โฆษกประชาธิปัตย์ลั่นพร้อมป้องกันตัวหากมีม็อบปิดพรรค ถาม “ปลอด” อยากโดนหน้าบ้านหรือ อ้างพรรคไม่ได้ชุมนุม ไม่ทำทำผิด กม. ไล่ไปส่องกระจก เชื่อใช้เวลา 180 วันล้างสมองชาวบ้าน จี้นายกฯ เลิกสับขาหลอก เตือนสั่งโจกแดงข่มขู่ศาลระวังไม่มีแผ่นดินอยู่ แถมใช้ช่อง 11 เป็นเอเชียอัพเดท 2 ด้านรองโฆษกฯ โวย ผบช.น.ดูแลม็อบมาตรฐานเดียวหรือไม่ วางแผน รปภ.หน้าศาลยังไง ซักแจกเหรียญตำรวจทำเหมือนปลุกใจเข้าสงครามหรือไม่
วันนี้่ (15 พ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ เตือนให้พรรคประชาธิปัตย์ระวังจะมีม็อบมาปิดพรรคว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่กลัว ถ้ามาปิดจริงก็ต้องป้องกันตัวเอง นายปลอดประสพพูดอย่างนี้คงอยากให้จะม็อบไปปิดหน้าบ้านตัวเองหรือไม่ ยืนยันว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นไม่ใช่การชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ และยังไม่มีการทำผิดกฎหมาย ผิดกับม็อบคนเสื้อแดงที่มีการเผาบ้านเผาเมือง อยากให้นายปลอดประสพกลับไปส่องกระจกดูตัวเองด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษรกรม มีการติดป้ายสนับสนุนประกาศนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับบ้าน จึงถือว่ารัฐบาลจะใช้เวลา 180 วัน ในช่วงแช่เย็นร่างกฎหมายนี้เพื่อล้างสมองประชาชนเมื่อถึงเวลาก็จะเร่งผลักดันกฎหมายทันที จึงทำให้คนไม่ไว้ใจรัฐบาล เรียกร้องให้ฆ่าร่าง พ.ร.บ.นี้ให้ตาย
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และรมว.กลาโหม ควรเลิกสับขาหลอก เลิกตีหลายหน้า วันนี้มาแสดงหน้าแข็งกร้าวผ่านทางนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำคนเสื้อแดง ประกาศชุมนุมคนเสื้อแดง เพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าใช้วิธีนี้รับรองได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่มีแผ่นดินอยู่ เพราะเชื่อว่าในวันนั้นจะมีคนมาให้กำลังใจศาลรัฐธรรมนูญจำนวนมาก อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ และขอตั้งข้อสังเกตถึงสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ที่เปิดให้รองโฆษกพรรคเพื่อไทยสัมภาษณ์นายจตุพร ในหัวข้อเพาเวอร์ออฟเรด ด่าผู้ชุมนุม วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ทราบว่าปล่อยให้คนเอแดงออกทีวีฟรีได้อย่างไร หรือว่าช่อง 11 กลายเป็นเอเชียอัพเดท 2 ไปแล้ว
ด้านนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ตอบคำถามสังคมเกี่ยวกับมาตรฐานการดูแลผู้ชุมนุมในพื้นที่ต่างๆ ว่าเป็นมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ เพราะมีการส่งตำรวจดูแลความเรียบร้อยของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน ทางด่วนอุรุพงษ์ หรือที่อื่นๆ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมที่เมืองทองธานีเห็นได้ชัดว่าการควบคุมพื้นที่และการดูแลรักษาความเรียบร้อยในบริเวณสะพานมัฆวานฯ และถนนราชดำเนิน มีความพยายามที่จะควบคุมและทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความไม่สะดวกเพื่อให้ร่วมชุมนุมลำบาก ผิดกับการดูแลที่เมืองทองธานี มีการเปิดโอกาสให้มวลชนหลั่งไหลไปชุมนุมได้ง่ายๆ หากไม่มีการสนับสนุนหรือมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน ก็ต้องตอบปัญหาเรื่องนี้ให้ชัดเจน จะอ้างว่ามีดีกรีการชุมนุมที่แตกต่างกันไม่ได้ เพราะที่ถนนราชดำเนิน ทางด่วนอุรุพงษ์ หรือสะพานมัฆวานรังสรรค์ ดำเนินการมาระยะเวลาหนึ่งแล้วโดยไม่มีความรุนแรงใดๆ ผิดกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ส่อว่าจะก่อความรุนแรง
นายณัฏฐ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับประเด็นที่มา ส.ว.ว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ซึ่งมีทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนและคัดค้านเดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องตอบคำถามให้ชัดเจนว่าทั้งสองกลุ่มจะได้รับความสะดวกในการชุมนุมหน้าศาลอย่างไร บช.น.ต้องมีวิธีการบริหารจัดการให้ประชาชนเข้าพื้นที่ได้อย่างเท่าเทียม และป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น เพราะหากรับนโยบายสร้างความปรองดองอย่างที่นายกรัฐมนตรีพูด ก็ไม่ควรให้สัมภาษณ์ว่าจะจัดทำเหรียญที่ระลึกให้กับตำรวจที่มาควบคุมฝูงชน หรือเหรียญตำรวจกล้ามัฆวาน 56 ก็ต้องตอบให้ชัดเจนว่ากรณีนี้จะสร้างภาวะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้สึกว่าการทำงานครั้งนี้เสมือนกับการเข้าร่วมสงครามหรือไม่ เพราะการทำเหรียญที่ระลึกออกมา แม้จะอ้างว่าเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ แต่คิดว่าการไปตรวจเยี่ยมแจกอาหารเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นกำลังใจที่พวกเขาได้รับเพียงพออยู่แล้ว หรือถ้าไม่เลิกทำก็เขียนต่อท้ายในเหรียญด้วยว่า “มีวันนี้เพราะภาษีประชาชน” จะได้เกิดความภาคภูมิใจได้อย่างแท้จริง
“การทำสัญลักษณ์เหรียญต่างๆ ออกมาในลักษณะนี้ อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคิดได้ว่า การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้เป็นกรณีเฉพาะกิจที่จะมีความรุนแรงเป็นพิเศษและต้องได้รับสัญลักษณ์เหรียญตราต่างๆ เพื่อแสดงถึงความเป็นวีรบุรุษถือเป็นสถานการณ์ที่เกินจริงและสะท้อนแนวคิดของ ผบช.น.ว่าไม่เข้าใจกฎหมาย แม้จะเป็นผู้รักษากฎหมายก็ตาม เพราะการชุมนุมที่มัฆวาน ราชดำเนิน หรือแม้แต่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ในเบื้องต้นถือเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีสิทธิเข้าร่วม แต่การพยายามยกระดับการป้องกันและแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากเป็นพิเศษแสดงให้เห็นว่าไม่เข้าใจกฎหมายอย่างถ่องแท้” นายณัฏฐ์กล่าว
