xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ยื่นซักฟอกนายกฯ วันนี้ จี้ตอบเองอย่าโบ้ยรมต. แนะใช้ 4 แนวทางสู้พระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม พรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“ณัฏฐ์” เผยฝ่ายค้านยื่นซักฟอกนายกฯ และ รมว.กห.วันนี้่ จวกสร้างมารตรฐานแย่ตัวเองโดนอภิปรายแต่กลับมอบหมายคนอื่นพูด เชื่ออีกหน่อยคงให้ข้าราชการตอบ จี้มาแจงเอง พร้อมยื่นถอดพ่วง 4-5 รมต. ซัด “ยิ่งลักษณ์” ชิ่งดูงานเมืองนอกสะท้อนไม่ให้ความสำคัญนิติบัญญัติ ด้าน “ชวนนท์” แนะรัฐใช้ 4 แนวทางรุกสู้เขมรต่อรองเขาพระวิหาร

วันนี้ (15 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (15 พ.ย) เวลาประมาณเที่ยง พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์บอกว่าจะตอบคำถามด้วยตัวเอง ยกเว้นกรณีที่เกี่ยวข้องกับงานที่มอบหมายให้ผู้อื่นดูแลก็จะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงแทนนั้น ตนอยากทำความเข้าใจกับนายกรัฐมนตรีให้ชัดเจนว่า กำลังสร้างมาตรฐานที่แย่สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหากมีการอภิปรายนายกฯ แต่กลับมอบหมายให้รัฐมนตรีตอบคำถามแทน ตนเชื่อว่าในอนาคตก็จะมีรัฐมนตรีทำตาม คือ ให้ข้าราชการมาตอบคำถามแทน ในที่สุดกระบวนการตรวจสอบของรัฐสภาจะกลายเป็นการอภิปรายข้าราชการแทน สิ่งที่นายกฯ ต้องทำคือ นำข้อมูลที่มีทั้งหมดมาศึกษาให้แตกฉาน เพื่อตอบคำถามด้วยตัวเองจึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง นายกฯ เข้าใจการทำงานของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติค่อนข้างคลาดเคลื่อน ขอให้กลับไปทบทวนและปรับวิธีการทำงานด้วยการไปนั่งอ่านรัฐธรรมนูญให้เข้าใจว่ากระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี คนเป็นนายกรัฐมนตรีควรทำอย่างไร

นายณัฏฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ฝ่ายค้านจะยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 ต่อประธานวุฒิสภา เพื่อส่งต่อไปยัง ป.ป.ช.โดยเบื้องต้นมีรัฐมนตรีประมาณ 4-5 คน ส่วนการอภิปรายจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก แต่การยื่นถอดถอนจะเป็นการยื่นในข้อหาที่รัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ทำเกินหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ส่วนที่นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาลกำหนดให้ฝ่ายค้านอภิปรายวันที่ 22-24 พ.ย. 56 โดยอ้างว่าวันที่ 25 พ.ย. นายกรัฐมนตรีต้องไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศนั้น นายณัฏฐ์กล่าวว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นว่านายกฯไม่เข้าใจบทบาทตัวเองและไม่ให้ความสำคัญต่อกระบวนการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยก่อนหน้านี้จะเห็นได้ชัดว่าเมื่อนายกห่วงสถานภาพของตนเองว่าจะมีความรุนแรงหรือมีความสั่นคลอนต่อตำแหน่งหน้าที่ก็สั่งยกเลิกภารกิจต่างๆ แล้วมานั่งเฝ้าสังเกตการณ์การชุมนุมของประชาชนในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่พอมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจกลับอ้างว่าติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ และจะมาอ้างว่าสภาเป็นผู้กำหนดเวลาเองไม่ได้ เพราะก่อนที่วิปรัฐบาลจะกำหนดวันต้องคุยกันในพรรคเพื่อไทยก่อน

“ดังนั้น ถ้านายกฯจะแสดงความกล้าหาญก็ควรยกเลิกภารกิจในต่างประเทศทุกกรณี และให้เวลาสภาอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกำหนดเวลาว่าเป็นกี่วันแต่เปิดอภิปรายโดยไม่จำกัดเวลาและอยู่ตอบคำถามสมาชิกที่อภิปรายทุกคนจนเป็นที่พอใจค่อยลงมติ จึงจะเป็นการสะท้อนว่านายกฯพร้อมรับการตรวจสอบ” นายณัฏฐ์กล่าว

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า หลังจากที่ศาลโลกมีคำพิพากษาในคดีปราสาทพระวิหาร ทำให้ไทยได้เปรียบในหลายประเด็นจึงอยากให้รัฐบาลเป็นฝ่ายรุกเดินหน้าต่อสู้ในคดีนี้ ใน 4 ประเด็น คือ 1. ไทยไม่ควรมุ่งสู้เฉพาะพื้นที่ปราสาทพระวิหาร แต่ควรต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เช่นพื้นที่ภูมะเขือ หรือพื้นที่บริเวณ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่ศาลยังไม่ได้พิพากษาว่าอยู่ในพื้นที่ของกัมพูชา ดังนั้น ไทยสามารถอ้างสิทธิได้เต็มที่ในพื้นที่ดังกล่าว 2. รัฐบาลต้องระวังในเรื่องการถ่ายทอดคำพิพากษาลงบนพื้นที่ เพราะคำพิพากษามีการอ้างถึงพื้นที่ตอนเหนือของปราสาทพระวิหาร และยังมีการระบุว่าไม่สามารถที่จะถ่ายทอดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ลงบนพื้นที่จริงได้ ทำให้ไทยได้เปรียบโดยทางกัมพูชาต้องมาเจรจากับเราเพื่อกำหนดพื้นที่จริง รัฐบาลจึงควรมองมุมกลับเพื่อฉกฉวยความได้เปรียบนี้ในการเจรจา

นายชวนนท์กล่าวว่า 3. แม้ว่าในแผนที่ 1 ต่อ 200,000 จะระบุชัดว่าปราสาทพระวิหารอยู่ในกัมพูชา แต่โครงสร้างและองค์ประกอบอื่น เช่น สระตราว สถูปคู่ โครงสร้างพระวิหารยังระบุไม่ชัดว่าอยู่ในพื้นที่กัมพูชา ดังนั้น รัฐบาลไทยควรเสนอตัวขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันกับกัมพูชาต่อคณะกรรมการมรดกโลกและยูเนสโก ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหา ในการที่กัมพูชายื่นปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว และ 4. นายกฯ ควรแสดงความจริงใจในการปกป้องประเทศด้วยการถวายคำแนะนำแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอทูลเกล้าฯ พระราชทานร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 กลับมา และใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ฉบับเดิมไปพลางก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น