xs
xsm
sm
md
lg

“นิติธร” เมินล้มรัฐบาล แต่ไล่รัฐบาล พร้อมรับมือตำรวจทุบม็อบ - “อดุลย์” ดอดเจรจาเย็นนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ที่ปรึกษา คปท.ยันไม่ได้ล้มรัฐบาล แต่ไล่รัฐบาล ชี้ประชาชนทนไม่ได้กับความชั่วร้ายของรัฐบาล และความเลวร้ายของรัฐสภา อีกด้านปูดตำรวจประชุมสลายม็อบ แต่ไม่น่าทำวันนี้ มีขบวนเสด็จตอนบ่ายสาม รอง ผบช.น.ดอดเจรจาเย็นนี้ เผยวันตัดสินศาลโลกเตรียมติดตั้งจอทีวีใผ้ผู้ชุมนุมได้ชม ลั่นไม่ยอมรับเสียดินแดน รัฐบาลต้องไปทันที พบระหว่างแถลงข่าวตำรวจชิงเปิดเพลงใส่เครื่องขยายเสียงก่อกวน

วันนี้ (8 พ.ย.) ที่ถนนราชดำเนินนอก ตรงข้ามกองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.30 น. เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย นำโดยนายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน และนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายอุทัยกล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีผู้ใหญ่แจ้งมาว่าจะมีการเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งได้แจ้งผู้ชุมนุมให้ทราบแล้ว และทุกคนไม่ยอมให้มีการสลายการชุมนุมแน่นอน สำหรับกิจกรรมในวันนี้มีกลุ่มนักศึกษาแต่งกายชุดผีจีนเพื่อประท้วงการทำหน้าที่ของ ส.ว. โดยเฉพาะนายนิคม ไวรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ที่รับใบสั่งจากระบอบทักษิณในการคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อลดกระแสการชุมนุม

ด้านนายนิติธรกล่าวว่า การขับไล่รัฐบาลดำเนินการตามแถลงการณ์ฉบับที่ 2 และนำมาสู่การเคลื่อนขบวนจากแยกอุรุพงษ์มายังถนนราชดำเนิน เพื่อที่จะสื่อสารกับรัฐบาลโดยตรงและรัฐสภา โดยไล่รัฐบาลและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และวันนี้ก็ไล่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ส่วนเรื่องการสลายการชุมนุม มีการประชุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนที่บอกข่าวก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เราระวังและเตรียมพร้อม แต่เผอิญว่าวันนี้มีขบวนเสด็จจะมาที่อาคารสหประชาชาติเวลา 15.00 น. ก็อาจจะต้องล้มเลิกไป

อย่างไรก็ตาม หากจะสลายการชุมนุมเราก็พร้อมที่จะรับสถานการณ์ เราบอกแล้วว่าเราชุมนุมแบบสันติวิธี ฉะนั้นถ้าจะสลายการชุมนุมวันนี้ ทราบข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก็จะเดินทางเข้ามาชุมนุม และจะชุมนุมใหญ่วันที่ 10 พ.ย. ถ้าบ้านเมืองนี้ใช้เสรีภาพในการชุมนุมไม่ได้ ต้องสลายให้หมด แล้วเราเลือกมาอยู่ใกล้ชิดตำรวจนั้นเราคาดหวังว่าเราจะได้รับความปลอดภัย ถ้าประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัย รัฐบาลก็ไม่ควรได้รับความปลอดภัยเหมือนกัน

ส่วนพฤติกรรมของรัฐบาลในขณะนี้ วันนี้ก็เห็นแล้วว่ามีการผ่านร่างแก้ไขมาตรา 190 เจตนาชัดเจนว่าต้องการตัดการมีส่วนร่วมของประชาชนออกไป ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะไปคัดค้านรัฐบาลในการทำสนธิสัญญาต่างๆ ในอนาคต โดยเฉพาะด้านการลงทุนและพลังงาน ส่วนพฤติกรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงให้เห็นชัดเจนว่าที่ผ่านมาปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่อง เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร แต่พฤติกรรมก็ออกมาสั่งการได้ทั้งหมด ฉะนั้นธงก็คือขับไล่รัฐบาล ตนคิดว่าเราจะไม่ชุมนุมใช้ระยะเวลานาน จะใช้ระยะเวลาสั้นๆ เพราะไม่อยากรบกวนผู้ชุมนุมที่มาจากต่างจังหวัด ไม่อยากรบกวนการจราจรของประชาชนที่ต้องทำงาน ถึงเวลาเราก็จะไปให้ถึงที่ ส่วนช่วงเย็น หลังเวลา 18.00 น. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ประสานงานจะขอเจรจากับทาง คปท.อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าทราบเวลาที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ชุมนุมต้องการให้รัฐบาลยุบสภาหรือไม่ นายนิติธรกล่าวว่า ตนไม่สนใจวิธีการของรัฐบาล วิธีการของตนคือการไล่รัฐบาล ซึ่งตนไม่ยอมรับรัฐสภาชุดนี้และรัฐบาลชุดนี้ เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะตัดสินใจว่าจะดูแลบ้านเมืองอย่างไร ดูแลประชาชนอย่างไร เมื่อถามว่ามีเป้าหมายล้มรัฐบาล ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น นายนิติธรกล่าวว่า ตนไม่ได้ล้มรัฐบาล ตนไล่รัฐบาล ตนมั่นใจว่าตนทำสำเร็จ คิดว่าจะได้รับความร่วมมือจากประชาชน วันนี้รัฐบาลทำกับประเทศนี้เกินไป ทำกับประชาชนมากเกินไป สิ่งหนึ่งที่ต้องถามคือ ได้ข่าวว่ามีกองกำลังต่างชาติเข้ามา ซึ่งจะทำหนังสือถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่าปล่อยให้เล็ดรอด มีกองกำลังต่างชาติเข้ามาได้อย่างไร และทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่าจะจัดการอย่างไร

เมื่อถามว่า ข้อเสนอของนายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา นายนิติธรกล่าวว่า เป็นเรื่องของนายวุฒิศักดิ์กับรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับตน ตนมาไล่รัฐบาล ตนคิดว่าการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบสำหรับประเทศไทยในขณะนี้ ถ้าจะเลือกตั้งประชาชนต้องแก้รัฐธรรมนูญ ต้องมีรัฐธรรมนูญสำหรับประชาชน เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลลดระแสด้วยการถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทั้งหมด จะมีผลต่อจำนวนผู้ชุมนุมแค่ไหน นายนิติธร กล่าวว่า ตนคิดว่ามวลชนที่ออกมาแม้จะเห็นภาพว่าเป็นการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่เจตนาคือทนไม่ได้กับความชั่วร้ายของรัฐบาล ทนไม่ได้กับความเลวร้ายของรัฐสภา ฉะนั้นตนคิดว่าประชาชนโดยส่วนใหญ่ขณะนี้ไม่ยอมรับการบริหารงานของรัฐบาล ไม่ยอมรับการตรากฎหมายของรัฐสภา

เมื่อถามว่า คปท.ทำอย่างไรให้ประชาชนได้เห็นภาพเหล่านี้ เพราะที่ผ่านมา คปท.ชี้แจงไม่ชัดเจนเท่าที่ควร นายนิติธรกล่าวว่า คปท.ดำเนินกิจกรรมเป็นขั้นเป็นตอน คปท.ต้องการแสดงเสรีภาพบนถนน ฉะนั้นในช่วงแรกของ คปท.จะเป็นช่วงที่ปลุกชี้ให้เห็นถึงเสรีภาพ สิทธิของประชาชนที่จะโต้แย้งกับรัฐบาลได้ แล้วก็มีเนื้อหาเพียงเล็กน้อย หลังจากนี้หลังเวทีที่จะเป็นการปฏิรูปประเทศ ฉะนั้นเนื้อหาก็จะเพิ่มเติมขึ้นมา ส่วนเนื้อหาในส่วนอื่นๆ ก็จะเห็นว่าการชุมนุมไม่ได้มี คปท.ที่เดียว มีเวทีของนายสุเทพ เทือกสบุรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ มีเวทีของกองทัพธรรม ซึ่งหลายส่วนก็ให้ข้อมูลไปแล้ว นอกจากนี้ คปท.ยังมีการพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจ ประชาชนทุกสาขาอาชีพ นักศึกษาทุกสถาบัน ฉะนั้นเรามั่นใจว่าประเทศนี้ประชาชนคงไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้แล้ว

เมื่อถามว่า ได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยผู้ชุมนุมอย่างไร นายนิติธรกล่าวว่า เราก็ดูแลตามปกติ เราอยู่ในสันติวิธี เมื่อถามว่า ในเมื่อการยุบสภาไม่ใช่ทางออก ทางออกที่เหลือคือการลาออกใช่หรือไม่ นายนิติธรกล่าวว่า คิดว่ายุบสภาแล้วอะไรจะเกิดขึ้น วงจรการเมืองเปลี่ยนไหม คิดว่า ส.ส.ที่ทำชั่วกับบ้านเมืองจะกลับเข้ามาในสภาได้ไหม รัฐบาลชั่วๆ จะกลับเข้ามาได้ไหม ตนคิดว่าเวลานี้มันเป็นเรื่องของการปฏิรูปประเทศ ถ้ารัฐบาลอยากแก้รัฐธรรมนูญตนก็เสนอว่าประชาชนทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ฉะนั้นก็ต้องแก้กติกาบ้านเมืองก่อน เมื่อถามว่า ในการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารจะเคลื่อนไหวอย่างไร นายนิติธรกล่าวว่า คปท.จะยังปักหลักอยู่ที่นี่ แต่จะเชิญชวนประชาชนมาร่วมรับชมการตัดสินคดีที่สนามมวยราชดำเนิน ซึ่งจะติดตั้งจอและทีวีต่างๆ เมื่อถามว่าพร้อมที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลโลกหรือไม่ นายนิติธร กล่าวว่า ถ้าเสียดินแดนก็ไม่ยอมรับ ถ้าเสียดินแดนก็เป็นเพราะรัฐบาล เพราะฉะนั้นไม่ยอมรับเสียดินแดนและไม่ยอมรับรัฐบาลด้วย ถ้าออกมาแล้วเสียดินแดน รัฐบาลก็ต้องไปทันที ตนคิดว่าการยอมรับคำตัดสินศาลโลกไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลคนเดียว เป็นเรื่องของประชาชนทั้งประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายนิติธรแถลงข่าว กำลังตำรวจที่ปักหลักอยู่บนเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ได้เปิดเครื่องขยายเสียงเป็นเพลงมาร์ชพิทักษ์สันติราษฎร์ ซึ่งมีเสียงดังไปถึงหลังเวทีซึ่งมีระยะห่างประมาณ 300 เมตร เพื่อก่อกวนการแถลงข่าวดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเพลงเพื่อก่อกวนการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา จากนั้นนายนิติธรพร้อมด้วยผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งได้เดินไปยังแท่นแบริเออร์บนสะพานมัฆวานรังสรรค์ที่ตำรวจนำมาติดตั้ง





















กำลังโหลดความคิดเห็น