“หมอนิรันดร์” เยี่ยมเวที คปท.แนะรัฐบาลลดการเผชิญหน้า ชี้สังคมไทยสูญเสียมากพอแล้ว คปท.แจ้งความเอาผิดผู้สั่งจับรถติดธงชาติ ประกาศเดินขบวนติดธงชาติทั่วกรุง 16 พ.ย.จับมือกองทัพธรรมจัดงานเฉลิมพระเกียรติในหลวง 5 ธันวาฯ ส่วนเวทีผ่านฟ้า แกนนำยังผลัดขึ้นปราศรัย มวลชนจากอยุธยามาสมทบอีก
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ถนนราชดำเนินนอก ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก โดยเมื่อเวลา 14.20 น. นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กสม.พร้อมด้วย น.ส.มนชนก พรหมรัตน์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเฝ้าระวังและปกป้องสถานการความรุนแรงที่อาจมีผลกระทบทางการเมือง ได้เดินทางมาสังเกตการณ์พื้นที่ชุมนุมของ คปท.
จากนั้น นพ.นิรันดร์ ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ตอนนี้ มีความสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุม ขณะนี้สังคมไทยสูญเสียมากพอแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลความเรียบร้อย และต้องยอมรับความเห็นต่างของประชาชนในการกำหนดนโยบายและการออกกฎหมาย โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ในช่วง 4-5 ปี พบว่า คนไทยมองคนที่มีความเห็นต่างเป็นศัตรู คิดเข่นฆ่ากัน ก่อให้เกิดความรุนแรง ดังนั้น กสม.จึงเข้ามาประสานระหว่างผู้ชุมนุม 3กลุ่มบนถนนราชดำเนิน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มีโอกาสพูดคุย ไว้วางใจกันและกัน ปกป้องไม่ให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรง
จากนั้นเวลา 16.00 น.นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท.พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.พร้อมทีมทนายความ นำมวลชนจำนวนหนึ่งเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมรถยนต์ที่ติดธงชาติที่สร้างความปั่นป่วน ที่ สน.นางเลิ้ง
นายนิติธร กล่าวว่า การออกคำสั่งมีความหมายที่เกินเลย เป็นการเหยียดหยามธงชาติ แยกแยะไม่ออก การไปร้องทุกข์ครั้งนี้เพื่อให้ตำรวจสอบสวนว่าคนที่ออกประกาศ มีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ พ.ร.บ.ธง พ.ศ. 2522 ตามมาตรา 54 ถือเป็นการต่อต้านสัญลักษณ์ที่เป็นธงชาติของไทย ที่มีผู้รักษาการตามกฎหมาย คือ นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวนให้ได้ว่า นายกรัฐมนตรี มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำสั่งดังกล่าวหรือไม่
“เพื่อยืนยันว่าธงเป็นสัญญลักษณ์ของไทย ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) จะเชิญชวนให้มาชุมนุม และรณรงค์ติดธงชาติให้ทั่วกรุงเทพฯ และหากพรุ่งนี้ไม่มีธุระ ขอให้โดยสารโดยรถไฟฟ้า และ คปท.จะเคลื่อนขบวนไปทุกเส้นทาง เพื่อไปติดธงชาติให้ทั่วกรุงเทพฯ และในวันต่อไป คปท.จะนำธงประจำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ออกรณรงค์ติดให้ทั่วกรุงเทพฯ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า การเดินขบวนแต่ละครั้งของ คปท.จะไม่ทำให้เกิดความปั่นป่วน เพราะเราประกาศก่อนล่วงหน้าชัดเจน” นายนิติธร กล่าวและว่า คปท.ยังขอเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มกำลังดูแลพี่น้องประชาชนที่ออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล ในช่วงคืนเทศกาลลอยกระทง ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ เป็นพิเศษ เพื่อป้องกันกลุ่มบุคคลเข้ามาจุดพลุหรือระเบิด สร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่การชุมนุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงว่าจะขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดถนนราชดำเนิน ออกจากพื้นที่เพื่อการจราจร ให้รัฐบาลจัดงานเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธ.ค. นั้น นายนิติธร กล่าวว่า หากมีหมายกำหนดการ มีการเสด็จพระราชดำเนินในเส้นทางถนนราชดำเนิน คปท.ก็พร้อมจะเปิดเส้นทางให้ขบวนเสด็จฯผ่านในวันดังกล่าว แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่สร้างข่าวโดยเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือทำลายการชุมนุมตามสิทธิรัฐธรรมนูญของประชาชน และหากไม่มีหมายกำหนดเสด็จพระราชดำเนินผ่านถนนราชดำเนิน ตามที่ ศอ.รส.กล่าวอ้าง ทาง คปท.และกองทัพธรรมมูลนิธิ ก็จะร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติที่บริเวณนี้
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของ คปท.ที่แยกมัฆวาน ถนนราชดำเนิน ในช่วงบ่ายได้มีกลุ่มคนไทยรักชาติต้านคนโกงชาติ และกลุ่มเกษตรกรชาวนาภาคอีสาน จำนวน 500 คน เดินทางมาสมทบ ส่วนการศรัยเน้นการโจมตีนโยบายของรัฐบาล และชูเรื่องการปฏิรูปประเทศไทย สลับกับการแสดงดนตรี ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
อีกด้านหนึ่งที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. กลุ่มกองทัพธรรม และภาคีเครือข่าย 77 จังหวัด ที่เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ในช่วงค่ำวันนี้ยังเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย มวลชนได้เข้ามาร่วมฟังการปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลการจราจรตลอดถนนเส้นราชดำเนินค่อนข้างติดขัด เพราะมีการเคลื่อนไหวจากมวลชนหลากหลายกลุ่มที่เคลื่อนไปสมทบกับเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับกิจกรรมบนเวที กปท.ยังคงมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาล และระบอบทักษิณ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมือง รวมทั้งชี้แจงให้ความรู้ความเข้าใจในระบบการศึกษาของไทย
ขณะที่เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาได้มีมวลชนจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ในนาม “กลุ่มคนเสื้อแดงกลับใจ” ขึ้นเวทีมาแสดงจุดยืนคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และโจมตีนโยบายที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่พวกตน