกบฏ เพื่อจะไม่เป็นการเพื่อปฏิรูปทางการเมือง จะไม่มีการเฉไฉอย่างอื่นว่า ไว้ค่อยรอยุบสภาฯ ไว้ค่อยรอเปลี่ยนขั้ว ยามศึกสงครามผมเขียนเอาไว้ เป้าหมายต้องชัด พระเจ้าตากบอกเลยต้องตีเมืองจันท์ ถ้าต้องตีเมืองจันท์คุณต้องทุบหม้อข้าวแล้ว สาวกประชาธิปัตย์ก็จะมาบอกว่า จริงๆ แล้วเราควรที่จะ มันเป็นแผนลึกลับ แผนลึกล้ำในการที่จะแยกกันตี เงื่อนไขในการแยกกันตี มันจบไปเรียบร้อยแล้ว ส.ว. สภาสูง ศาล และการอภิปราย เงื่อนไขในการแยกกันตีมันจบเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คุณต้องรวมกันเหมือนสงคราม 9 ทัพ พม่ายกทัพมาหลายๆ ทัพเยอะ คนไทยต้องแหลมคม คือต้องรวมกันเป็นทัพเดียวที่จะผ่านตรงนี้ไป แต่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ของการแยกกันตี และการแยกกันตีกลับเป็นการรับรองความชอบธรรมให้กับรัฐบาลแทน

กิตติชัย - คือก่อนหน้านี้ประชาธิปัตย์ยังมี ส.ส.ในสภาฯ อันนั้นก็อาจจะอ้างได้ว่า เพื่อรองรับการอภิปราย แต่ตอนนี้อภิปรายจบแล้ว สภาฯ ปิดสมัยประชุมแล้ว ส.ส.อยู่ไปเพื่อรับรองสถานะรัฐบาล

จิตตนาถ - ใช่ แล้วผลักให้ประชาชนเป็นกบฏไง แล้วคุณคิดดูว่า การต่อสู้ต่อไปจากนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วม มันจะยากลำบากขนาดนั้น

กิตติชัย - ย้อนกลับไปที่การแถลงข่าวประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้ เขาบอกว่า เขาเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของประชาชน ส.ส.มีสิทธิ์ไปร่วมชุมนุม แต่ห้ามลาออก เขาก็บอกว่า เขาร่วมแล้ว เขาส่งใครจะไปก็ไป อย่างวันนี้คุณกรณ์ คุณอภิสิทธิ์ก็ไปที่อโศก ไปที่สถานทูตสหรัฐฯ

จิตตนาถ - ดูตรรกะกันนะครับ ตรรกะของคนที่เดินขบวนกันที่ไปสถานทูตสหรัฐฯ ก็คือไปบอกว่า รัฐบาลนี้หมดความชอบธรรม หรือรัฐบาลนี้เป็นกบฏนี่เอง ถูกไหมครับ คุณอภิสิทธิ์กับคุณกรณ์ไป ผมถามว่า พวกคุณเป็น ส.ส.ถูกไหมครับ คุณเป็น ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปรับรองว่า คนที่ไปขับไล่กบฏมันเป็นกบฏเสียเอง มันเป็นตลกร้ายหรือเปล่า แล้วสรุปแล้ว คุณไปเพื่ออะไร คุณไปเพื่อไล่รัฐบาล หรือไปเพื่ออะไร คุณยังไม่รู้ตัวคุณเองว่า คุณไปเพื่ออะไร แล้วซ้ำร้ายการเคลื่อนไหวของประชาชน เขาก็บอกอยู่แล้วว่า เคลื่อนไหวเพื่ออะไร เคลื่อนไหวเพื่อขับไล่รัฐบาลที่เป็นกบฏ แล้วประชาชนโดยตราหน้าว่าเป็นกบฏ แล้ว ส.ส.ไปเดินอยู่กับกบฏในที่สุด ประชาชนก็ต้องโดนยุบพรรค ถูกหรือเปล่า ถ้าเกิดว่า มีการใช้คดีความทางการเมืองจริง เพราะเป็นการคลื่อนไหวกับประชาชนแล้วไง มันจะต่างอะไรกัน

กิตติชัย - เหมือนกับตอนนี้ที่แม้กระทั่งประชาธิปัตย์เองยังสับสนว่า จะเอายังไงกันแน่

จิตตนาถ - ใช่ คือ อย่างที่ผมบอกว่า ในที่สุด ไอ้ตัวความซวยมันจะเข้ามาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์เอง หาก ส.ส. หากยังคงสภาพ ส.ส.แล้วเคลื่อนไหวอยู่กับกองทัพประชาชน เพราะ หากเกิดว่า เกิดไม่ชนะ หรือ ยืดเยื้อ หรือ มีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นมา แล้วมีการเช็กบิล มันจะเดินไปสู่การยุบพรรคได้ นี่ไง คุณไปเต็มตัวเลย เพราะคุณเป็น ส.ส. คุณกำลังปลุกปั่นให้มีการล้าง ล้มล้างการปกครองอยู่ไม่ใช่หรอ

กิตติชัย - ย้อนกลับมาที่การเคลื่อนไหวคุณสุเทพ ณ วันนี้ ดูเหมือนว่า คุณสุเทพเองกับบรรดาคณะกรรมการประชาชนที่ประกาศทิศทางความเคลื่อนไหวเอง เขาจะก้าวข้ามพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว คือเขาไม่ได้มีการพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ที่คุณสุเทพ พูดถึงคุณกรณ์ และวันนี้ เขาก็บอกว่า จะระดมมวลมหาประชาชนมาเคลื่อนไหวยึดสถานที่ราชการสำคัญๆ ทั้งหมด โดยไม่พูดถึงการที่ประชาธิปัตย์จำเป็นจะต้องมาร่วม อันนี้คือเขาอาจจะยังไม่เห็นความจำเป็นหรือเปล่าว่าประชาธิปัตย์ไม่จำเป็นต้องออกมาร่วมก็ได้

จิตตนาถ - ผมคิดว่าเขาคงจะรักษาน้ำใจครับ แต่ถ้าเป็นผมแทนที่ผมจะไปหมากแรก ก่อนที่จะไปสู้กับศัตรู ผมต้องปราบก๊กข้างในก่อน เหมือนพระเจ้าตากเขาสู้กับพม่าเขาต้องตีเมืองจันท์ต้องตีโน้น ตีนี่ ถ้าผมเป็นคุณสุเทพผมจะไปที่พรรคประชาธิปัตย์เอาม็อบไปเลย เอาไงพี่ เอาด้วยเปล่า ตกลงพี่จะให้ผมเป็นกบฏใช่ไหม ตกลงพี่จะรับรองรัฐบาลกบฏให้เป็นกบฏแทนใช่ไหม หรือว่าอย่างไร ตอนนี้รัฐบาลไม่ยอมรับอำนาจศาลไม่รับอำนาจพระเจ้าอยู่หัวพี่เอาไงต่อ เอาให้ชัดๆไปเลย ถ้าอย่างนั้นรับรองใช่ไหม ชัดเจนกันไปเลย

เอาล่ะ อย่างไรถือว่าเขารักษาน้ำใจกันไป อันนี้เราไม่ว่าเราอาจไม่อยากที่จะพูดให้มวลชนท้อ อย่างไรก็ตามก็ยังยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของคุณสุเทพที่จะผ่านด่านทั้ง 3 ประชาชน ข้าราชการ ตำรวจทหารถ้าเกิดว่าพรรคประชาธิปัตย์คิดตรรกะนี้ได้ ว่ารัฐบาลเป็นกบฏไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีความชอบธรรมอยู่แล้วต้องปฏิรูปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ออกมา ด่านที่ 2 คือข้าราชการจะผ่านฉลุยเลย เพราะว่ามีการการันตีว่าไม่มีการเลือกตั้งชัวร์ การต้อนรับมวลชนภายใน 3 วัน แทนที่จะยึดทำเนียบแทนที่จะยึดอะไร อาจกลายเป็นว่า ระบบราชการ คืออาจเป็นแบบนี้ครับ อาจได้รับการตอบรับจากข้าราชการโดยไม่ต้องยึดอะไรเลยครับ ตอนนี้เรายึดศูนย์ราชการเพราะอะไรเพราะไม่ต้องการให้ข้าราชการเข้ามาทำงานได้ ข้าราชการบางคนก็จะได้ถือโอกาสมาประท้วงด้วย แต่ถอดเสื้อออกมาประท้วงไง แต่ที่ต้องการเห็นคืออะไร ข้าราชการใส่ชุดราชการออกมาประท้วง มันไม่เหมือนกันนะ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วม ยังมองเห็นทางสว่าง และยังไม่สายเกินไป คุณสุเทพต้อนรับมวลชนทุกคนต้อนรับแล้วก็เป็นสิ่งที่ดี

กิตติชัย - ครับ คุณจิตตนาถขยายความ ประชาธิปัตย์มาเข้าร่วมจะการันตีข้าราชการให้เข้ามั่นใจได้ ออกมาเคลื่อนไหวอย่างไร ทำไมคุณจิตตนาถถึงบอกว่า ถ้าประชาธิปัตย์มาเข้าร่วมเท่ากับเราจะไม่มีการเลือกตั้งไปอีกนาน

จิตตนาถ - ประชาธิปัตย์ก็ลาออกจาก ส.ส.สิครับ แล้วก็ประกาศเลยว่า ไม่ยอมรับการยุบสภาฯ เพราะรัฐบาลปัจจุบันเป็นกบฏต้องออกไปเท่านั้น ต้องปฏิรูปการเมืองเท่านั้น ไม่ยอมรับการลาออกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมรับการยุบสภาฯ และจะไม่ส่งใครเลือกตั้งจนกว่ามีการปฏิรูปการเมือง และสำเร็จโทษระบอบทักษิณ

กิตติชัย - ก็จะเป็นการการันตีให้ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ที่อยากมาเคลื่อนไหวว่า ต่อให้ออกมาเคลื่อนไหว ก็จะไม่มีการเช็กบิลย้อนหลัง

จิตตนาถ - ใช่เพราะว่ารัฐบาลเป็นกบฏแล้วไง เป็นการบอกว่าเรามีรัฐบาลเป็นกบฏแล้วไง คุณออกมาปราบกบฏใครเขาจะมาว่าอะไรคุณ คุณเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกผมหนุนคุณอยู่ พรรคการเมืองนี้หนุนคุณ มหาประชาชนก็หนุนคุณ มีการปฏิรูปการเมืองแน่นอน เรากำลังขับไล่กบฏกันอยู่ เขากล้าออกแน่นอนถูกไหม

กิตติชัย - งั้นถ้ามองในแง่วอชเคสว่า ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าสมมุติว่า มวลมหาประชาชนชนะโดยไม่ต้องพึ่งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ออกมา คุณจิตตนาถคิดว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับพรรคการเมืองพรรคนี้

จิตตนาถ - ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ ผมตอบเลยว่า ผมไม่ทราบจริงๆ และผมก็ไม่แคร์ด้วย มันไม่มีอะไรที่จะต้องให้แคร์อีกต่อไปแล้ว ผมแคร์มากกว่าคือ ผมแคร์ประชาชน เพราะว่าการเคลื่อนไหวนับจากนี้คือ ของจริง ถูกไหมครับ

กิตติชัย - ที่คุณสุเทพบอกว่า ต้องชนะภายในวันที่ 1 ธันวาคม เราจะไปยึดนั้นยึดนี่ วันอาทิตย์นี้จะไปยึดทำเนียบ อันนี้คือของจริง

จิตตนาถ - ตรงนี้คือการต่อสู้ของจริง แล้วคุณอย่าลืมนะว่า คุณประกาศแล้วว่า คุณจะไปยึดทำเนียบ ยึดโน้นยึดนี่ คุณไม่คิดหรือว่า ฝั่งรัฐบาลเขาก็ต้องเตรียมรับมือ เตรียมให้มันเกิดเรื่อง คือตอนนี้ถ้าไม่เกิดเรื่องมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันก็ต้องเกิดเรื่อง สมมุติผมยกตัวอย่าง ประชาชนเดินไปยึดทำเนียบให้ได้เยอะเลย ตำรวจก็ต้องปะทะกันถูกไหม ตำรวจอาจจะยอมให้เข้า พอเข้าซักพักหนึ่งเกิดอะไรขึ้น เหมือนที่พันธมิตรฯ เคยยึด อยู่กันไปนานๆ ก็ลากกันไปเรื่อยๆ วี้ด ตู้ม วี้ด ตู้ม เอ็ม 79 ก็มา ถูกไหม หรือตามต่างจังหวัดเข้าไปยึด ยึดไปยึดมาเกิดอะไรขึ้นต่างจังหวัดบ้านนอก เดี๋ยวเสื้อแดงมาตี เราไม่ตีเขา มันก็จะมาตีเรา มันก็จะเกิดการปะทะกันไปเรื่อยๆ ใช่ไหมครับ

กิตติชัย - ก็คือถ้ามองในมุมนี้

จิตตนาถ - คือปะทะกันอยู่นะ การปะทะกันไม่จำเป็นต้องตำรวจมาปะทะกับประชาชน อาจจะเป็นมวลชนอีกฝั่งใช้มาปะทะกับประชาชน แล้วตอนกลางคืนก็มีการลอบกัดกันเหมือนที่เราเคยโดน แล้วบอกไม่รู้ฝีมือใคร มือที่ 3 มันก็จะโดนกันไปแบบนี้เรื่อยๆ ไง พอประชาชนเริ่มโกรธเริ่มอะไร มันก็จะมีมือที่ 3 ที่มาสร้างความเสียหายให้กับสถานที่ราชการ ที่เป็นเงื่อนไขให้ทหารออกมา ซึ่งทหารออกมาสเต็ปนี้ ไม่เหมือนกับทหารออกมาตามรถแว้บแรกแล้ว ที่บอกว่าประชาชนร่วมกับข้าราชการ และทหารออกมาขับไล่รัฐบาลกบฏตามประชาชน ทหารออกมาตามนี้ ตามใจทหารผู้ใหญ่แล้วนะ

กิตติชัย - ซึ่งอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ไม่ทราบ

จิตตนาถ - เพราะว่าเขาออกมาในแง่ของการรักษาความสงบ เขาออกมาในแง่ของคนกลางแล้ว งั้นยุติปรองดองกันแล้วกัน อาจจะปรองดองผ่านด้วยกรณีนี้ด้วยซ้ำ ใครจะไปรู้ ใช่ไหมครับ

กิตติชัย - แล้วก็ใครก็ไม่รู้มานั่งอยู่ในอาณาจักร

จิตตนาถ -อาจจะไม่มีเรื่องของการปฏิรูปด้วยซ้ำ และคุณจะมาปฏิรูปอะไรในเมื่อประชาชนมันตีกัน คุณจะมาปฏิรูปอะไรในเมื่ออีกฝั่งหนึ่งมันยังไม่เห็นด้วยกับอีกฝั่งหนึ่ง เราอย่าตั้งสภาปฏิรูป ถ้าเราไม่ยึดอำนาจ ถ้าประชาชนปฏิวัตินำโดยประชาชนไม่สำเร็จ ไอ้ฝั่งโน้นบอก ก็ผมไม่ได้ต้องการปฏิรูปนะ ผมต้องการนิรโทษให้เขานะ ทำไง มันก็เป็นเรื่องระหว่างการปฏิรูปกับนิรโทษแหละ มันก็คุยกันไม่รู้เรื่องแหละ เห็นไหม แต่ถ้าประชาชนยึดอำนาจเสร็จสรรพ มันจบ ผมกำลังบอกเลยว่า จริงๆ แล้ว เมืองไทย ปฏิรูปได้ตั้งแต่ปี 51 เราพลาดการปฏิรูปมา 3 รอบ เชื่อไหม 3 รอบ เพราะอะไร เพราะพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียว

กิตติชัย - ครั้งไหนบ้างครับ

จิตตนาถ - ครั้งไหน ครั้งที่จำได้ไหมครับ ครั้งที่พันธมิตรฯ ชุมนุม 193 วัน แล้วก็ที่ในที่สุด สมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดนศาลไป ประมาณนี้แหละ และมีการเรียกเข้าไปคุยกันในค่ายทหารไง พรรคการเมืองไง ตอนนั้นประชาชนพร้อมแล้ว เสื้อแดงไม่รู้หายหดไปไหนอยู่ ถูกไหม แทนที่ตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะบอก เฮ้ย เราปฏิรูปการเมืองกันก่อนดีกว่า บอกทหาร คุยกับคุณอนุพงษ์มาเลย คุณสุเทพ คุณอภิสิทธิ์ คุยกับคุณอนุพงษ์มาเลย ใช่ไหม เปล่า พรรคประชาธิปัตย์บอกให้ผมบริหารดีกว่า

กิตติชัย - และพายเรือให้โจรนั่ง

จิตตนาถ - ใช่ ดีกว่า นี่คือการที่เราพลาดการปฏิรูปครั้งแรกไปแหละ ครั้งที่สอง เราพลาดปฏิรูป และพลาดชัยชนะ โดยละมุนละม่อมไป ตอนไหนรู้ไหม เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง

กิตติชัย - 24

จิตตนาถ - 24-25 ผมคุยกับ ผมแลกเปลี่ยนทัศนคติกับนักยุทธศาสตร์ท่านหนึ่ง โอโห้ ยิ่งกว่าขงเบ้งเมืองไทยอีก สุดๆ นะ อย่าให้เอ่ยชื่อเลยว่าใคร แต่ว่า แบบสุดๆ จริง คนนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว เขาบอกเลยว่า นี่ จริงๆ วันที่ 24 -25 ที่ผ่านมา ที่ประชาชนมาชุมนุมกันเยอะเป็นล้าน ไปจนถึงฝั่งธนฯ และจนถึงสะพานมัฆวานใช่ไหม และกระจายไปเป็นล้าน ถ้าวันนั้นมีการนำมวลชนเข้าไปล้อมทำเนียบรัฐบาล และยึดรัฐสภา ยึดทำเนียบรัฐบาลซะอย่าง คิดว่าประชาชนล้านนึง กับตำรวจแค่หลักหมื่น ตำรวจเอาด้วยเหรอ ตำรวจไม่เอา เพราะภาพจะกลายเป็นตำรวจทำอะไรกับประชาชน ตำรวจก็ต้องยอม เราก็เรียกคนที่คุมมาเลยว่า ออกไปจากสถานที่เถอะ มันจะได้ไม่เกิดอย่างโน้นอย่างนี้ ถูกไหมครับ ส่งเขาไปด้วยดี ผมว่างานนี้มันโทษใครไม่ได้อยู่แล้ว และเราก็ประกาศเลยว่า รัฐบาลเป็นกบฏ พอประกาศเสร็จเราก็ตั้งอะไรขึ้นมา เราก็ตั้งรัฐบาล ตั้งสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมือง ใช่ไหมครับ

กิตติชัย - เงื่อนไขนี้คือประชาธิปัตย์มาร่วมด้วย

จิตตนาถ - ใช่ไง และก็ต้องรัฐบาลขึ้นไปเลย วันนั้นถ้าบุกแบบนี้ จบ 24 25 เลย และขอร้องเลย ประชาชนคุณมาอยู่เป็นล้าน ผมขอร้องอย่ากลับบ้าน นอนกันตรงนี้แหละ และระดมเอาอาหาร คนที่ยังไม่มา ระดมเอาอาหารกันมา ถ้ากลับบ้านรีบกลับมาภายใน 6 ชั่วโมง แล้วพาญาติพี่้น้องกันมาอีก ให้มันเต็มกรุงเทพฯ ไปหมดเลย แล้วมันก็จะเกิดลักษณะเหมือนอาหรับสปริงส์

กิตติชัย - เรียกว่าปฏิวัติโดยประชาชนจริงๆ

จิตตนาถ - ก็จะเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ขึ้นมาทันใดเลย ณ วันนั้นมันเกิดขึ้นได้ แล้วผมคิดว่า ก็มีการเตรียมตัวกัน แต่รู้ไหมว่าทำไมมันทำไม่ได้ เพราะว่ายังคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคลียร์ ทางตอนนั้นคุณสุเทพกับพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคลียร์ว่า จะเอาอย่างไรกัน พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมผิดกฎหมายแบบนี้เพราะถ้าเกิดมันเป็นอย่างนี้แล้ว อาจจะสุ่มเสี่ยงในการโดนยุบพรรค ถ้าเกิดการเคลื่อนไหว หรือมีการพลาดไม่ชนะขึ้นมา เราก็เลยพลาดโอกาสในการปฏิรูป และตั้งสภาประชาชนไปเรียบร้อยแล้วไง

กิตติชัย - แล้วครั้งที่ 3

จิตตนาถ - ก็นี่แหล่ะ จากการที่ยึดศูนย์ราชการ แล้วก็รอที่พรรคประชาธิปัตย์จะแสดงท่าทีหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจให้มาเข้าร่วม ถ้าเกิดว่าแสดงท่าทีอย่างนี้ว่า ต้องการปฏิรูปแล้วไม่ให้มีการเลือกตั้งใหม่ ข้าราชการอารยะขัดขืนออกมาชัดเจน ก็นำไปสู่ทหารที่ทำตามประชาชนและข้าราชการ มันก็สามารถตั้งแบบนี้ขึ้นมาใหม่ได้ แต่ครั้งที่ 3 เราพลาดไปแล้ว แต่ยังมีโอกาสอยู่ไง ครั้งที่ 3 โอกาสมันยังเปิดอยู่ แต่คราวนี้โอกาสมันเปิดแต่ว่าจะไม่ง่าย ไม่จบเร็ว

กิตตชัย - เท่าที่ฟังคุณจิตตนาถมาแล้วก็ดูความเคลื่อนไหวของคุณสุเทพ ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น มันกำลังจะย้อนสิ่งที่พันธมิตรฯ เคยทำ

จิตตนาถ - ใช่

กิตตชัย - การเข้าไปยึดสถานที่ราชการตรงนั้นตรงนี้ คุณจิตตนาถกำลังพยายามบอกว่า สถานที่ราชการไม่ใช่ตัวแปรสำคัญ แต่ตัวแปรสำคัญก็คือ 3 ด่านที่บอก ประชาชน ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ต่อให้ไม่ยึดอะไรเลย แต่ถ้าข้าราช ตำรวจ ทหารเอาด้วย ทุกอย่างจบ แต่จะให้ข้าราชการ ตำรวจ ทหารมาร่วม ต้องมีคำยืนยัน และคนที่จะยืนยันได้ดีที่สุดก็คือ สถาบันพรรคการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ณ เวลานี้่

จิตตนาถ - ตัวที่จะเป็น ไม่ใช่ว่าพรรคประชาธิปัตย์มายืนยันนะ พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นตัวแปรที่รองรับสถานะของประชาชนว่า เป็นกองทัพประชาชน เป็นการปฏิวัติประชาชนเพื่อขับไล่รัฐบาลที่เป็นกบฏต่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขต่างหาก เป็นการยืนยันว่าข้าราชการ และทหาร คุณกำลังไล่บกฏอยู่นะ

กิตติชัย - แต่หลายคนก็จะบอกว่าถ้าอย่างนั้น มันเป็นการสู้เพื่อเปลี่ยนขั้วทางการเมืองหรือเปล่า เพื่อผลประโยชน์ทางพรรคประชาธิปัตย์เองหรือเปล่า

จิตตนาถ - แล้วมันจะเปลี่ยนได้อย่างไรล่ะครับในเมืองประชาธิปัตย์ลาออกจาก ส.ส.เข้าร่วม แล้วบอกว่าจะไม่ส่ง ส.ส.ลง เหลือคุณชวนไว้คนเดียวก็ได้ คือในบทความผมก็ยังมีทางถอยให้ประชาธิปัตย์นะ หลายคนบอกว่าผมไปจองล้างจองผลาญพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่นะครับ คุณอยากจะมีพรรคคุณก็มีไป แต่ความชอบธรรมมันจะน้อยลงไง ความเป็นกบฏของรัฐบาลมันจะไม่มีการแสดงออกมาให้ชัดเจนยังมีการรับรองด้วยการเมืองสถาบันนี้ไง แต่อย่างน้อยถ้าข้าราชการจะอุ่นใจ ไม่ต้อง 100 % ขอแค่ 70% ก็ได้ กฌเอาคุณมาร์คกับคุณกรณ์ แค่ 2 คนพอ ส.ส.มีตั้งกี่ร้อยคน ขอแค่ 2 คนออกมาพอแล้ว มาช่วยกันนำประชาชน เพราะอะไร เพราะคุณมาร์ค คุณกรณ์ มีสาวกโลกสวยเยอะ ใช่ไหมครับคือ ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ผมก็ไม่เข้าใจเขานะ ถ้าเขา ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศลาออก ทุกคนจะดีมาก ออกมาแล้วๆ พอพรรคประชาธิปัตย์ไม่ออก เขาวางแผนลึกล้ำกัน แยกกันดี ใช่ไหม แป๊ะลิ้ม กับลูกแป๊ะลิ้มอย่ามาเสี้ยม อย่ามาอะไรให้คนเขาแตกกัน แต่คุณไม่เคยมองเลยว่า ตอนนี้สถานการณ์ และประชาชนพัฒนาไปถึงไหนแล้ว มันถึงจุดถอยไม่ได้แล้ว เอาล่ะ ต่อให้คุณยังรับรองรัฐบาลอยู่ แต่ถ้ามาร์ค กรณ์ออกมา ผมเชื่อว่า และมานอน และมาลุยกับประชาชนเลย ประชาชนผมว่า จะมีกำลังใจ อย่างน้อยประชาชนมันเพิ่มเท่าทวีมหาศาลขึ้นมา ผมไม่อยากให้ประชาชนมองข้ามพรรคประชาธิปัตย์ ผมอยากให้ประชาชนร่วมเดินไปกับ ส.ส.ของเขา เพราะอย่างน้อย มาร์ค กรณ์ ภาพก็ดี แม่ยกก็เยอะ ดูเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ถ้ามาตรงนี้ ประชาชนมีกำลังใจ ข้าราชการบางส่วนก็มีกำลังใจ แต่ยังไงก็ไม่เท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศรับรองสถานะของประชาชนตรงนี้ และไล่ให้รัฐบาลเป็นกบฏไป

กิตติชัย - เพราะการที่ประชาชนแต่ละคนออกมา ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไป มันไม่มีอะไรรองรับสิ่งที่มี ข้าราชการตำรวจ ทหาร ออกมาเคลื่อนไหว ได้เท่ากับคำยืนยันว่า การเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน เพราะต้องปฏิรูปประเทศก่อน

จิตตนาถ - ใช่ และรัฐบาลเป็นกบฏ

กิตติชัย - แล้วถ้าอย่างนั้น ถ้าความเคลื่อนไหว 3 วัน นับจากนี้ไป ถ้าคุณสุเทพระดมคนได้เยอะมากๆ ปิดล้อมสถานที่ราชการประสบความสำเร็จทุกแห่ง แต่รัฐบาลไม่ออกไป ประชาธิปตย์ไม่ออก ท้ายที่สุดกลายเป็นเกมส์ยื้อ จะกลับสู่วังวนเดิมที่ไม่มีอะไรดีขึ้นต่อสังคมไทยอีกแล้ว

จิตตนาถ - ใช่ มันต้องอยู่ที่ว่า มันเกิดดราม่ากันหรือเปล่า ดราม่าอย่างที่ผมบอก มันอาจเกิดเรื่องดราม่าบางอย่างที่เป็นตัวแปร แต่คุณอยากให้เกิดดราม่าเหรอ

กิตติชัย - สรุปทั้งหมดทั้งมวลที่คุณจิตตนาถมอง ควรจะต้องเป็นอย่างไร ทั้งความเคลื่อนไหวของคุณสุเทพ และความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์

จิตตนาถ - ผมว่าคุณสุเทพ ก็ต้องเดิน นาทีนี้ต้องเดินให้สุดซอยแหละ คือมันช่วยไม่ได้ คุณสุเทพทำดีที่สุดแล้ว แต่โอกาสที่จะทำให้คุณสุเทพชนะ และปิดเกมส์ได้ภายใน 3 วันจริงๆ คือ พรรคประชาธิปัตย์ หรืออย่างน้อยคุณอภิสิทธิ์ และคุณกรณ์ ยังช่วยให้มีพลานุภาพมหาศาล คุณสนธิกลับไม่ใช่ตัวแปรที่จะทำให้ศึกนี้ชนะได้

กิตติชัย - หลายคนถามถึงว่าจะเห็นวันหนึ่ง ที่คุณสนธิออกไปช่วยคุณสุเทพไหม เพราะหวังว่า จะมีภาพที่ดีเป็นกำลังใจให้มวลชน และจะทำให้มวลชนออกมาจับมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีกันไปถึงเป้าหมาย

จิตตนาถ - ผมว่าตอนนี้ คุณสนธิเปิดโอกาสให้มวลชนเข้าร่วมชุมนุมมานานแล้วนะครับ บอกเลยว่า คนที่เป็นพันธมิตรฯ ไม่ต้องรอไปได้เลย สะดวกม็อบไหน ไปเดี๋ยวนั้นเลย ครั้งที่ 2 เมื่อคุณสุเทพเอาขาข้างหนึ่งแหย่คุก ยอมลงทุนเหมือนที่พวกเราลงทุนกันมา

กิตติชัย - วันที่คุณสุเทพไปกระทรวงการคลัง

จิตตนาถ - คุณสนธิก็บอกเลย ต้องช่วยสุเทพมัน ถ้าสุเทพแพ้มันก็เท่ากับประชาชนทั้งประเทศแพ้ คุณสนธิส่งแมสเสจแบบชัดเจนออกมา ใช่ไหมครับ แล้วพอคุณสุเทพพูดออกมาอีก ผมตั้งใจปฏิรูปการเมือง ไม่ต้องการให้เหี้ยไปจัญไรมา ซึ่งก็คือคำพูดของคุณสนธินั่นเอง คือการส่งแมสเสจกันโดยอัตโนมัติ คุณไปดูข่าวสิ มากระแนะกระแหนคุณสนธิไปดูข่าวสิ คุณสนธิขอยื่นเรื่องปราศรัยต่อศาล แล้วศาลไม่อนุญาต และจะให้ทำอย่างไรใช่ไหมครับ ตอนนี้มวลชนพันธมิตรฯ ผมเชื่อว่า เกือบ 100% รวมกับคุณสุเทพเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นคุณสนธิไปก็ไม่ได้ทำให้มวลชนเพิ่มขึ้น แต่มวลชนอาจจะดีใจ แต่อย่างน้อยคุณก็ต้องเข้าใจนะครับ การศึกสงครามแม่ทัพใหญ่มีแค่คนเดียว การที่สนธิบอกว่า พร้อมที่จะตาม เงื่อนไขคืออะไร ฟังเงื่อนไขให้ชัดเจน อย่าเอาไปบิดเบือน พร้อมที่จะตามก็คือ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ลาออกทั้งพรรค แล้วออกมาร่วมสู้กับประชาชน 1 เดือนที่แล้วคนด่าเพียบเลย คนด่าคุณสนธิ คนด่าผมเพียบเลย มือไม่พายเอาเท้าราน้ำไอ้พ่อลูกคู่นี้ ตอนนี้มีแต่คนเรียกร้องแบบนี้เห็นไหม แค่ 1 เดือนแค่นั้นเอง เห็นไหมครับ
วันนี้ประชาชนออกมาแล้ว สโลแกนพรรคประชาธิปัตย์บอกประชาชนต้องมาก่อน ก็ประชาชนเขามาก่อนแล้ว แล้วเงื่อนไขต่างๆ ที่คุณแยกกันตีมันก็หมดลงแล้ว คุณก็ต้องมาร่วมกับประชาชน แล้วชนะแน่ เอาสิถ้าประชาธิปัตย์มา ผมเชื่อว่าคุณสนธิออกมาแน่นอนงานนี้ เพราะคุณสนธิไม่เคยผิดคำพูด แต่ตอนนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดว่า มันมีแม่ทัพ 2 คนถูกไหมครับ คุณสุเทพเป็นที่นิยมของคน อาจจะมากมายมหาศาลยิ่งกว่าคุณสนธิอีก คุณสนธิไป และตอนนี้อาจจะมีคน คนที่รักก็รักมาก คนที่หมั่นไส้ก็เยอะใช่ไหมครับ อาจจะเป็นผลดีน้อยกว่าด้วยซ้ำ กับการให้คุณสุเทพนำ
ข้อ 2 คนรีเควสกันเหลือเกินว่า ถ้าสนธิ คุณสุเทพอยู่เวทีเดียวกันเกิดอะไรขึ้น รู้ไหมเกิดอะไรขึ้น ระเบิดลง ระเบิดลงครับ ระเบิดลงเวทีครับ

กิตติชัย - คือมีความเป็นไปได้ที่จะเสี่ยงชีวิตกันทั้งคู่

จิตตนาถ - ใช่ เมื่อตัวพ่อมาอยู่ด้วยกัน 2 ตัว ระเบิดลง นอกจากคนเฮแล้ว ยังระเบิดลงไปอีก เอาไหม การที่จะเป็นคนนำม็อบมันไม่ใช่ว่า คือม็อบ หรือการชุมนุมไม่ใช่ว่า ใครก็จะเป็นศูนย์กลางได้ถูกไหมครับ มันก็ต้องเป็นคนที่มีคาแรคเตอร์บางอย่าง คุณสุเทพกับคุณสนธิคาแรคเตอร์คล้ายกัน ถึงได้ใจประชาชน วันนี้คือคุณสุเทพเป็นพระเอก คุณสนธิพร้อมจะสนับสนุนคุณสุเทพ เราก็จะเห็น

กิตติชัย - เราจะเห็นการเคลื่อนไหวของคุณสนธิในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ไหมครับ

จิตตนาถ - อย่าลืมอีกจุดที่คุณสนธิออกไปแล้วอาจจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อม็อบไม่ได้มากเท่าคุณสุเทพ ณ ตอนนี้นะครับ คืออะไร คือว่า อย่างน้อยวันนี้ผมไม่รู้ว่าคุณประยุทธ์ ฟังคุณสุเทพบ้างหรือเปล่า โดยลักษณะทหารชั้นผู้ใหญ่กับคนที่อยู่ในงานการเมืองอาจจะคุยกัน มันต้องแตะมือกันเอาไว้แล้ว คุณสุเทพเขาคุยกันได้ เขาอาจจะไม่ทำตามกันไม่อะไรกันสักอย่างก็อยู่ที่เงื่อนไข วันนี้มันมีเงื่อนไข ผมต้องทำตามคุณ ผมต้องจอยคุณ ไม่แน่ ประชาชน หรือข้าราชการลุกขึ้นมา คุณประยุทธ์อาจจะคุยกับคุณสุเทพ มีแผนบางอย่างก็ได้ แต่ถ้าคุณสนธิมา วงแตกแน่ๆ ทหารผู้ใหญ่ พวกชุดบูรพาพยัคฆ์ ชุดคุณประยุทธ์ คุณอนุพงษ์ ถ้าแป๊ะลิ้มมา กูไม่ยุ่ง แทนที่อาจจะมีแนวร่วมก็อาจจะลำบากขึ้น แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มา ประชาชนมา ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ตามประชาชน มันไม่มีพื้นที่ให้ทหารผู้ใหญ่แอคอาร์ทหรือทำตามความต้องการตัวเองว่า ชอบใครไม่ชอบใคร คุณต้องทำไปตามมติของประชาชนในการขับไล่รัฐบาลกบฏ และในการปฏิรูปประเทศเท่านั้นเอง มันไม่มีทางเลือกอื่น

กิตติชัย - ขออนุญาตถามคุณจิตตนาถคำถามสุดท้ายครับ ภาพที่เราวาดหวังไว้ว่าจะเห็น ประชาชนนำ ข้าราชการพลเรือนตาม ข้าราชการตำรวจทหาร ฝ่ายความมั่นคงตาม เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ 3 วันนี้เรามีโอกาสได้เห็นใช่ไหมครับ

จิตตนาถ - ก็น่าจะมี อย่างที่บอกครับ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ อาจจะมีดราม่าเกิดขึ้น แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มา ผมว่าเห็นร้อยเปอร์เซ็นต์ ยืนยันว่าร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน เพราะว่าเป็นการรองรับสถานะของประชาชน และผลักรัฐบาลรับรองสถานะรัฐบาลว่าเป็นกบฏชัดเจน แล้วก็ เป็นตัวการันตีให้กับข้าราชการว่าไม่มีการเลือกตั้งด้วย แล้วก็มีการปฏิรูปทางการเมือง ทุกคนวินหมดร้อยเปอร์เซ็นต์

กิตติชัย - ก็อย่างที่คุณจิตตนาถบอกไป ว่าตอนนี้ประชาชนก้าวล้ำพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว แต่ยังมีโอกาส

จิตตนาถ - คือก้าวล้ำพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ฏ็ยังเป็นจิ๊กซอลที่สำคัญ เหมือนอย่างนี้ดีกว่า ผมยกตัวอย่าง ตอนนี้เรามีฐานขีปนาวุธอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะใส่หัวรบอะไร เราใส่หัวรบประชาชน เรายิงศัตรูไป อำนาจการทำลายล้าง ศัตรูเขายิงกลับมา ถ้าหัวรบเราเยอะพอแล้วเรามีปริมาณเยอะกว่ามัน เราชนะ แต่เราก็มีโอกาสที่จะบาดเจ็บใช่ไหม หรือเราอาจจะบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย แล้วมีคนกลางมาเคลียร์คือ ทหาร แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างน้อยมาร์ค กรณ์มา หัวรบก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป มีความรุนแรงมากขึ้นแล้ว โอกาสที่จะชนะสูงขึ้น อาจจะมียิงตอบโต้บ้างแต่สูงขึ้น อีกฝ่ายหนึ่งเริ่มกลับใจมา แต่ถ้าประชาธิปัตย์มา รับรองสถานะแบบนี้ มันคือหัวรบนิวเคลียร์เลย การทำลายล้างมันตู้มเลย

กิตติชัย - จบแน่ๆ

จิตตนาถ - จบข่าวเลย เรียบร้อยเลย

กิตติชัย - ข้าราชการ ตำรวจ ทหารช่วยแน่ๆ

จิตตนาถ - ใช่ ก่อนที่เขาจะตั้งตัวติด ไม่งั้นคุณยื้อกันไป 3 วัน 4 วัน แล้วมันเกิดดราม่า มันเกิดหมาลอบกันเหมือนกับที่เราเคยเจอ มันเกิดการสร้างเรื่องมันเกิดอะไรต่างๆ นาๆ การโยนขี้กันการอะไรกัน แล้วมันจะจบอย่างไร มันต้องกลายเป็นว่า ในที่สุดก็จะมีพระเอกขี่ม้าขาวขึ้นมา ที่เป็นทหารแล้วก็เป็นทหารที่เราก็ไม่รู้จะพึ่งได้ หรืออะไรได้หรือเปล่า เพราะว่าเขามีสิทธิ ณ วันนั้นที่เขาจะทำแล้วไง คุณจะมาโวยวายอะไรไม่ได้แล้วไง เพราะมันเกิดดราม่าขึ้นกับประเทศไทยเรียบร้อยแล้วไง

กิตติชัย - ก็คงเป็นโอกาสครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง หลายคนบอกว่า ตอนนี้จุดเปลี่ยนประเทศไทยนอกจากทางคุณยิ่งลักษณ์ ทางคุณทักษิณต้องตัดสินใจแล้ว ทั้งคุณอภิสิทธิ์ คุณกรณ์ จาติกวณิชเอง ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่จะให้เรื่องทั้งหมดลงเอยอย่างไร เป็นเรื่องที่เราจะต้องติดตามกันใน 3 วันนี้

จิตตนาถ - คือนิดหนึ่งนะครับ ใครจะเกลียดผม ใครจะเกลียดคุณสนธิ ผมไม่สนใจหรอก ผมที่จะต้องออกมาพูดวันนี้ และวันนี้ ค่อนข้างพูดแรง ผมคิดว่าผมพูดเพื่อชาติ เพราะผมไม่อยากให้ใครก็ตามมาชุบมือเปิบกับการต่อสู้ของประชาชนภายหลัง วันนี้ ผมเป็นห่วงคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ผมเป็นห่วงทุกคนที่สู้ในสถานที่ราชการ และเป็นห่วงสวัสดิภาพทุกคนในม็อบ ผมพูดแบบนี้ ผมอยากให้เรื่องจบ โดยมีดราม่าน้อยที่สุด และโดนบิดเบือนเนื้อหาน้อยที่สุดนะครับ

ผมคิดว่า ตอนนี้ประชาชนทุกคนเสียสละออกมามากมายมหาศาลพอสมควร ผมคิดว่าถึงเวลาที่พรรคการเมืองจะต้องเสียสละบ้าง หรืออย่างน้อยคนที่เป็นแบบนี้ เป็นไอดอล เป็นไอคอนของพรรคการเมืองยุคใหม่ อย่างคุณมาร์ค คุณกรณ์ จะต้องเลือกจุดยืนของตัวเองให้ดี อีกหน่อยพอมีการเลือกตั้ง คนเห็นประชาธิปัตย์เสียสละ และตั้งใจปฏิรูปจริงๆ มีเลือกตั้งอีกปี สองปีข้างหน้า ใครจะไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ใครจะไม่อยากให้มาร์ค หรือ กรณ์ เป็นนายกฯ มันมีแต่ได้ แต่ถ้าคุณยังไปรองรับรัฐบาลกบฏอยู่ และผลักให้ประชาชนกลายเป็นกบฏแทน เพื่อที่จะรักษาอำนาจระบบการเมืองเดิม และคุณอ้างว่า เพื่อรอมีอุบัติเหตุทางการเมือง หรือเป็นการแยกกันเดิน เดินสองขา มันไม่มีอะไรให้คุณแยกกันเดิน ณ ตอนนี้แล้ว คุณต้องทำเดี๋ยวนี้แล้ว และเวลายิ่งนาน ยิ่งเหนื่อย ยิ่งมีดราม่า จบภายใน 3 วันนี้เหอะ ผมขอร้อง

กิตติชัย - ครับชัดเจนนะครับ กับสิ่งที่คุณจิตตนาถ พูดกับพวกเราผ่านทางเอเอสทีวีวันนี้ 3 วันนี้ อะไรจะเกิดขึ้น คงต้องติดตามครับ วันนี้ขอบคุณ คุณจิตตนาถมากครับ

จิตตนาถ - ขอบคุณครับ คุณโก้ครับ

กิตติชัย - ช่วงนี้เราต้องกลับไปติดตามสดของเวทีการชุมนุมกันต่อนะครับ วันนี้ผมและทีมงานลากันไปก่อน สวัสดีครับ